งานวิจัยของ Pane Andov ได้มีการแปลเป็นภาษาไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ พร้อมภาพประกอบ และสามารถโหลดเป็น PDF ไปอ่านได้ที่นี่
P.1
Pane “Astral Walker” Andov
2012
การค้นหา คำตอบ
P.2
สวัสดีครับพี่น้องทั้งชายและหญิง
ผมชื่อ Pane “Astral Walker” Andov ก่อนอื่นผมอยากจะบอกพวกคุณว่า มี 2 วิธีในการสร้างไฟล์นี้ขึ้นมา จริงๆแล้วผมสามารถสกัดกั้นข้อมูลที่แปลกประหลาดน่าพิศวงแต่เป็นความจริงนี้ได้ นี่เป็นวิธีง่ายๆที่ผมสามารถทำได้ ถ้าผมแค่หาบรรยากาศสบายๆสื่อสาร เล่าเรื่องเฉพาะที่ไม่ได้ท้าทายข้อโต้แย้งในความเชื่อของผู้คนมากนัก หรือ อีกวิธี ผมจะบรรยายอย่างเต็มรูปแบบ ในหลายๆมิติ ผู้คนสามารถสื่อสารได้เต็มรูปแบบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง กระตุ้นให้พวกเขาได้รับรู้ความจริงที่อาจจะทำให้เกิดความเครียด
อย่างไรก็ดีผมเลือกวิธีการอย่างหลัง มันไม่ใช่สำหรับผมที่จะแก้ไขข้อมูลให้แก่ผู้อ่านหรือสำหรับผู้อ่านที่จะแก้ไขข้อมูลความจริงด้วยตัวเขาเอง
มันไม่ง่ายสำหรับผมที่จะพูดสิ่งเหล่านี้ แต่มันคือข้อมูลที่สำคัญมากๆที่คุณเคยพบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาแล้ว และเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ผมอยากขอให้คุณตั้งใจอ่านให้ดี สำหรับคุณที่รู้จักที่มาที่ไปของผม ว่าผมรู้ได้อย่างไร หรือผมรู้อะไรบ้างก็คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากแล้วก็ขอให้ตั้งใจศึกษาข้อมูลให้ตรงประเด็นที่สุด ที่ผ่านมาผมเคยถูกมนุษย์ต่างดาวนำพาตัวไปและติดต่อสื่อสารกันมากมายหลายครั้งตั้งแต่อายุ 7 ขวบ แต่ผมจะไม่ขอกล่าวรายละเอียดปลีกย่อยในที่นี้ และตอนนี้ DNA ของผมได้ถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ในโครงการแห่งดวงดาว สำหรับ 30 ปีที่ผ่านมาผมได้ไปท่องดวงดาวต่างๆในอวกาศที่ไกลมากจากโลกของเราและติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว จากการไปท่องมาทั้งหมดของผม ผมระลึกได้ว่าสายพันธุ์มนุษย์กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างยิ่งใหญ่ จิตวิญญาณมากมายจะกลับเข้าสู่ดวงดาวและบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญกำลังจะเกิดขึ้น
P.3
ในที่นี้จะทำให้คุณมองเห็นภาพกว้างๆก่อน เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
-ทางช้างเผือก,ดาวเทียมจันทรา,และยักษ์สีแดง
-ปฏิทินการนับยาวของเผ่ามายัน(ดวงอาทิตย์)
-ปรากฏการณ์ ครอปเซอร์เคิล
-เราคือใครและโครงสร้าง DNA
-เมื่อร่างกายมนุษย์ตายลงไป
-เกมส์นี้จะเล่นอย่างไรโดยฝ่ายอำนาจมืด
-รังสีคอสมิกโจมตีระบบสุริยะจักรวาล
-ยักษ์โบราณและ DNA
-อดีตที่ถูกลืมและสงครามนิวเคลียร์โบราณบนโลกและดวงจันทร์
-ประสบการณ์ส่วนตัวของผมกับมนุษย์ต่างดาว
-พวกเราต้องทำอะไร
-บทความสรุป
เมื่อคุณมองเห็นภาพที่กว้างขึ้นคุณจะเข้าใจว่าทำไมไม่มีใครบอกเรื่องเหล่านี้แก่คุณเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริง
P.4
กาแล็กซี่ทางช้างเผือก,ดาวเทียมจันทรา,และยักษ์สีแดง
เมื่อประมาณ 26,000 ปีที่ผ่านมา ที่จุดศูนย์กลางของกาแลกซี่ทางช้างเผือก มีพลังงานมหาศาลถูกปลดปล่อยออกมา(ใหญ่โตมโหฬารและเปล่งแสง)ลักษณะเป็นคลื่นวงแหวนแผ่ขยายตามขวางกาแลกซี่จากจุดศูนย์กลางถึงขอบด้านข้าง ระบบสุริยะจักรวาลของเราก็อยู่ที่ขอบด้านข้างของกาแลกซี่ทางช้างเผือก และห่างจากจุดศูนย์กลางประมาณ 26,000 ปีแสง สำหรับมนุษย์แล้วนี่เป็นระยะทางไกลแสนไกล สุดที่จะไปถึง แต่สำหรับ รังสีคอสมิกภาพที่มองเห็น มันเหมือนกับสลักกลอนแห่งสายฟ้าตัดขวางผ่านท้องฟ้า การปลดปล่อยพลังงานสั่นสะเทือนได้มีผลกระทบต่อกาแลกซี่ทั้งหมด รวมทั้งจุดเล็กๆที่เราเรียกว่าสุริยะจักรวาลด้วย ในไม่ช้านี้มันจะเข้ามาถึงพวกเราและกระทบเราด้วยความแข็งแกร่งเต็มที่
ในปี 1999 นาซ่า ได้ปล่อยดาวเทียม จันทราหอสังเกตการณ์ x-ray ที่สามารถตรวจวัดอวกาศด้วยการ x-ray นี่ก็ทำให้สิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นก่อนหน้านี้สามารถมองเห็นได้ หอสังเกตการณ์ x-ray จันทราถูกสร้างให้สามารถบันทึกลำรังสีคอสมิกที่ถูกขับออกมาจากหลุมดำมหึมาใจกลางกาแลกซี่ทางช้างเผือก ซึ่งลำรังสีนี้มีขนาดใหญ่โตมโหฬารและมีพลังงานคลื่นมหาศาล กระจายออกสู่กาแลกติกเพลน เราต้องเข้าใจว่าการสแกนอวกาศนี้ มนุษย์พึ่งจะสามารถทำอุปกรณ์ที่มีความเที่ยงตรงได้ประมาณ 5 ทศวรรษนี้เอง ก็เหมือนกับเป็นการกระพริบตาบอกสภาพความเป็นจริงของรังสีคอสมิกนั่นเอง ดาวเทียมจันทราบันทึกว่าดาวฤกษ์ที่กำลังเพิ่มขนาดด้วยอิทธิพลของคลื่นพลังงานกำลังเข้าไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างมาก มีการพองตัวของขนาดและต่อมาก็จะขับผิวดาวชั้นนอกออกและขนาดก็จะเล็กลง การคาดการณ์(ดูในภาคผนวกA) สำหรับดวงอาทิตย์แล้วจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เช่นเดียวกัน ทันทีที่มันถูกโจมตีด้วยพลังงานคลื่นก็จะเริ่มมีปฏิกิริยา ปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่ซับซ้อน ก็จะทำให้ดวงอาทิตย์ของเรามีขนาดเพิ่มขึ้นจนกระทั่งกลืนดาวพุธและดาวศุกร์ นี่ก็หมายความว่าดวงอาทิตย์เข้าใกล้โลกอย่างสุดๆแล้ว ดังนั้นบรรยากาศของโลกก็ไม่เหมาะสมสำหรับสิ่งมีชีวิตทางชีววิทยาอีกต่อไป เพราะช่วงอุณหภูมิระหว่างวันจะสูงมากกว่า 800 องศาเซลเซียส และต่ำกว่า -70 องศาเซลเซียส
P.5
(สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของกลไกที่ทำให้ดวงอาทิตย์โตอย่างรวดเร็วและพื้นฐานเล็กน้อยที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับดวงอาทิตย์ดูได้ที่ ภาคผนวก B)
นี่เรื่องราวของเรากำลังจะจบลงแล้วหรือ? จุดจบของทุกชีวิตบนโลกใช่ไหม? ทุกสิ่งทุกอย่างเลยใช่หรือไม่?
มายัน(ดวงอาทิตย์) ปฏิทินการนับยาว
เนื่องจากเป็นที่ชัดเจนว่าพวกเราไม่ใช่อารยะธรรมแรกบนโลก ในที่นี้ถ้าจะให้เข้าใจว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เราจำเป็นต้องย้อนกลับไปดูอารยะธรรมโบราณว่าข้อมูลหลักฐานต่างๆที่ได้ทิ้งเอาไว้ได้มีสัญญาณเตือนอะไรไว้บ้าง หนึ่งในสัญญาณเตือนก็มาจากอารยะธรรมมายันโบราณ สิ่งก่อสร้าง คณิตศาสตร์ และความรู้ทางดาราศาสตร์ และการนับเวลาที่แม่นยำ มีมากกว่าความประทับใจ ในความเป็นจริงมีการทดสอบแล้วว่าวิธีการนับเวลาของพวกเขามีความรอบรู้มากกว่าวิธีการที่พวกเราทำกันในทุกวันนี้เสียอีก หนึ่งในสิ่งที่พวกเขาสร้างและยังคงไม่ถูกทำให้เสียหายโดยผู้พิชิตในการค้นหาทองคำของพวกเขาก็คือ ปฏิทินการนับยาวของมายัน ลักษณะที่ปรากฏคือ หินวงกลมขนาดใหญ่ที่มีรอยสลักเครื่องหมายมากมาย และการบันทึกช่วงเวลา 5,200 ปี มันสิ้นสุดที่วันที่ 21 ธันวาคม 2012 ทำไมพวกมายันหรือใครก็ตามที่มอบปฏิทินนี้แก่พวกเขาไม่นับเวลาหลังจากวันนั้นล่ะ?
วันนั้นเป็นวันที่มาถึงของพลังงานสั่นสะเทือนจาก Hunab Ku (ชื่อผู้สร้างของชาวมายันที่มาจากการเปิดจุดศูนย์กลางกาแล็กซี่ทางช้างเผือก)และอวสานของดวงอาทิตย์ใช่หรือไม่? มีความเป็นไปได้ที่ตอนนั้นจะมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและมีความเฉลียวฉลาดงั้นหรือ ; มนุษย์หรือไม่ใช่มนุษย์ที่มีความรอบรู้ในเหตุการณ์อนาคต? ปฏิทินนับยาวของมายันได้กำลังเตือนผู้คนเหล่านั้นเกี่ยวกับช่วงเวลา 2012 ปี หลังคริสต์ศักราชใช่หรือไม่
P.6
มีสิ่งบ่งชี้ว่าปฏิทินนี้ได้มีผู้มอบให้แก่ชาวมายันโบราณ มนุษย์โอเม็คก็มีปฏิทินเกือบจะเหมือนปฏิทินนี้ พวกแอซเทคและอียิปต์ดั้งเดิมก็มีเช่นกัน ก่อนที่มันจะถูกเปลี่ยนโดยพวกชนชั้นสูงและผู้ปกครอง Masonic Elite เพื่อที่จะเก็บรักษาข้อมูลเป็นความลับ อะไรที่พวกเขาทั้งหมดกำลังนับอยู่?พวกเขาทั้งหมดกำลังมองที่ดวงอาทิตย์และศูนย์กลางกาแล็กซี่นั่นเอง ปฏิทินมีความละเอียดรอบคอบ ตั้งแต่ วัน ชั่วโมง นาที หรือแม้กระทั่ง วินาที คำถามก็คือว่า ใครเป็นผู้สร้างปฏิทินนี้ขึ้นมา ?และพวกเขารู้อะไรบ้าง?
ปรากฏการณ์ครอปเซอร์เคิล
บางทีคำถามทั้งหมดเหล่านี้อาจจะไม่มีคำตอบถ้าไม่มีปากฎการณ์ลึกลับครอปเซอร์เคิล ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาเรามีความตระหนักถึงปรากฏการณ์
ครอปเซอร์เคิล ที่มาจากภูมิปัญญาที่สูงกว่าเรา พวกเขาได้พยายามสื่อสารกับพวกเราโดยการสร้างข้อความพิศวงในครอปฟิลด์ทั่วโลก ตรงกันข้ามกับแนวคิดทั่วไป ครอปเซอร์เคิลไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้น มีข้อมูลเอกสารอ้างอิงตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ที่ผ่านมา และมากกว่า 200 กรณีมีรายงานการพบก่อนปี 1970
ตอนนี้มากกว่า 30,000 ครอปเซอร์เคิลได้ถูกบันทึกไว้โดยกองทัพ บางแห่งมีพื้นที่มากกว่า 200,000 ตารางฟุตและรูปร่างแปลกประหลาดของพวกมันไม่สามารถแทนที่กันได้ พืชเหล่านี้โค้งงอประมาณ 1 นิ้วเหนือพื้นดินและค่อยๆเอียงลงเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่แม่นยำโดยไม่มีความเสียหายทางกายภาพ รอยไหม้ที่ฐานของลำต้น โครงสร้างของเซลล์ถูกปรับเปลี่ยน และคุณสมบัติทางเคมีของดิน ความแตกต่างของรังสีที่บริเวณนั้น การเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า การระเหยไปของน้ำ และขดม้วนได้ การคงรูปอยู่อย่างยาวนาน นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงการวัดผลกระทบทางชีววิทยาต่อมนุษย์ หนึ่งในลักษณะเฉพาะสำคัญของครอปเซอร์เคิล คือการสร้างด้วยแหล่งทรงปัญญา
ที่สามารถควบคุมพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าด้วยความแม่นยำสูง มีรายงานมากเหมือนกันว่ามีคนได้ยินเสียงที่มีลักษณะพิเศษมากระหว่างการฟอร์มตัวของครอปเซอร์เคิล ในความเป็นจริงพบว่าลำต้นไม่มีความเสียหายเลยแต่โค้งงอ ปกติแล้วประมาณ 1 นิ้วเหนือพื้นดินใกล้ๆข้อแรกของพืชเหล่านั้น ในกรณีพิเศษ ลำต้นโค้งงอ
P.7
6 นิ้วจากส่วนบนสุดของหัวเมล็ด ด้วยลักษณะดังกล่าวนี้จึงได้เอาชนะข้อโต้แย้งที่ว่าเป็นสิ่งปลอมแปลงลงได้ เนื่องด้วยแผ่นกระดานหรือลูกกลิ้งในสวนจะทำให้พืชเหล่านี้แบนราบลงไปกับพื้นทำให้เกิดความเสียหายแก่พืช การวิเคราะห์ทางห้องทดลองเปิดเผยว่าโครงสร้างแบบผลึกที่เกิดกับพืชนี้ถูกเปลี่ยนแปลงด้วยแรงกระทำบางอย่าง ลักษณะที่สำคัญคือ DNAได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญต่างจากพืชที่ไม่ได้เกิดครอปเซอร์เคิลนอกจากนี้แรงกระทำนี้ได้ทำให้ครอปเซอร์เคิลมีการสั่นสะเทือนความถี่ด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบข้อมูลใน DNAการวิเคราะห์ทางห้องทดลองพบว่าเมล็ดและขบวนการงอกของเมล็ดพืชที่ได้รับผลกระทบมีการเปลี่ยนแปลงด้วยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าพืชที่ได้รับผลกระทบจะไม่ได้รับความเสียหายใดๆ แรงกระทำนี้ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในกระบวนการขยายพันธุ์ทางธรรมชาติ ทำให้มันชี้ให้เห็นว่าชนิดการเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับรูปแบบข้อมูลใน DNA ของพืช ในเรื่องกระบวนการโค้งงอการวิเคราะห์ทางห้องทดลองนำโดย W.C. Levengood (นักฟิสิกส์ชีววิทยา ที่เป็นที่นับถือใน Michigan) สรุปว่าแหล่งพลังงานในระดับ Microwave ทำให้น้ำภายในพืชเดือด เป็นผลให้เปลี่ยนรูปเป็นไอ สำหรับพวกคุณทั้งหมดที่ต้องการรับฟังข้อมูลการวิจัยมากกว่านี้ (เกี่ยวกับว่าใครกำลังสร้างรูปซับซ้อนเหล่านี้ทั่วโลกและมันหมายถึงอะไร) ผมจะนำเสนอพิเศษที่บริสเบนเร็วๆนี้
สรุป รูปเรขาคณิตมากมายที่พบคือการนับถอยหลังสู่ปี 2012 และการพัฒนาความมีจิตสำนึกของมนุษย์ การศึกษาพบหลักฐานยืนยันว่ามีอย่างน้อยที่สุด 5 สายพันธุ์ที่ไม่ใช่มนุษย์กำลังส่งข้อความให้แก่พวกเรา อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้ถูกยับยั้งด้วยสื่อหลัก เช่นCNN,FOX,BBC ที่เราทราบดีว่าผู้เป็นเจ้าของคือกลุ่มอลูมินาติ ส่วนใหญ่ของกลุ่มที่ไม่ใช่มนุษย์เหล่านี้มี DNA แบบ 3 เกลียว และต่างจากพวกเราที่มีเพียง 2 เท่านั้น
(ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DNA 3 เกลียว ของหนึ่งในกลุ่มที่ไม่ใช่มนุษย์ กรุณาดูที่ภาคผนวก C)
ณ เวลานี้ ทำไมไม่มีข่าวให้เราเห็น? ทำไมมันจึงเป็นความลับ? ทำไมจึงมีการโกหกหลอกลวงเกี่ยวกับความจริงของธรรมชาติในสิ่งนี้? ทำไมไม่บอกผู้คนอย่างเปิดเผยว่าเราไม่ได้อยู่โดยลำพัง? ทำไมไม่บอกเกี่ยวกกับโลกใต้ดินที่สร้างขึ้นเพื่อความอยู่รอดในเหตุการณ์ 2012?ทำไมไม่บอก
P.8
เกี่ยวกับการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชและอาหารสำหรับยุคน้ำแข็งข้างหน้าที่คาดว่าจะเกิดหลังระยะที่ดวงอาทิตย์เป็นดาวยักษ์สีแดงและกลับกลายมีขนาดเล็กลงอย่างมาก ดาวแคระขาวไม่สามารถสร้างแสงและความร้อนมากพอหรือไม่? ทำไมไม่บอกความจริง? พวกเราต้องเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ ต้องพิจารณาเรื่องที่ได้รับการบอกกล่าวหรือไม่? พวกเรามาเข้าสู่ความเชื่อของเราดีกว่ามั้ย? พวกเราไปจากความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้ดีมั้ย? อาจจะยังไม่ หรือว่าความคิดพวกเราเริ่มเปลี่ยน พวกเราตระหนักถึงกลุ่มคนที่มีปัญญาซึ่งครอบงำเรามาเป็นเวลานานแล้วหรือยัง ว่าพวกเขาปกปิดข้อมูลที่เราจำเป็นต้องรู้และการเข้าถึงเทคโนโลยี คุณจะเชื่อหรือไม่ว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องทำงานมาก? มีเทคโนโลยีสามารถสร้างพลังงานเพียงพอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างและอาหารแก่ทุกคน เงินทำให้พวกเราเป็นทาส เราต้องทำงานเพื่อสร้างรายได้ เพื่อจ่ายบิล เพื่อจ่ายค่าเช่า ค่าใช้จ่ายต่างๆ เราต้องมีชีวิตตามกฎของพวกเขา สำหรับความรู้ที่ดีที่สุดที่ผมได้รับก็คือว่าไม่มีสายพันธุ์อื่นๆที่ต้องทำเช่นนี้ มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่มีพฤติกรรมการปฏิบัติเช่นนี้ ความโลภ อำนาจ แต่มันเป็นสิ่งที่ผิดพลาดเพียงลำพังหรือไม่? หรือว่ามันนีอำนาจซ่อนเร้นที่ควบคุมอยู่ที่เรียกว่า “อลูมินาติ” ใช่หรือไม่? ลองคิดดู?
เอาล่ะตอนนี้เรามาดูว่าพวกเชื้อสายอื่นเขาพูดถึงปี 2012 อย่างไรบ้าง
วันที่ 15 กรกฎาคม 2008 ที่ Avebury Manor,Wilts, ประเทศอังกฤษ มีครอบเซอร์เคิลเกิดขึ้นมาอย่างน่าพิศวง ลำต้นของพืชในครอปเซอร์เคิลเกิดการโค้งงออย่างน่าประหลาดไม่สามารถพิสูจน์โดยวิธีการวิทยาศาสตร์ทั่วไป การทดสอบทางห้องทดลองยืนยันว่ามีลักษณะที่ไม่ปกติ ไม่มีข้อสงสัย เป็นของแท้แน่นอน (กรุณาดูที่ภาคผนวก D เพื่อดูคำอธิบายที่ลึกยิ่งขึ้น เกี่ยวกับของแท้(ไม่ใช่มนุษย์สร้างขึ้น) และของปลอม (มนุษย์สร้างขึ้น))
แผนภาพแสดงอย่างชัดเจนเกี่ยวกับระบบดาวเคราะห์ของเราวันที่ 23 ธันวาคม 2012 สองวันหลังจากวันสิ้นสุดปฏิทินการนับยาวของชาวมายัน
21 ธันวาคม 2012 มันชัดเจนว่าถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งประกอบด้วยวงกลมบางๆ และพรรณนาถึงวงโคจรของดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคารและดาวพลูโต อีกกลุ่มหนึ่งวงกลมหนาประกอบด้วย ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ทั้งหมดยืนยันว่าให้เราสนใจที่ 2 สิ่ง สิ่งแรกคือความผิดปกติของวงโคจรดาวพลูโต ระบบจำลองสุริยะจักรวาลของนาซ่า บอกว่าดาวพลูโตควรจะอยู่ที่ตำแหน่งแตกต่างจากนี้(รูปภาพทางด้านขวา)ดังนั้นชัดเจนว่ามันถูกอิทธิพลของแรงดึงดูดภายนอกจากวัตถุที่กำลังผ่านไป ก็คือ ดาวเคราะห์หรือดาวหาง
P.9
ความผิดปกติที่ 2 คือการแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถเข้าใจได้ว่าการแบ่งสุริยะจักรวาลของเราเป็น 2 กลุ่มด้วยผลของปฏิกิริยาสูงสุดขีดของดวงอาทิตย์ในการผสมกับแรงดึงดูดที่มีพลังสูงสุดขีดของแรงดึงดูดที่วัตถุผ่านหรือดาวหางหรือไม่? ข้อความนี้ชัดเจนสมบูรณ์แบบ ในระบบสุริยะจักรวาลของเราวันที่ 23 ธันวาคม 2012 จะไม่มีความหมายชัดเจนถ้า 7 วันหลังจากนั้น คือวันที่ 22 กรกฎาคม 2008 ไม่มีข้อมูลอัพเดทปรากฏขึ้นมา และมันคือข้อความอะไร นี่คือการบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่สมบูรณ์แบบที่เราจำเป็นต้องรู้!
มันชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา และการเคลื่อนที่ในสุริยะจักรวาลของเราที่เป็นผลลัพธ์ของการขยายตัวในปริมาณที่มากมายและแรงดึงดูดที่แข็งแรงจากด้านนอก มวลของดวงอาทิตย์ใหญ่ขึ้นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงการขยายขนาดสูงสุด เป็นดาวยักษ์สีแดง ทำให้ดาวพุธและดาวศุกร์ถูกดูดกลืนอย่างสมบูรณ์
http://www.youtube.com/watch?v=fDjldLXzAsw
http://www.youtube.com/watch?v=nE00eMB9yZU
http://www.youtube.com/watch?v=NDIhpJoHzgU
http://www.youtube.com/watch?v=tpq_7b9opr0
http://www.youtube.com/watch?v=dRXUriNSxt0
http://www.youtube.com/watch?v=WRdkxzMbm8k
P.10
โลกของเรากับกลุ่มดาว(ภายในครอปที่มีจุดเล็กในวงกลมของโลกและแสดงให้เห็นพระจันทร์)ที่มีดาวอังคารร่วมอยู่ด้วย กำลังอยู่ในวงโคจรของตัวเองแต่ว่าอันตรายมากเพราะใกล้ดวงอาทิตย์ ดังนั้นตามรูปนี้ระบบสุริยะจักรวาลของเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
วงกลมขนาดใหญ่คือการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์รอบโลกในระหว่างปี ตามความเป็นจริงพวกเรากำลังมองที่การขยายตัวของวงโคจรพระจันทร์ มีวงกลมขนาดเล็กที่มีวงแหวน 11 วง และจุดด้านใน ตรงนี้เองที่กำลังนำเราเข้าไปสู่สิ่งที่สนใจนั่นคือหมายเลข 12 และนี่เท่ากับเป็นการบอกเราว่าเดือนที่ 12 ของการโคจรรอบโลกของดวงจันทร์ ซึ่งดวงจันทร์จะตั้งอยู่ในบริเวณขอบเขตท้องฟ้าของโลกใกล้ดาวหางสุกสว่างในเดือนที่ 12 (ธันวาคม ปี 2012 วันที่แน่นอนคือวันที่ 13 ธันวาคม 2012 เมื่อพระอาทิตย์อยู่ในกลุ่มดาว คนแบกงู (Ophiuchus)และเกิดมีดวงจันทร์ใหม่ (การอธิบาย : พระอาทิตย์อยู่ที่ RA= 1726 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2012 เข้าใกล้ดาว 2 ดวงในกลุ่มดาวคนแบกงู)ตอนนี้เรารู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมกลุ่มดาว คนแบกงู(Ophiuchus) พบเห็นทั่วไปในวัดโบราณ
P.11
สัญลักษณ์เล็กๆจากขวาไปซ้ายแสดงให้เห็น
-ทางช้างเผือก ที่มีการพรรณนาถึงกาแลกติกเพลน
-ทางช้างเผือก ที่มีการพรรณนาถึงกาแลกติกเพลน
-สัญลักษณ์ รังสี Cosmicเหมือน งู Nexus หรือ Superwave (สิ่งที่นำพาโปรแกรมการเปลี่ยนแปลงลักษณะพันธุกรรมDNA – เพียงหนึ่งเดียวที่เป็นที่รู้จักกันในจักรวาลของเรา) และการแสดงว่างูกำลังมา"เพื่อแพร่กระจาย"ทั่วแผ่นกาแล็กซี่
-รูปหอยโข่งในอารยะธรรมมายาโบราณเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดของชีวิตทางกายภาพและสิ้นสุดรอบวงจร การวัดที่สมบูรณ์. ผลรวมสุดท้าย
-เกลียวแทนรอบวงจร" ชีวิต-การตาย –การเกิดใหม่”ของดวงอาทิตย์ ที่จุดจบของดวงอาทิตย์ที่ 5 Aztec ดาวฤกษ์ของเราจะเริ่มขยายตัวช้าๆจนกระทั่งถึงจุดสูงสุดที่ 28 มีนาคม 2013 เมื่อผิวชั้นนอกถูกปลดปล่อยสู่อวกาศและแกนของดาวฤกษ์จะถูกดึงออกหรือเรียกว่าดวงอาทิตย์ทารกได้เกิดขึ้น(เกิดใหม่)-การเกิดดวงอาทิตย์ที่ 6 การเกิดยุคแห่งความสว่าง
-รูปหอยโข่งในอารยะธรรมมายาโบราณเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดของชีวิตทางกายภาพและสิ้นสุดรอบวงจร การวัดที่สมบูรณ์. ผลรวมสุดท้าย
-เกลียวแทนรอบวงจร" ชีวิต-การตาย –การเกิดใหม่”ของดวงอาทิตย์ ที่จุดจบของดวงอาทิตย์ที่ 5 Aztec ดาวฤกษ์ของเราจะเริ่มขยายตัวช้าๆจนกระทั่งถึงจุดสูงสุดที่ 28 มีนาคม 2013 เมื่อผิวชั้นนอกถูกปลดปล่อยสู่อวกาศและแกนของดาวฤกษ์จะถูกดึงออกหรือเรียกว่าดวงอาทิตย์ทารกได้เกิดขึ้น(เกิดใหม่)-การเกิดดวงอาทิตย์ที่ 6 การเกิดยุคแห่งความสว่าง
-สัญลักษณ์ถัดไปแสดงอย่างชัดเจนว่าเกิดดวงจันทร์ใหม่ และกลุ่มดาวคนแบกงู( Ophiuchus )อยู่ในสถานที่ที่แน่นอน (ใกล้ดวงจันทร์) ใน 13 ธันวาคม 2012
ก่อนที่จะไปต่อโปรดเข้าใจว่าจดหมายนี้ให้ความรู้เพื่อเผชิญเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก บางครั้งข้อมูลแบบนี้อาจเป็นอันตรายโดยเฉพาะหากคุณอาศัยอยู่กับมุมมองชีวิตที่แตกต่างกันภายใน”Matrix”ถ้าคุณรู้สึกว่าให้ข้อมูลมากเกินไปหรือว่าคุณไม่พร้อมที่จะทราบความจริงผมจะแนะนำด้วยความจริงใจว่าคุณไม่จำเป็นต้องอ่านข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ ใช้ชีวิตในแบบที่คุณเคยเป็นเหมือนในอดีตต่อไป แล้วลบไฟล์นี้และคิดเสียว่าคุณไม่เคยรับมัน: โปรดทราบว่าข้อมูลนี้ไม่ได้ทำให้หวาดกลัว แต่การกระตุ้นเตือนทางด้านจิตวิญญาณ จิตใจ และการเตรียมความพร้อมทางร่างกาย สำหรับช่วงเวลาที่ท้าทายข้างหน้า วัตถุประสงค์คือเพื่อช่วยเหลือในกระบวนการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มความตระหนักรู้ที่สำคัญที่สุด
ก่อนที่จะไปต่อโปรดเข้าใจว่าจดหมายนี้ให้ความรู้เพื่อเผชิญเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก บางครั้งข้อมูลแบบนี้อาจเป็นอันตรายโดยเฉพาะหากคุณอาศัยอยู่กับมุมมองชีวิตที่แตกต่างกันภายใน”Matrix”ถ้าคุณรู้สึกว่าให้ข้อมูลมากเกินไปหรือว่าคุณไม่พร้อมที่จะทราบความจริงผมจะแนะนำด้วยความจริงใจว่าคุณไม่จำเป็นต้องอ่านข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ ใช้ชีวิตในแบบที่คุณเคยเป็นเหมือนในอดีตต่อไป แล้วลบไฟล์นี้และคิดเสียว่าคุณไม่เคยรับมัน: โปรดทราบว่าข้อมูลนี้ไม่ได้ทำให้หวาดกลัว แต่การกระตุ้นเตือนทางด้านจิตวิญญาณ จิตใจ และการเตรียมความพร้อมทางร่างกาย สำหรับช่วงเวลาที่ท้าทายข้างหน้า วัตถุประสงค์คือเพื่อช่วยเหลือในกระบวนการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มความตระหนักรู้ที่สำคัญที่สุด
P.12
ขณะนี้ชัดเจนว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงกระบวนการการเปลี่ยนแปลงตามที่ระบุไว้ก่อนหน้า นั่นก็คือคอสมิกในธรรมชาติ แต่สิ่งที่เราสามารถทำคือการทำงานหนักในด้านการเปลี่ยนแปลงโดยการเตรียมการให้สอดคล้องกับความจำเป็นของเราและชีวภาพของเรานอกจากนี้คือการยกระดับการสั่นสะเทือนของเราเองและให้อยู่ระดับเดียวกันในเวลาช่วงเวลาทั้งหมดที่รังสีอันแข็งแกร่งของพลังงานอนุภาคจะเข้าสู่สิ่งแวดล้อม หลังจากที่เราทำเช่นนั้นแล้ว เราสามารถเชื่อมต่อจุดมุ่งหมายในท้ายที่สุด,การเผาไหม้ของตะแกรงโลกที่มีพลังงานฝังอยู่ และผลกระทบสุดท้ายต่อโครงสร้างส่วนของ Matrix
เพื่อมุ่งเน้นในการเพิ่มจิตสำนึกและช่วยโลกของเราเข้าสู่ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงอย่างเรียบง่ายขึ้น สามารถทำได้โดยการเข้าถึงการเป็นอันหนึ่งอันเดียวของโลกและชีวิตของเราทั้งหมด นอกจากนี้ โดยการสร้างขอบเขตพลังชีวภาพอันแข็งแกร่งและมั่นคงของพลังงานทั่วโลกเพื่อให้สามารถรับพลังงานที่มี ประสิทธิภาพ Nexus (Cosmic Snake) โดยไม่มีอันตรายใดๆ
ผมจะอธิบายเพิ่มเติมในส่วนที่สองของหนังสือนี้และครอบคลุมสิ่งที่กำลังก้าวเข้ามา ก่อนที่ผมจะสามารถให้ข้อมูลแก่คุณ ผมจะอธิบายให้คุณเพิ่มเติมว่าอะไรที่ผู้สร้างครอปเซอร์เคิลกำลังบอกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในขอบเขต 3 มิติเร็วๆนี้ การวิเคราะห์รายละเอียดที่ได้ดำเนินการอย่างชัดเจนพบว่ามีจำนวนรูปร่างต่างๆมากมาย ที่มีสัญลักษณ์ของ Aztec และ Mayan และ การเชื่อมต่อกับQuetzalcoatl ตามวัฒนธรรม Aztec ประวัติศาสตร์ของโลกลดลงสู่ ช่วงยุคที่ 5 หรือ"ดวงอาทิตย์" ยุคปัจจุบันคือยุคของ ดวงอาทิตย์ที่ 5 เป็นยุคสุดท้าย เช่นเดียวกับ สี่รุ่นก่อนหน้า ยุคดวงอาทิตย์ที่ 5 ได้ถูกกำหนดการทำลายไว้แล้ว ที่โลกจะถูกทำลายจากการเกิดแผ่นดินไหวและ มนุษย์จะออกจากโลกนี้ไป
P.13
สรุปผู้สร้างครอปเซอร์เคิลทำเพื่อบอกเหตุการณ์เกี่ยวกับการนับเวลาตามปฏิทินการนับนับยาว และ ปฏิทิน ดวงอาทิตย์-ดาวศุกร์ เหมือนชาว Mayas Aztecs ในอเมริกากลาง ปฏิทินทั้งสองแสดงชัดเจนในแผนภาพครอปเซอร์เคิล ที่ปรากฏในสหราชอาณาจักรที่Silbury Hill ในปี 2004 และ Woolstone Hill ในปี 2005 ตอนนี้เราทราบแล้วว่าปฏิทินนับยาว สิ้นสุดในวันที่ 23 ธันวาคม 2012 (และไม่ใช่ที่ 21 ธันวาคม 2012 ตามที่คนส่วนใหญ่เชื่อ) ซึ่งแสดงจุดสิ้นสุดอย่างแน่นอนของอาทิตย์ที่ 5 เริ่มต้นวันที่ 13 สิงหาคม3114 ก่อน คริสต์ศักราช แตกต่างจากปฏิทินแรกปฏิทินมายัน ดวงอาทิตย์ - ดาวศุกร์ สิ้นสุดในวันที่ 28 มีนาคม 2013, ที่จุดสิ้นสุดของรอบ 52 ปีของดาวศุกร์ที่เริ่มที่ 10 เมษายน 1961 และที่สำคัญกว่านี้มันยังแสดงยังเครื่องหมายเริ่มต้นใหม่ของ 5000 ปีที่ วัฏจักรที่ 6 ดวงอาทิตย์ ข้อความสมบูรณ์แบบเหมือนแผนภาพที่ปรากฏในปี 2006 ใน Wayland’s Smithy แผนภาพนี้แสดงอย่างชัดเจนให้เห็นว่าจุดสิ้นสุดของปฏิทิน ดวงอาทิตย์-ดาวศุกร์ การปล่อยออกรังสีคอสมิกจากแกนกาแล็กซีจะมาถึงโลกการวิเคราะห์เบื้องต้นของแผนภาพที่ปรากฏที่ Wayland’s Smithy ในปี 2006, ได้แสดงชุดรังสีดาราศาสตร์ จากใจกลางแหล่งกำเนิดใน 3 มิติ คือ x, y , z : รังสี เหล่านั้นได้ถูกวาดเป็นสี่เหลี่ยมตามความยาว ความเข้มข้นของคลื่นดาราศาสตร์หรือ รังสี ก็จะอ่อนแรงลงเนื่องจากระยะทางที่ห่างไกล แล้วอะไรที่อาจจะเป็นศูนย์กลางของพลังงานที่แสดง?... คำตอบที่ชัดเจนครบถ้วน – หลุมดำขนาดมหึมาที่ศูนย์กลางของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก
ที่เรียกว่า Sgr A * วงแหวนของดาว 12 ดวงรอบ Sgr A * ในอวกาศ เหมือนกับวงแหวนของ 12 จุด รอบๆศูนย์กลางของรูปครอปเซอร์เคิล ทุกๆอันของ 3 รังสีที่ยาวที่สุดนี้ มีพื้นที่ประมาณ 7x8= 56 ช่องของวงกลมเล็กๆ ภายในปลายเปิดของสี่เหลี่ยม พวกนี้กำลังแสดงรหัสเวลาเราบอกเราเมื่อรังสียาวที่สุดนี้เข้ามาถึงโลก
P.14
สำหรับบางคนที่เข้าใจว่า"เขา"พยายามบอกเรา มันจะดีกว่าถ้าตอนแรกเราเข้าใจว่าทุกๆการเกิดขึ้นร่วมกัน ดวงอาทิตย์-ดาวศุกร์ ใช้เวลา 292 วัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านน้อยกว่า (ดาวศุกร์ ระหว่างโลกและดวงอาทิตย์) หรือทางด้านเหนือกว่า (ดวงอาทิตย์ ระหว่างโลกและดาวศุกร์)ก็ตาม นับตั้งแต่แผนภาพปรากฏวันที่ที่ 8 กรกฎาคม 2006, สองปีที่ผ่านมา,เมื่อยังมี"หมายเลข 9"พวกเขาก็ยังคงเตือนเราตลอดถึงการนับถอยหลังถึงสู่ปี 2013 ! แล้วเมื่อ 12 สิงหาคม 2007, มายัน / โอเม็ค ลำดับที่ 6 ปรากฏที่ Stanton St. Bernard. มันเหมือนตั้งใจบอกเราว่า มีเพียงแค่ 6 ของการเกิดขึ้นร่วมกันของ ดวงอาทิตย์-ดาวศุกร์ ที่ยังคงเหลืออยู่จนกระทั่งดาวศุกร์เดินทางผ่าน ที่วันที่ 6 มิถุนายน 2012 หรือ เพียงแค่ 7 จนกระทั่งถึงจุดสิ้นสุดของปฏิทิน ดวงอาทิตย์-ดาวศุกร์ วันที่ 28 มีนาคม2013 หากทางออกที่ถูกต้องของปริศนาถูกรวมเข้าด้วยกันเราจะเริ่มเห็นความหมายของสิ่งที่"พวกเขา"พยายามพูด การปรากฏของครอปเซอร์เคิลแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นระหว่างปลายปี 2012 และต้นปี 2013, ระหว่างวันสิ้นสุดของปฏิทินการนับยาวมายัน และสิ้นสุดปฏิทิน ดวงอาทิตย์ - ดาวศุกร์ – การมาถึงของของรังสีคอสมิกบางชนิดจากศูนย์กลางกาแล็กซี่ ยังมีแผนภาพอื่น จาก West Kennett (13 กรกฎาคม 1996) ที่ดูเหมือนจะอธิบายเหตุการณ์เดียวกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ในอนาคตอันใกล้และแสดงความแม่นยำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นเราจะศึกษาตรงนี้ต่อไป เราสามารถเห็นสัญลักษณ์ของพวกมายัน สำหรับใจกลางกาแล็กซี ที่คลื่นมาจากทุกๆที่(สมบูรณ์ทั้งหมดที่ 12) พระจันทร์ใหม่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์และดาวหางที่พุ่งผ่านหรือการมาถึงครั้งแรกของลำแสงเหล่านั้น มันชัดเจนว่ารังสีเหล่านี้มาจากใจกลางกาแล็กซีที่ตามขนาดและพลัง หมายเหตุ : NASAเผยแพร่ภาพยนตร์สารคดีและเอกสารมากมายเกี่ยวกับรังสีคอสมิกมีผลต่อDNAของชีวิตและก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ให้ดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร ในกรณีของพวกเรา รังสีคอสมิกล่าสุดและใหญ่ที่สุด มาจากเหตุการณ์ Nexus (การมาถึงของพลังงาน งูCosmic ) จะเป็นกรณีหนึ่งที่สมบูรณ์แบบในการ reprogramming ของ DNA ในรูปแบบของชีวิตอินทรีย์ มันจะมาถึงวันที่ 28 มีนาคม 2013อย่างแน่นอนดังนั้นเราพูดได้อย่างเป็นทางการว่าเป็น จุดสิ้นสุดของปฏิทิน ดวงอาทิตย์-ดาวศุกร์ และจุดเริ่มต้นของยุค “ดวงอาทิตย์ที่ 6"
P.15
ตรงนี้หมายความว่าอะไร? ถ้าเราใช้ตรรกะสูงสุดของเราแสดงว่าเรากำลังมองหาเหตุการณ์เกี่ยวกับกับการอาบของโลกเราและชีววิทยาเหนือโลกในระดับพลังงานรังสีแกมมาที่ถูกฉายมาจาก จุดศูนย์กลางของกาแล็กซี่ ในอีกแง่หนึ่ง การตอบสนองของ DNA ที่อยู่นิ่งๆ ... หรือการตอบสนองของวิทยาศาสตร์กระแสหลักที่อ้างถึง 97% ของDNAขยะ นั่นหมายความว่าทันทีที่ลำแสงสีน้ำเงิน-ขาวสัมผัสคุณ, คุณจะจำได้ว่าคุณคือใครในอดีตที่ผ่านมา ความรู้ความเข้าใจทั้งหมดจะเปลี่ยนรูปกลับมารวมด้วยอำนาจจิตสำนึกของคุณมหัศจรรย์ ... เราโชคดีมากที่อยู่ที่นี่และในอวกาศนี้ มันจะเป็นชัยชนะของความเมตตาและสติปัญญาที่เหนือกว่าความรุนแรงและความไม่รู้ นี่คือความสำเร็จที่เกิดขึ้นโดยการเปลี่ยนสภาพที่แท้จริงของสารพันธุกรรมของมนุษย์ DNAของเราเมื่อมีการอาบแสงที่มาจากดวงอาทิตย์ เหมือนสามารถเป็นเครื่องแปลงความถี่ศูนย์กลางกาแล็กซี่ด้วยตัวเอง ผ่านเข้ามาสู่โลกโดยตรง เมื่อเดือนมิถุนายน 2008, วงโคจรของดาวศุกร์ 3 รอบเต็ม (ตัวเลขสีขาวขนาดใหญ่) ยังคงอยู่จนกว่าจะสิ้นสุดปฏิทินมายัน ดวงอาทิตย์-ดาวศุกร์ในวันที่ 28 มีนาคม 2013 วงโคจรเต็มของดาวศุกร์ใช้เวลา 584 วันหรือ 1.6 ปีดังนั้นจึงจะมีเวลา 3x1.6 = 4.8 ปีจนถึงมีนาคม 2013 ในทำนองเดียวกัน
ห้ารอบครึ่งวงโคจรของดาวศุกร์ (ตัวเลขสีฟ้าเล็ก ๆ ) ยังคงอยู่จนกว่าดาวศุกร์ เดินทางผ่านหน้าของดวงอาทิตย์ในมิถุนายน 2012 ครึ่งรอบวงโคจรของดาวศุกร์ใช้เวลา 292 วันหรือ 0.8 ปี ดังนั้นจึงจะมี 5 x 8 = 4.0 ปีจนถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2012 นี่ก็เหมือนกับ 52 หรือ 104 -- ปฏิทินปี ที่ Olmecs, Mayans หรือ Aztecs ใช้งานมาเป็นเวลานานในอเมริกากลาง 5 วันต่อมาที่ สะพาน Stanton วันที่ 4 กรกฎาคม ตัวเลข "3" ของพวกมายันปรากฏอีกครั้งหนึ่งเพื่อเตือนให้เราเห็นว่าเพียง 3 รอบวงโคจรของดาวศุกร์เท่านั้น ที่ปฏิทินของพวกเขาจะสิ้นสุดในวันที่ 28 มีนาคม 2013
P.16
อีกข้อความที่สำคัญเกี่ยวกับการขยายตัวของชั้นนอกของดวงอาทิตย์ปรากฏเมื่อวันที่ 27/07/2009 Milk Hill Stanton, St Bernard, Wiltshire.
แม้ว่าที่จริงเรามีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันแต่เราก็เป็นหนึ่งเดียว ความจริงข้อนี้สามารถมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อไปถึงการพัฒนาของจักรที่สี่ เมื่อมีการเปิดศูนย์สี่, จิตสำนึกเห็นทุกอย่างในจักรวาลที่เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งที่มาเดียวกันและเป็นหนึ่งกัน เวลาสำหรับความขัดแย้งได้จบลงและมันเป็นช่วงเวลาเพื่อความสงบสุขและความสมดุล ในระดับสูงขึ้น มนุษย์จะได้รับประสบการณ์นี้เมื่อเหนือกลับกลายเป็นใต้ในช่วง Solar Maximum ถัดไป ณ สิ้นปี 2012 และ อีกครั้งมีการสร้างแผนภาพให้เห็นชัดเจนว่ามวลดวงอาทิตย์จะขยายตัว
ถ้า คุณเห็นทั้งหมดนี้ได้ด้วยตาของจิตใจของคุณคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกใน ความเป็นจริง ในแบบ 3มิติ แต่ถ้าหากคุณเห็นด้วยตาของความรักของคุณ มันมีลักษณะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในระหว่างเหตุการณ์นี้มนุษยชาติจะทราบว่าเพียงความรักคือคำตอบและสิ่งอื่นๆเป็นเพียงภาพลวงตา วันเดียวกันนี้และไม่กี่วันหลังจาก ปรากฏการณ์ครอปเซอร์เคิลที่ Milk Hill Stanton, St Bernard, Wiltshire มีครอปเซอร์เคิลอื่นเล็กน้อยที่บรรยายความแตกต่างของสายพันธุ์อื่นที่มาจากนอกโลก ก็คือภาษาเขียนของพวกเขา และพวกเขาส่วนใหญ่มีวงกลมๆที่มีตาที่ 3 ที่หน้าผาก
นอก จากนี้ยังมีลูกศรชี้ออกจากหัวของพวกต่างดาวที่แสดงอย่างชัดเจนว่าพวกเขากำลังส่งข้อความดังกล่าวเพื่อที่เราจะได้เข้าใจและเตรียมความพร้อมและยังบอกว่าพวกเขาเฝ้าสังเกตการณ์พวกเราตลอดเวลา ผมไม่สามารถบอกได้มากกว่านี้ ณ เวลานี้ แต่สิ่งที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นความจริงก็คือมนุษย์ต้องเปิดใจว่าเรากำลังแบ่งปันโลกใบนี้กับหลายรูปแบบของชีวิตอื่น ๆ และมี ความเป็นหนึ่งเดียว แม้จะมีความแตกต่างทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังต้องมีการเปิดใจถึงความจริงที่ว่าโลกของเรากำลังมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากวงจรปัจจุบันกำลังมาถึงจุดสิ้นสุดและคนที่ได้รับการเลือกสู่หนทางของแสงสว่างและสันติภาพกำลังรอคอยวิวัฒนาการและการปรับ DNA
ก่อนที่เราจะสามารถเข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าบทบาทของเราในสถานการณ์ 2012 ทั้งหมดนี้ เราต้องก้าวผ่านมุมมองด้านอื่น ๆ ของการดำรงอยู่ของเรา เรามาเริ่มต้นสร้างความเข้าใจว่าเราคือ แก่นแท้บริสุทธิ์ของความเป็นเรา, สิ่งที่เป็นโครงสร้างพลังงานชีวิตของเราและร่างกายอันบอบบางของเรา,สิ่งทั้งหมดนี้เชื่อมต่อกับ RNA / DNA ได้อย่างไรและโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการที่RNA / DNA กำลังจะได้รับอิทธิพลจากพลังงานจักรวาล ที่จะมาถึงในปลายปี 2012
พวกเราคืออะไร?
เราเป็นพลังชีวิตที่มีความเฉลียวฉลาดในจักรวาลและแก่นสาระบริสุทธิ์ ของเราคือจิตสำนึก จิตสำนึกของเราสามารถแสดงตนในหลายมิติ มีสนามพลังชีวภาพของตัวเองที่คนมักจะรู้ว่าเป็นเขตสนาม auric นอกจากแหล่งที่อยู่ทางชีวภาพที่เรามี และเรายังมีแหล่งพลังงานอื่นๆจำนวนมาก ร่างกายหรือยานพาหนะ
เราเป็นพลังชีวิตที่มีความเฉลียวฉลาดในจักรวาลและแก่นสาระบริสุทธิ์ ของเราคือจิตสำนึก จิตสำนึกของเราสามารถแสดงตนในหลายมิติ มีสนามพลังชีวภาพของตัวเองที่คนมักจะรู้ว่าเป็นเขตสนาม auric นอกจากแหล่งที่อยู่ทางชีวภาพที่เรามี และเรายังมีแหล่งพลังงานอื่นๆจำนวนมาก ร่างกายหรือยานพาหนะ
สิ่งเหล่านั้น"พาหนะที่ทรงพลัง"สามารถให้จิตสำนึกที่จะนำเสนอในมิติที่แตกต่างกัน หนึ่งก็คือแหล่งพลังงานและร่างกายที่บอบบางมีความหนาแน่นที่เหมาะสมและความเร็วของการสั่นสะเทือนของมิติเดียวหรือระนาบแห่งการดำรงอยู่ มิเช่นนั้นแล้วเนื้อแท้บริสุทธิ์ของเราจะไม่สามารถดำรงอยู่ในมิตินั้นภายในแหล่งพลังงานเฉพาะหรือภายในร่างกาย
ตอนนี้ มนุษย์มีการทำงานโดยสิ่งที่เรียกว่าการทำงานแบบเกลียวคู่ ซึ่งหมายความว่าเราจะใช้เพียง 3% ของDNAสารพันธุกรรมของเราและส่วนที่เหลือ 97% ของสารพันธุกรรมคืออยู่เฉยๆไม่ได้ใช้งาน
วิทยาศาสตร์กระแสหลักเรียกมันว่า DNA ขยะ, ตั้งสมมุติฐานว่ามันไม่มีอะไรและเราไม่จำเป็นต้องใช้มันไม่ว่าอะไรก็ตาม ... ซึ่งสิ่งนี้เป็นการนำเสนอโดยวิทยาศาสตร์กระแสหลักไม่ถูกต้องอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น 97% ของสารพันธุกรรมถูกตัดการเชื่อมต่อในขณะนี้ แต่ก็ไม่เสียหายและยังสามารถเปิดใช้ได้
ในความเป็นจริงทั้งหมดที่เหลือของพลังงานร่างกายที่เรามี สามารถเข้าถึงและควบคุมได้ หากสารพันธุกรรมถูกกระตุ้นให้พร้อมใช้งาน ขึ้นกับพลังงานทั้งหมดและความสามารถของบุคคล อีกแง่หนึ่ง ทุกคนมีความสามารถต่างกัน มีชนิดพลังงานภายในต่างกัน และความแตกต่างของสมรรถนะภาพ
P.18
เพื่อที่คุณสามารถเข้าใจได้อย่างถูกต้องผมจะอธิบายดังนี้
นักวิทยาศาสตร์ได้แยกองค์ประกอบของจักรวาลของเราเป็นสสารปกติ มีประมาณ 4%สสารมืดมีประมาณ 26% และ พลังงานมืด 70 %
สสารปกติมีคือทุกส่วนที่มองเห็นของจักรวาล รวมทั้งกลุ่มซุปเปอร์-คลัสเตอร์ กลุ่มของกาแลกซี่, กาแลกซี, ดาว, ดาวเคราะห์,รูปแบบของชีวิตทางชีวภาพ ฯลฯ ... หรือถ้าคุณต้องการแยกความแตกต่างกัน ก็คือประกอบด้วยองค์ประกอบวัตถุหนัก 0.03%,นิวตริโน 0.3 %, ดาว 0.5% และไฮโดรเจน/ฮีเลียม ประมาณ 3.2% ตอนนี้ภาพรวมทั้งหมดทั้ง สสารปกติ สสารมืด และพลังงานมืด เราบรรจุอยู่ในภาพลูกบาศก์ขนาดใหญ่ ด้านล่างคือสสารปกติที่หนาแน่นด้วย : ซุปเปอร์ –คลัสเตอร์,กลุ่มการรวมของกาแลกซี่, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์, องค์ประกอบทางเคมี,ชีวิตทางชีวภาพและทุกอย่างที่สามารถเห็นได้จากมุมมองของเราในจักรวาล เหนือขึ้นไปก็คือสสารมืด : มิติที่มองไม่เห็นแม้เต็มไปด้วยพลังงานและรูปแบบชีวิตที่หลากหลาย และที่ด้านบนสุดก็เป็นชั้นของพลังงานมืด พลังงานที่แข็งแกร่งที่สุด และมีผลโดยตรงต่อการขับเคลื่อนใด ๆ ในกระบวนการสร้างแบบไดนามิกของจักรวาลนี้ จักรวาลจะมีชีวิตอยู่อย่างชาญฉลาดและมีจิตสำนึกของตัวเองและก็ยังคงมีการเต้นเป็นจังหวะแบบไดนามิกของการหดตัวและการขยายในส่วนต่างๆตลอดเวลา การเต้นเป็นจังหวะแบบไดนามิกของการหดตัวและการขยายตัวเป็นเหมือนโน๊ตดนตรี ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าชั้น พลังงานมืด,แต่ว่าในความเป็นเป็นจริงใช้ศัพท์ไม่ถูกต้องนัก เพราะพลังงานนี้ไม่ใช่มีลักษณะ มืด ... ควรใช้คำว่าพลังงานที่มองไม่เห็นจะดีกว่า ตอนนี้สังเกตว่าในลูกบาศก์ถูกผสมด้วยสิ่งทั้งหมดที่กล่าวมา ถ้าคุณขยายเข้าไปในลูกบาศก์จะพบว่าความหนาแน่นนั้นต่างกันทั้งจากด้านล่างไปทางด้านบนและที่อื่นรอบๆ ซึ่งจะช่วยทำให้กระแสการไหลและการแผ่ขยายของอนุภาคพลังงานมีความเร็วแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความหนาแน่นหรือบริเวณที่อยู่ในลูกบาศก์ ด้านล่างมีความหนาแน่นสูงและอนุภาคเคลื่อนไหวช้ากว่าเพราะความหนาแน่น และวิธีการที่จะปีนไปทางด้านบนอนุภาคจะย้ายได้อย่างรวดเร็วมากหลังจากมันมีขนาดเล็กลงและหนาแน่นลดลง ความหนาแน่นทั้งหมดเหล่านี้มีแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แตกต่างแต่ยังคงเชื่อมต่อในเวลาเดียวกัน รูปแบบความเข้าใจเก่าๆ มีมุมมองที่ว่ามีมิติ ขนาดใหญ่ 7 แบบที่มีความหนาแน่นแตกต่างกันในจักรวาล แต่โดยส่วนตัวผมไม่เห็นว่ามีเหตุผลใดๆที่แสดงว่าทำไมจะไม่สามารถมีจำนวนมิติเป็นอนันต์ ในความเป็นจริงยังมีอีกมากกว่าเพียงแค่ 7 ระนาบที่มีอยู่ และผมจะอธิบายในรายละเอียดเพิ่มเติมในงานนำเสนอ
นักวิทยาศาสตร์ได้แยกองค์ประกอบของจักรวาลของเราเป็นสสารปกติ มีประมาณ 4%สสารมืดมีประมาณ 26% และ พลังงานมืด 70 %
สสารปกติมีคือทุกส่วนที่มองเห็นของจักรวาล รวมทั้งกลุ่มซุปเปอร์-คลัสเตอร์ กลุ่มของกาแลกซี่, กาแลกซี, ดาว, ดาวเคราะห์,รูปแบบของชีวิตทางชีวภาพ ฯลฯ ... หรือถ้าคุณต้องการแยกความแตกต่างกัน ก็คือประกอบด้วยองค์ประกอบวัตถุหนัก 0.03%,นิวตริโน 0.3 %, ดาว 0.5% และไฮโดรเจน/ฮีเลียม ประมาณ 3.2% ตอนนี้ภาพรวมทั้งหมดทั้ง สสารปกติ สสารมืด และพลังงานมืด เราบรรจุอยู่ในภาพลูกบาศก์ขนาดใหญ่ ด้านล่างคือสสารปกติที่หนาแน่นด้วย : ซุปเปอร์ –คลัสเตอร์,กลุ่มการรวมของกาแลกซี่, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์, องค์ประกอบทางเคมี,ชีวิตทางชีวภาพและทุกอย่างที่สามารถเห็นได้จากมุมมองของเราในจักรวาล เหนือขึ้นไปก็คือสสารมืด : มิติที่มองไม่เห็นแม้เต็มไปด้วยพลังงานและรูปแบบชีวิตที่หลากหลาย และที่ด้านบนสุดก็เป็นชั้นของพลังงานมืด พลังงานที่แข็งแกร่งที่สุด และมีผลโดยตรงต่อการขับเคลื่อนใด ๆ ในกระบวนการสร้างแบบไดนามิกของจักรวาลนี้ จักรวาลจะมีชีวิตอยู่อย่างชาญฉลาดและมีจิตสำนึกของตัวเองและก็ยังคงมีการเต้นเป็นจังหวะแบบไดนามิกของการหดตัวและการขยายในส่วนต่างๆตลอดเวลา การเต้นเป็นจังหวะแบบไดนามิกของการหดตัวและการขยายตัวเป็นเหมือนโน๊ตดนตรี ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าชั้น พลังงานมืด,แต่ว่าในความเป็นเป็นจริงใช้ศัพท์ไม่ถูกต้องนัก เพราะพลังงานนี้ไม่ใช่มีลักษณะ มืด ... ควรใช้คำว่าพลังงานที่มองไม่เห็นจะดีกว่า ตอนนี้สังเกตว่าในลูกบาศก์ถูกผสมด้วยสิ่งทั้งหมดที่กล่าวมา ถ้าคุณขยายเข้าไปในลูกบาศก์จะพบว่าความหนาแน่นนั้นต่างกันทั้งจากด้านล่างไปทางด้านบนและที่อื่นรอบๆ ซึ่งจะช่วยทำให้กระแสการไหลและการแผ่ขยายของอนุภาคพลังงานมีความเร็วแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความหนาแน่นหรือบริเวณที่อยู่ในลูกบาศก์ ด้านล่างมีความหนาแน่นสูงและอนุภาคเคลื่อนไหวช้ากว่าเพราะความหนาแน่น และวิธีการที่จะปีนไปทางด้านบนอนุภาคจะย้ายได้อย่างรวดเร็วมากหลังจากมันมีขนาดเล็กลงและหนาแน่นลดลง ความหนาแน่นทั้งหมดเหล่านี้มีแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แตกต่างแต่ยังคงเชื่อมต่อในเวลาเดียวกัน รูปแบบความเข้าใจเก่าๆ มีมุมมองที่ว่ามีมิติ ขนาดใหญ่ 7 แบบที่มีความหนาแน่นแตกต่างกันในจักรวาล แต่โดยส่วนตัวผมไม่เห็นว่ามีเหตุผลใดๆที่แสดงว่าทำไมจะไม่สามารถมีจำนวนมิติเป็นอนันต์ ในความเป็นจริงยังมีอีกมากกว่าเพียงแค่ 7 ระนาบที่มีอยู่ และผมจะอธิบายในรายละเอียดเพิ่มเติมในงานนำเสนอ
P.19
สำหรับความรู้ที่ดีที่สุดของผม เนื้อแท้บริสุทธิ์ของเรามีศักยภาพที่จะเป็นหนึ่งในมิติเหล่านั้น ถ้าการใช้งานทั้งหมดอย่างเหมาะสมไม่ได้ถูก lock ในศักยภาพที่มีอยู่ของ DNA ขณะนี้เราทำงานในส่วนที่เป็นเกลียวคู่ซึ่งก็เพียงพอที่คุณสามารถเห็นและอ่านข้อความนี้ได้ และได้รับประสบการณ์ระดับหนึ่ง ... และค่อนข้างมีความรับรู้ต่ำของระดับ astralในรูปแบบของการฝัน หรือ ประสบการณ์สั้นๆใกล้ตาย ข้อมูลส่วนใหญ่จะมาจากความรู้สึกและประสาทสัมผัสทั้ง 5นั่นคือส่วนใหญ่ที่พวกเราสามารถเข้าถึงและประสบการณ์นั่นก็คือทั้งหมด 3% ของสารพันธุกรรมที่สามารถให้เราได้ ... คุณภาพต่ำที่เรามีอยู่
แม้จะมีเพียง 3% ของการใช้งานดีเอ็นเอ ส่วนใหญ่ของมนุษย์ยังคงใช้ร่างกายรูปแบบ astral (กายแบบวิญาณหรือประมาณกายทิพย์) ในช่วงเวลานอน พวกเขาไม่รู้ตัวโดยสิ้นเชิงว่าขณะที่อยู่ในส่วนหนึ่งของร่างกายบอบบางของพวกเขาพวกเขาก็กำลังอยู่ในมิติอื่น ๆด้วยอย่างสมบูรณ์ – มิติแห่งดวงดาว(astral dimension) การควบคุมร่างกายเกี่ยวกับดวงดาวและประสบการณ์การควบคุมจิตสำนึกภายนอกร่างกาย จะครอบคลุมในงานนำเสนอของผมและผมเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ผมจะจัดสัมมนาและประชุมเชิงปฏิบัติการในเมืองบริสเบนเร็วๆนี้, การเรียนการสอนเน้นผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเหล่านี้ และผมมีประสบการณ์ในเรื่องนี้กับผู้เรียนมากกว่าพันคนทั่วโลก
ดัง ที่ได้กล่าวมาก่อนในส่วนที่เหลือ 97% ของสารพันธุกรรม เรามีพาหนะอื่นๆ อีกมากมายที่ให้เราเปิดใช้งานเพื่อให้สามารถเข้าถึงส่วนที่ลึกเข้าไปในจักรวาล มิติที่ใกล้ที่สุดจะเรียกว่ามิติ etheric, มิติ astral,มิติจิตใจและเหตุผล อธิบายง่ายๆ, มิติ ทางกายภาพมีความหนาแน่นสูงที่สุด, ชั้น etheric เป็นขอบเขตระหว่างชั้น สสารและปฏิสสาร, ชั้น astral มีความหนาแน่นน้อยกว่าทางกายภาพ แต่หนาแน่นมากกว่า มิติทางจิตและเหตุผล ชั้นสูงกว่าที่ห่างออกไปจากมิตินี้ ... สภาวะต่างๆได้เปลี่ยนไป ความหนาแน่นแตกต่างกันและความเร็วของการสั่นสะเทือนก็แตกต่างกัน ถ้าคุณเดินทางในร่างกายทิพย์(astral body)ของคุณ คุณสามารถสังเกตเห็นมิติคล้ายดาว(astral dimension) แต่คุณจะไม่สามารถสังเกตเห็น มิติทางจิตใจและเหตุผลหรืออื่นๆ ทุกมิติต่อไปคุณจะเพิ่มความสามารถของคุณและสามารถทำความเข้าใจ การที่จะนำคุณให้มีการขยายการรับรู้และภูมิปัญญาผมจะบอกคุณเอง ยิ่งคุณปีนขึ้นสู่ความเข้าใจคุณก็จะเพิ่มความเข้าใจด้วยตัวคุณเอง และเข้าใจจุดประสงค์ของการดำรงอยู่ของคุณในจักรวาลยิ่งคุณเรียนรู้และก้าวหน้า คุณจะยิ่งตระหนักถึงความรับผิดชอบของคุณและงานของคุณหรือวิธีการที่คุณสามารถช่วยในแผนงานโครงการเกี่ยวกับพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่( Great Divine Plan)
P.20
เมื่อร่างกายทางกายภาพของมนุษย์ตายลง
เมื่อร่างกายทางกายภาพตายลงไม่ได้หมายความว่า DNA ถูกทำลาย นั่นก็หมายความว่า DNA ยังอยู่กับจิตสำนึกเพราะมันมีรูปร่างบอบบางและหลากหลายเชื่อมติดกัน และทั้งนี้จิตสำนึกสามารถใช้เป็นยานพาหนะสำหรับการเคลื่อนย้ายผ่านมิติที่สูงขึ้นของจักรวาล ส่วนหนึ่งจางหายเมื่อมีเหตุการณ์ที่เราเรียกว่าการเสียชีวิตทางกายภาพเกิดขึ้นคือฮาร์โมนิกที่เข้ากับยานพาหนะทางกายภาพ
ฮาร์โมนิก DNA ที่สูงขึ้นยังคงมีจิตสำนึกเพราะอย่างที่ผมกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นความสามารถของการดำรงอยู่หลายมิติ หรือมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายผ่านมิติที่แตกต่างกันโดยใช้ยานพาหนะที่เหมาะสม กล่าวอีกครั้งว่าร่างกายคล้ายดาว(astral body) ตรงกับความถี่คล้ายดาว (astral frequency), ร่างกายทางจิตใจ ความถี่ทางจิตใจหรือระนาบของการของการดำรงอยู่
ฮาร์โมนิก DNA ที่สูงขึ้นยังคงมีจิตสำนึกเพราะอย่างที่ผมกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นความสามารถของการดำรงอยู่หลายมิติ หรือมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายผ่านมิติที่แตกต่างกันโดยใช้ยานพาหนะที่เหมาะสม กล่าวอีกครั้งว่าร่างกายคล้ายดาว(astral body) ตรงกับความถี่คล้ายดาว (astral frequency), ร่างกายทางจิตใจ ความถี่ทางจิตใจหรือระนาบของการของการดำรงอยู่
และอื่น ๆ
นอกเหนือจากนี้ ในทุกวันนี้ DNA และจิตสำนึกจะเชื่อมต่อกับร่างกายอันบอบบางด้วยการประสานกันภายในส่วนที่เป็นเกลียวคู่ชิ้นส่วนจาก ฮาร์โมนิก DNA ที่เล็กมากๆจะแยกออกช้าๆ เป็นรูปร่างทางกายภาพ ส่วนที่เหลือของ DNA ยังคงเหมือนเดิมไม่ได้รับความเสียหายใดๆ และการออกเดินทางไปกับจิตสำนึกในช่วงเวลาอันใกล้มากๆที่จะเสียชีวิต เมื่อจิตสำนึกตระหนักดีว่าเวลาในการเดินทางใกล้เข้ามาแล้ว, กระบวนการไบโอเคมีธรรมชาติก็จะเริ่มต้นให้เปิดใช้งานบางส่วนของโครงสร้าง DNA อาจจะประมาณ 3% เพิ่มเติมเพื่อให้สามารถให้สัมพันธ์กับการรับรู้ที่ดีของมิติแห่งดวงดาว (astral) และความสัมพันธ์ที่ดีของความคมชัดในวิสัยทัศน์เกี่ยวกับดาว(astral) เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นคนส่วนใหญ่จะมองเห็นว่าพวกเขากำลังอยู่ในร่างกายที่โปร่งใส และความรู้สึกรับรู้ของพวกเขาเพิ่มคุณภาพขึ้นอย่างมาก พวกเขาสามารถปรับสภาพแรงโน้มถ่วงของโลกโดยคำสั่งทางความคิด ผ่านกำแพงและอุปสรรคทางกายภาพ ,สามารถบิน, เข้าถึงอวกาศ,เข้าถึงพื้นที่การสื่อสารทางโทรจิต และอื่น ๆ
ปัญหาเมื่อออกจากโลกแล้ว,และผมจะอธิบายในรายละเอียดเพิ่มเติมในงานนำเสนอ,ในเหตุการณ์เมื่อร่างกายเสียชีวิต,จิตสำนึกที่มีการย้ายออกจากพื้นที่ทางกายภาพ, ยังคงอยู่กับการทำงานส่วนที่เป็นเกลียวคู่แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจากความหนาแน่นมากกว่าสู่ระนาบของการดำรงอยู่ที่หนาแน่นน้อยกว่า ในบางกรณีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นกับ DNA 3% ที่เปิดใช้งาน แต่ก็แค่เพียงพอสำหรับการแสดงตนของจิตสำนึกในมิติเกี่ยวกับดาว(astral dimension) ทั้งหมดนี้เป็นวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่โตมากที่ผมจะสอนให้ใครก็ตามที่มีความรู้สึกว่าพร้อมในการจัดสัมมนาของผม
P.21
แม้จะผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการกลับมาเกิดใหม่ เมื่อจิตสำนึกย้อนกลับไปในดินแดนทางกายภาพของการดำรงอยู่และใช้ที่อาศัยทางชีวภาพอื่น ก็จะยังคงรักษาฟังก์ชั่นการใช้งานในส่วนที่เป็นเกลียวคู่อยู่ ... ด้วยศักยภาพเหมือนเดิม มันเหมือนพาหนะของคุณสามารถไปได้รวดเร็วมากสมมุติว่า 30.000 กม. / ชม. แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างคุณจะได้รับอนุญาตให้ใช้แค่ 3 กม. / ชม. เท่านั้น ศักยภาพมีอยู่แต่ไม่ได้ใช้งาน ก็เหมือนนอนหลับสนิท ไม่สามารถเข้าถึงได้และไม่ได้ใช้งานให้เป็นประโยชน์ เราไม่พูดถึงการอาศัยประสาทประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่มีการรับรู้ได้จำกัด บางทีทั้งหมดนี้อยู่ไกลออกไปจากแบบจำลองเริ่มต้นของความเข้าใจที่คนทั่วไปไม่ได้พูดถึง แต่โปรดฟังสิ่งที่ผมบอกไป นี่เป็นสิ่งสำคัญมากที่คุณได้รับข้อมูลนี้ ในความเป็นจริงในมุมมองของผมไม่มีอะไรที่สำคัญกว่านี้อีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้เมื่อเวลาเหลือสั้นมาก สรุป ยิ่งมี การกระตุ้นการใช้งาน DNA มากขึ้น เราก็สามารถเข้าถึงระนาบของการดำรงอยู่อื่นๆ และมีจิตสำนึกอย่างเต็มที่
การ มาถึงของ “งู Cosmic” คลื่นพลังงานที่รู้จักในนาม”NEXUS” มีพลังสูงมากซึ่งเป็นสาเหตุของการกลายพันธุ์ของโครงสร้างดีเอ็นเอ ... เมื่อคุณสัมผัสแสงสีน้ำเงิน-ขาว 97% ของสารพันธุกรรมที่อยู่นิ่งเฉยจะตื่นตัว เปิดทุกความทรงจำของคุณว่าในอดีตที่ผ่านมาคุณคือใคร,ความรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณสะสมไว้ระหว่างการกลับชาติมาเกิดของคุณ,ความสามารถทุกอย่างและพลังงานจะได้รับกลับคืน คุณจะสามารถมองเห็นและเข้าใจภาพที่กว้างขึ้น คุณจะทำหน้าที่อีกครั้งและคุณจะปลอดภัย สุดท้ายคุณจะสามารถดูแลตัวเองได้ด้วย
ปัญหาเดียวที่ของมนุษย์ที่"ผู้ปฏิบัติงานแห่งแสงสว่าง"เป็นกังวลก็คืออำนาจมืดที่อยู่บนโลกใบนี้ได้ตระหนักถึงการมาถึงของพลังงานและสิ่งที่พลังงานมีความสามารถในการกระทำต่อ RNA / DNA ของชีวิต ถ้าไม่หยุดพวกเขาจะพยายามลดประชากรมนุษย์ให้เหลือเพียงหนึ่งในสิบของประชากรที่จะยังคงอยู่ในมิติทางกายภาพ
P.22
วิธีการเล่นเกมจะ เล่นโดยฝ่ายอำนาจมืด แผนการคือการใช้ภัยพิบัติทางธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยใช้ เทคโนโลยีเช่น HAARP และที่คล้ายกันเพื่อให้เกิดการลดลงของประชากรมนุษย์ในมิติทางกายภาพ
P.23
บางทีมันจะทำให้พวกคุณหลายๆคนถึงกับช็อค แต่ในขณะนี้มีสงครามจริงๆระหว่างจิตวิญญาณและยูเอฟโอที่ใหญ่กว่าที่เคย และด้วยฟังก์ชั่นส่วนที่เป็นเกลียวคู่เราอยู่ในสถานการณ์ไม่เป็นที่ไม่น่าพอใจมากที่สุดและเกือบจะเหมือนกับเป็ด(เหยื่อ)ที่กำลังนั่งอยู่ บางทีคุณอาจจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการท่องดวงดาวในเร็วๆนี้และดูด้วยตัวคุณเองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในมิติที่ใกล้เคียงที่สุด ในขณะนี้ที่นี่บนโลกมีสามด้านคือ ด้านหนึ่งประกอบด้วยชนิดทางชีวภาพและไม่ชีวภาพของแสงสว่าง ด้านที่สองประกอบด้วยชนิดทางชีวภาพและไม่ชีวภาพแห่งความมืด และด้านที่สาม ประกอบด้วยคนที่เป็นกลางซึ่งไม่ต้องการมีส่วนร่วม
ในชะตากรรมชาวโลก พวกเราทุกคนมีทางเลือกในการเลือกข้าง
กองกำลังของแสงกำลังต่อสู้เพื่อกระตุ้นมวลชนและการรวบรวมมวลชน ด้วยความพยายามอย่างมากที่จะทำให้เราเข้าร่วมในความ
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การป้องกันตัวเองและโลกของเรา โดยการสร้างโล่ astral ของพลังงานในรูปแบบ ดอกไม้ของชีวิต มีเพียงวิธี เดียวที่พวกอำนาจฝ่ายมืดสามารถเอาชนะมนุษย์คือการย้ายมนุษย์ออกจากการเข้าถึงของลำแสงและการป้องกันการกลายพันธุ์ของโครงสร้าง RNA / DNA ของมนุษย์ ถ้าผู้ทำงานแห่งแสงสว่างและมนุษย์ต่างดาวฝ่ายดี อื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวเราและเฝ้ามองเราอยู่จะไม่ประสบความสำเร็จและสถานการณ์นี้ยังคงเกิดขึ้น ให้จำคำนี้เมื่อเวลามาถึง “ห้ามมองลงไปในน้ำท่วม,แผ่นดินไหวและหวาดกลัวต่อสิ่งที่คุณเห็นจาก มิติคล้ายดาว(astral dimension), คุณไม่ได้มีเวลามากพอที่จะตระหนักว่าร่างกายทางกายภาพของคุณสูญสิ้นไปและสถานการณ์ที่คุณได้อ่านในปี 2010 เกิดขึ้น หยุดความหวาดกลัวและมีสมาธิในการไปได้อย่างรวดเร็วที่ศูนย์กลางของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก บินไปด้วยจิตที่แข็งแกร่งและรวดเร็วและผลักดันสติจิตสำนึกให้สูงสุดโดยไม่ต้องกลัว
ลำแสงอยู่ไม่ไกลเพื่อให้คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลและทันทีที่คุณเห็นลำแสงขนาดมหึมาสีน้ำเงิน-ขาว ตรงเข้าไปในนั้น ตอนนั้นมันจะสัมผัสคุณ การเปลี่ยน DNA จะแล้วเสร็จและคุณจะได้ปลอดภัย แต่คุณต้องจำไว้ว่าคุณมีเวลาสูงสุด 30 วินาทีในการตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและย้ายเนื้อแท้ของคุณใน
ร่างกายแห่งดาว(astral body) ออกจากพื้นที่คล้ายดาวของโลกก่อนที่สิ่งทางลบ
P.24
ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อจะดัก astral body จำข้อมูลไว้ มีเวลาสูงสุด 30 วินาทีที่จะหลบหนีออกจากดาวเคราะห์และไปด้วยตัวเองที่ศูนย์กลาง
กาแล็กซี่ทางช้างเผือก เป็นสิ่งสำคัญมากที่ชัดเจน
ในกรณีการทำงานของฝ่ายพลังมืด ประสบความสำเร็จ จิตสำนึกหลายพันล้านคนก่อนหน้านี้จะถูกนำเดินทางไปใช้กับระบบอื่น ๆ พวกเขาจะถูกเก็บไว้เกือบจะอยู่ในสถานะความฝัน ไม่รู้ตัวโดยสิ้นเชิงว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น บางจิตสำนึกที่มีสติมากขึ้นและจิตสำนึกแบบไดนามิกและไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของโครงสร้างดีเอ็นเอเพิ่มเติมที่ได้รับการปลุกให้ตื่น จะเผชิญกับโฮโลแกรมที่จงใจสร้างขึ้นเช่นพวกเขากำลังบินผ่านอุโมงค์มืดที่มีแสงที่ด้านปลาย และเมื่อข้ามไปพวกเขาจะเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยของ , เมือง, หมู่บ้าน, บ้าน, อาคาร, ถนน, คน, คนรัก,พื้นดินและท้องฟ้าสีฟ้า และทุกสิ่งทุกอย่างที่รับรู้จะระบุว่าเป็นสิ่งแวดล้อมเหมือนโลก แน่นอนในความเป็นจริงมันเป็น
โฮโลแกรม ... สำหรับคริสเตียน พระแม่มารีย์ พระเยซู จะปรากฏขึ้น สำหรับ มุสลิม, ฮินดู, พุทธศาสนาและที่เหลือ อื่น ๆ ภาพที่เห็นก็ทำนองเดียวกัน ... หลังจากจิตสำนึกถูกนำไปยังดาวเคราะห์ที่อื่น พวกเขาจะถูกใส่ลงไปในส่วนที่เป็นเกลียวคู่เข้ากันได้ทางพันธุกรรมกับโฮสต์อื่นและการจัดการอาหาร, การป้อนพลังงานและการผสมข้าม พันธุ์ก็จะดำเนินการต่อมาเป็นเวลาอีกยาวนาน
ทำไมเราไม่ตื่นขึ้นจากความฝัน เริ่มให้ความสนใจในสิ่งที่ครอปเซอร์เคิลบอกความหมายอย่างแท้จริง และเราต้องทำอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ทั้งหมดนี้
ขอให้เชื่อคำพูดของผม มีกลุ่มต่างดาวจำนวนมากที่สามารถทำเช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย และพวกเขาำกำลังทำ เพราะว่ากระบวนการได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว บางคนมีประสบการณ์ในการถูกลักพาตัว ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเกมส์ที่กลุ่มเหล่านั้นสามารถทำได้ และปัญหาใหญ่คือว่าส่วนใหญ่ของนักการเมืองชั้นนำถูกฝังอุปกรณ์ขนาดเล็กๆ และอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มเหล่านั้นอย่างสมบูรณ์
P.25
เพื่อนของผมDavid Icke กล่าวว่านักการเมืองชั้นนำของโลกที่เราเห็นในข่าว จริงๆแล้วไม่ได้รับเลือกโดยประชาชนและกระบวนการเลือกตั้ง แต่พวกเขาจะถูกเลือกก่อนหน้านี้โดยสายเลือดของพวกเขา ส่วนใหญ่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรลับระหว่างประเทศระดับสูง พวกเขาไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำกับคนอื่น ๆ และแน่นอนไม่มีความเห็นอกเห็นใจ และพวกเขาไม่รู้สึกถึงศีลธรรมใดๆเลย พวกเขาเพียงแค่ทำทุกอย่างตามคำสั่งที่ผู้บงการที่แท้จริงต้องการให้บรรลุผล ก็เห็นได้ชัดว่าไม่เกี่ยวกับเงินหรือการควบคุมหรือไม่ใช่การแข่งขันเพื่อไปถึงเทคโนโลยีต่างดาว กลุ่มผู้ปกครองนี้มีเงินอยู่แล้วไม่จำกัด พวกเขาพิมพ์ขึ้นมาเอง และเป็นเจ้าของระบบธนาคาร พวกเขามีเยอะแล้วในเรื่องของเทคโนโลยีวิศวกรรมต่างดาวและพวกเขาควบคุมทุกอย่างในเมทริกซ์นี้ด้วยเกรงว่าสังคมมนุษย์จะมีความวิตกกังวล ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ใหญ่มากที่พวกเราจะพูดถึง
หมายเหตุ : เฉพาะคนที่อยู่ในบางโซนของโลกจะไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเมื่อคุณได้สูญเสียร่างกายทางกายภาพของคุณเนื้อแท้บริสุทธิ์ของคุณถูกบันทึกอยู่ในร่างกายทางจิตวิญญาณ(astral body) มีสองตัวเลือก,โดยการอยู่ในเขตสามเหลี่ยม (ถ้าได้รับข้อมูลเหล่านี้แล้วและก็ไม่ตกใจ) หรือไปด้วยเที่ยวบินจิตวิญญาณ(astral flight)อย่างรวดเร็วมากเข้าสู่ศูนย์กลางของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกเพื่อรับลำแสงแสงสีน้ำเงิน-ขาว ทั้งสองวิธีเมื่อสัมผัสกับแสงของผู้สร้าง, DNA จะเปิดใช้และทำงาน -- คุณจะมีความปลอดภัย
นี่เป็นเพียงเรื่องตลกที่แย่ใช่ไหม?
ผมขอให้มันเป็นเช่นนั้น
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการฉีดวัคซีนมีวัตถุประสงค์เพื่อลดประชากรโลกเป็นที่มาของการกำหนดเป้าหมายการเจ็บป่วยในระยะยาว,เด็กและสตรีมีครรภ์ แล้วอะไรที่ไม่ได้ตกอยู่ในกลุ่มคลื่นลูกแรกของพวกเขา? ผู้คนกลัวเป็นอย่างยิ่งต่อพวกIlluminoids เพราะพวกเขามีความสมบูรณ์,สติปัญญาและศักยภาพการต้านทานที่เรียกว่า New World Order การใช้อนุภาคนาโนในการยิงประเภทนี้มีเป้าหมายเพื่อต่อสู้วัตถุประสงค์เพื่อแทรก"ชิป"ที่น่ากลัวมากในคนที่จะสามารถติดตามและควบคุมได้โดยทั่วไปเพื่อใช้เป็นแรงงานทาส, แรงงานฝีมือและอื่นๆ ประชากรทั้งหมดทั่วโลกจะมีการกำหนดเป้าหมาย พวกเขาหวังไว้อย่างนั้น
ผมขอให้มันเป็นเช่นนั้น
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการฉีดวัคซีนมีวัตถุประสงค์เพื่อลดประชากรโลกเป็นที่มาของการกำหนดเป้าหมายการเจ็บป่วยในระยะยาว,เด็กและสตรีมีครรภ์ แล้วอะไรที่ไม่ได้ตกอยู่ในกลุ่มคลื่นลูกแรกของพวกเขา? ผู้คนกลัวเป็นอย่างยิ่งต่อพวกIlluminoids เพราะพวกเขามีความสมบูรณ์,สติปัญญาและศักยภาพการต้านทานที่เรียกว่า New World Order การใช้อนุภาคนาโนในการยิงประเภทนี้มีเป้าหมายเพื่อต่อสู้วัตถุประสงค์เพื่อแทรก"ชิป"ที่น่ากลัวมากในคนที่จะสามารถติดตามและควบคุมได้โดยทั่วไปเพื่อใช้เป็นแรงงานทาส, แรงงานฝีมือและอื่นๆ ประชากรทั้งหมดทั่วโลกจะมีการกำหนดเป้าหมาย พวกเขาหวังไว้อย่างนั้น
P.26
แต่มีเหตุผลลับมากกว่านี้สำหรับความตั้งใจที่จะแนะนำวัคซีนสู่ทุกกลุ่ม,วัคซีนทำให้รอดตายหรือไม่และเพื่อการลดลงของการกลายพันธุ์ RNA / DNA, ข้อสังเกตแรกที่พบในประชากรทั่วโลกจากทั้งหมด ช่วงกลางทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา แต่ก่อนที่เราจะเข้าถึงเรื่องที่สำคัญ เราต้องเข้าใจเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีการที่รังสีคอสมิกเจาะเข้ามาในระบบสุริยะจักรวาลของเราและอิทธิพลของมันที่มีต่อระดับ DNA ของสิ่งมีชีวิต
รังสี Cosmic การเจาะเข้าไปในระบบสุริยะจักรวาล เช่นเดียวกับโลกระบบสุริยะของเรามีบรรยากาศของตัวเองหรือที่เรียกว่าHeliosphere มันเป็นฟองลูกโป่งที่ปกป้องระบบ ล้อมรอบดวงอาทิตย์และทั้งหมดของดาวเคราะห์ขณะที่ระบบของเราเดินทางผ่านอวกาศ หนึ่งในหน้าที่ของมันคือการปิดกั้นการแทรกซึมเข้าของรังสีคอสมิก, ฝุ่นจักรวาลและทุกชนิดของวัสดุในอวกาศ เขตแดนระหว่าง heliosphere และสื่อกลางระหว่างดวงดาวเป็นที่รู้จักกันในนาม Heliopause เช่นเดียวกับบรรยากาศแม่เหล็ก(magnetosphere) ของโลก การเคลื่อนที่ของheliopause สร้าง"หัว"กลมๆและหางแคบๆ ระหว่างช่วงดวงอาทิตย์สูงสุดที่ผ่านมามันก็แสดงให้เห็นความผิดปกติทันทีทันใดอย่างชัดเจนมันหยุดการทำงาน มันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและยังคงปล่อยให้ฝุ่นจักรวาลและรังสีคอสมิกเข้าสู่ระบบของเรา ตอนที่ heliopause พังทลายเมื่อเร็ว ๆนี้ ได้ค้นพบว่า thermosphereของโลกพังทลายลงด้วย นี่ยังไม่ได้พูดถึงในปี 2009 ที่นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าขั้วแม่เหล็กโลกเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งก่อนหน้านี้ในอัตรา 37 ไมล์ต่อปี อัตราการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่เกิดขึ้นภายในดวงอาทิตย์ของเราและพลังงานที่เข้าใกล้มาทุกที อีกปัจจัยที่สำคัญสำหรับพฤติกรรมดังกล่าวของสนามแม่เหล็กอาจจะมีผลจากแรงโน้มถ่วงของวัตถุบางอย่างในอวกาศที่เคลื่อนผ่านใกล้ๆกับดาวพลูโต ในความเป็นจริงแรงโน้มถ่วงของวัตถุในอวกาศนี้นี้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของความเร็วของการหมุนของสนามแม่เหล็กของโลก
P.27
บทความที่น่าสนใจเมื่อเร็ว ๆ นี้ : http://www.allheadlinenews.com/articles/7017531445
".. แรงลึกลับกำลังเคลื่อนย้ายขั้วแม่เหล็กเหนือของโลก และไม่มีใครแน่ใจว่าสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปยังแกนแม่เหล็กของโลกคืออะไร สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดทราบคือขั้วแม่เหล็กเหนือของโลกกำลังย้ายไปยัง
".. แรงลึกลับกำลังเคลื่อนย้ายขั้วแม่เหล็กเหนือของโลก และไม่มีใครแน่ใจว่าสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปยังแกนแม่เหล็กของโลกคืออะไร สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดทราบคือขั้วแม่เหล็กเหนือของโลกกำลังย้ายไปยัง
ไซบีเรียที่ความเร็ว 37 ไมล์ต่อปีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามมันไม่น่าเป็นไปได้ที่จะหยุด นักวิทยาศาสตร์พบขั้วแม่เหล็กเหนือของโลกในปี1831
และมันอยู่นิ่งมาก จนกระทั่งในปี 1904 เมื่อมันเริ่มต้นย้ายตำแหน่งสู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ประมาณ 9 ไมล์ต่อปี อย่างไรก็ตามในปี1989 มันเร่งความเร็วมากขึ้นและในปี 2009 นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่ามันกำลังย้ายด้วยความเร็ว 37 ไมล์ต่อปีสู่รัสเซีย ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแผ่นดินไหว,ภูเขาไฟระเบิด,น้ำท่วม; สภาพภูมิอากาศไม่สามารถควบคุมได้ ผู้คนกำลังตายจำนวนมากทุกวันทั่วโลก ประมาณ 2,000 คนเสียชีวิตในน้ำท่วมที่ปากีสถานและมากกว่า 6 ล้านคนไม่มีที่อยู่อาศัย ทั่วเมืองและภูมิภาคถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ เมื่อปี 2010 เริ่มขึ้นเราจะเห็นสถานการณ์คล้ายกันทุกที่บนโลก
แม้จะมีสภาพอากาศผิดปกติทางธรรมชาติ แต่มีหลักฐานที่หนักแน่นว่าใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการก่อให้เกิดภัยพิบัติมากขึ้นนั่นคือ ... สิ่งลวงตา คราบน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ผมประหลาดใจจริงๆว่าอะไรทำให้เรากลายเป็นคนตาบอดและโง่เขลา ถึงอย่างไรก็ตามเมื่อเร็ว ๆ นี้นักดาราศาสตร์เชื่อกันว่าระบบสุริยะของเรามีพื้นที่ค่อนข้างปลอดจากฝุ่นจักรวาล ฝุ่นจักรวาลและวัสดุแช่แข็งของอวกาศถูกเก็บไว้นอกฟองลูกโป่งที่ป้องกันระบบเรานี้ ได้รับการยืนยันเมื่อยานอวกาศ IRAS และUlysses พบภาพอินฟราเรดของระบบสุริยะจักรวาลที่ล้อมรอบด้วยเมฆฝุ่นของฝุ่นจักรวาลที่เพิ่มขึ้นด้วยความหนาแน่นเหนือดาวเสาร์
P.28
ดังนั้นถ้าฝุ่นจักรวาลอยู่รอบ heliopause, อะไรที่ทำให้มันเจาะ heliopause และเข้ามาภายใน heliosphere? และมันเกิดพร้อมกับ solar minimum ที่มองไม่เห็นช่วงยาวนานในปี 2008-2009 ก่อนหน้านี้ และกิจกรรมแสงอาทิตย์มหาศาลที่เรากำลังเห็นตั้งแต่ต้นปี 2010ได้อย่างไร?
ต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีการเฝ้าระวังที่ปล่อยสู่อวกาศไม่นานที่ผ่านมา มีการยืนยันว่ามีบางอย่างกำลังรบกวน heliopauseจากภายนอกที่ส่งผลกระทบ ลากฝุ่นจักรวาลเข้ามาและกำลังกระตุ้นดวงอาทิตย์ พลังงานดังกล่าวส่งผลกระทบอันยิ่งใหญ่ ที่เป็นเหตุผลสำคัญมากที่สุดก็คือพลังงานมหาศาลที่ปล่อยออกจากจุดศูนย์กลางของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก การตรวจวัดฝุ่นจักรวาลที่ไหลเข้ามาภายใน heliopause พบว่าได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงเกือบสามเท่าของขนาดเดิมตั้งแต่ solar maximum ที่ผ่านมาในปี 2001 ในช่วงสูงสุดของดวงอาทิตย์รอบ 11 ปี, ขั้วของดวงอาทิตย์จะกลับขั้ว – ขั้วเหนือเป็นขั้วใต้ ในระยะเวลาสั้น ๆ นี้ความไม่แน่นอนของแม่เหล็กจะทำให้ฝุ่นละอองของจักรวาลป้อนเข้าสู่ heliopause เพราะ"โล่"ป้องกันของดวงอาทิตย์จะลดลง แต่เมื่อขั้วใหม่ถูกจัดตั้งขึ้นดวงอาทิตย์จะปิดกั้นฝุ่นจักรวาลได้อย่างรวดเร็ว แต่เวลานี้ (2001) มันไม่ได้เกิดขึ้น ฝุ่นจักรวาลได้ไหลเข้ามาจากทิศทางใจกลางกาแล็กซี่และนักดาราศาสตร์ไม่สามรถอธิบายว่าทำไม นี่เป็นครั้งแรกที่เหตุการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นอย่างน้อยในระยะเวลาของการติดตามดวงอาทิตย์ของเรา
ทำไมกรณีนี้ถึงได้เกิดขึ้น?
บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงสูงสุดดวงอาทิตย์ที่ผ่านมาในปี 2001
โล่ ป้องกันรอบ ๆ ระบบสุริยะของเราด้วยเหตุผลบางประการมีประสิทธิภาพน้อยและทำให้ฝุ่นกาแล็กซี่จากพื้นที่รอบนอกทะลุผ่านเข้ามาภายในอย่างต่อเนื่อง และก็ยังคงเข้ามาเรื่อยๆ การทะลุทะลวงครั้งใหญ่ของมันส่งผลกระทบ
ต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีการเฝ้าระวังที่ปล่อยสู่อวกาศไม่นานที่ผ่านมา มีการยืนยันว่ามีบางอย่างกำลังรบกวน heliopauseจากภายนอกที่ส่งผลกระทบ ลากฝุ่นจักรวาลเข้ามาและกำลังกระตุ้นดวงอาทิตย์ พลังงานดังกล่าวส่งผลกระทบอันยิ่งใหญ่ ที่เป็นเหตุผลสำคัญมากที่สุดก็คือพลังงานมหาศาลที่ปล่อยออกจากจุดศูนย์กลางของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก การตรวจวัดฝุ่นจักรวาลที่ไหลเข้ามาภายใน heliopause พบว่าได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงเกือบสามเท่าของขนาดเดิมตั้งแต่ solar maximum ที่ผ่านมาในปี 2001 ในช่วงสูงสุดของดวงอาทิตย์รอบ 11 ปี, ขั้วของดวงอาทิตย์จะกลับขั้ว – ขั้วเหนือเป็นขั้วใต้ ในระยะเวลาสั้น ๆ นี้ความไม่แน่นอนของแม่เหล็กจะทำให้ฝุ่นละอองของจักรวาลป้อนเข้าสู่ heliopause เพราะ"โล่"ป้องกันของดวงอาทิตย์จะลดลง แต่เมื่อขั้วใหม่ถูกจัดตั้งขึ้นดวงอาทิตย์จะปิดกั้นฝุ่นจักรวาลได้อย่างรวดเร็ว แต่เวลานี้ (2001) มันไม่ได้เกิดขึ้น ฝุ่นจักรวาลได้ไหลเข้ามาจากทิศทางใจกลางกาแล็กซี่และนักดาราศาสตร์ไม่สามรถอธิบายว่าทำไม นี่เป็นครั้งแรกที่เหตุการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นอย่างน้อยในระยะเวลาของการติดตามดวงอาทิตย์ของเรา
ทำไมกรณีนี้ถึงได้เกิดขึ้น?
บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงสูงสุดดวงอาทิตย์ที่ผ่านมาในปี 2001
โล่ ป้องกันรอบ ๆ ระบบสุริยะของเราด้วยเหตุผลบางประการมีประสิทธิภาพน้อยและทำให้ฝุ่นกาแล็กซี่จากพื้นที่รอบนอกทะลุผ่านเข้ามาภายในอย่างต่อเนื่อง และก็ยังคงเข้ามาเรื่อยๆ การทะลุทะลวงครั้งใหญ่ของมันส่งผลกระทบ
ผมอาจจะใช้คำว่าค่า"เริ่มต้น"(Default) ของพฤติกรรมของดวงอาทิตย์เรา
P.29
มันเห็นได้ชัดว่ามีความเกี่ยวข้องระหว่างบางสิ่งที่เราไม่รู้จักระหว่างดาวฤกษ์ของเราและหลุมดำขนาดใหญ่ของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่าระบบสุริยะของเราพบพลังงานที่รุกรานมาจากการระเบิดที่แกนกาแล็กซี่ ขณะที่เราเคลื่อนเข้าไปใกล้ปี 2012ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเกิดผลกระทบอย่างมากและอันตรายที่อาจเกิดจากเปลวดวงอาทิตย์และการปล่อยมวลโคโรน่า มีข้อมูลสำคัญแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดคล้ายคลึงกับที่คาดไว้ใน"สถานการณ์ 2012", การเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมาแล้วในประวัติศาสตร์ของโลกและได้รับการบันทึกโดยมนุษย์โบราณ เหตุการณ์นี้ปรากฏล่าสุดในระยะเวลาหลายปีในช่วงเวลาที่เชื่อถือได้สำหรับจุดสิ้นสุดอย่างกะทันหันของยุคน้ำแข็งครั้งล่าสุดที่ผ่านมาทำให้จำนวนของประชากรมนุษย์ลดลงอย่างมาก ผลการวิจัยที่น่าแปลกใจของเพื่อนที่ดีคนหนึ่งของผม Dr. Paul LaViolette (PhD), และได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์รุนแรงสุดขีดของแสงอาทิตย์มีความสอดคล้องกับรังสีที่มาจากศูนย์กลางของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกและมีความสัมพันธ์กับรังสีแกมมาและฝุ่นจักรวาล ข้อสังเกตล่าสุดได้แสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากของพลังงานรังสีแกมมาที่บริเวณเส้นศูนย์สูตรของกาแลกซี เรากำลังพูดถึงเกี่ยวกับSuperwave ของอนุภาคที่มีพลังงานสูงมาก (งู คอสมิก) ที่มีคุณสมบัติผิดปกติและกำลังเดินทางมาทางเรา คลื่นพลังงานแบบเดียวกันที่ไม่ทราบองค์ประกอบนี้มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เราเห็นรอบตัวเรารวมทั้งเราด้วย ถ้าจำนวนเล็กน้อยของรังสีคอสมิกที่มาถึงเรามีความสามารถในการกลายพันธุ์ของ DNA มันก็ไม่ยากที่จะเข้าใจว่ารังสีคอสมิกจำนวนมากสามารถจะทำอะไรได้ บางทีพวกคุณบางคนที่เป็นนักพันธุศาสตร์อาจจะพูดว่า ... ใช่แล้ว, การกลายพันธุ์กำลังเกิดขึ้นเพราะเรามีการบริโภคอาหารที่มีผลต่อพันธุกรรม ไม่ใช่,อาหารทำให้หยุดการกลายพันธุ์ของ DNAที่กำลังเกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เป็นผลของรหัสใหม่ที่เข้ามาพร้อมกับรังสีคอสมิก ผมจะอธิบายในรายละเอียดเพิ่มเติมในงานนำเสนอ ผมคิดว่าคุณต้องมีข้อมูลข่าวสารแล้วนะตอนนี้; เรากำลังเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ ที่ยิ่งใหญ่ ในเวลาเพียง สองปีต่อจากนี้ บางทีสำหรับบางข้อมูล นี่เป็นเพียง 26,000 ปี ที่รังสีแกมมามฤตยูระเบิดจาก SGR A *, แต่มีบางสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่งที่จะคาดคิดได้ อย่างไรก็ตามสำหรับการเปิดใจ ... มันมากเกินกว่านั้น จะมีการได้รับการสัมผัสกับผู้ออกแบบรังสีคอสมิกด้วยตัวเอง มันเป็นโปรแกรมสุดยอดจากผู้ออกแบบคอสมิกเดียวกันกับ ที่สร้างทั้งหมด ทั้งดาวเคราะห์,ดาวฤกษ์, กาแล็กซี่,คลัสเตอร์และซุปเปอร์คลัสเตอร์การที่เราจะได้เห็นนี้เป็นโอกาสของเราเพื่อความเป็นอิสระและวิวัฒนาการ
P.30
ลำแสงรังสีน้ำเงิน-ขาวของผู้ออกแบบจะทำการเปลี่ยนองค์ประกอบของ DNA ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเข้ามาสัมผัสด้วยแต่สำหรับสิ่งที่ดีที่สุดของความรู้ของผม มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ส่วนอารมณ์ความรู้สึกของแก่นแท้บริสุทธิ์ได้รับการสัมผัส มีความสะอาดและได้รับผลในแง่บวกในธรรมชาติมากเท่าที่จะมากได้
ทำไมเป็นแสงสีน้ำเงิน-ขาวล่ะ?
นักวิทยาศาสตร์พบว่าที่แกนกลางของกาแล็กซี่ที่มีความ active นี้สามารถส่องแสงสว่างสว่างมากกว่ากาแล็กซี่ด้วยตัวเอง นี่ก็คืออิเล็กตรอนของรังสีคอสมิกออกมาจากแกนกลางของกาแล็กซี่เข้าใกล้ความเร็วแสงสร้างแสงสว่างสีน้ำเงินที่สว่างมาก,สร้างแขนของกาแล็กซี่ให้ขดเป็นก้นหอยและมวลแวดล้อมของดาว
ความแตกต่างในระยะทางที่ค้นพบ-สองสิ่งนี้กำลังเคลื่อนที่อย่างสูงสุด ตั้งแต่ระบบสุริยะของเราในปัจจุบันอยู่ที่ตำแหน่งที่เชื่อมต่อระหว่างกาแล็กซี่กลุ่มดาวม้าและกาแล็กซื่ทางช้างเผือก การมาถึงของรังสีคอสมิกจะมีผลกระทบต่อเราอย่างแน่นอน
มันถูกตรวจพบหรือไม่?
สิ่งยืนยันว่าจริง
สองอันที่เรียกว่า"เส้นใย x - ray"ลึกลับมีการตรวจพบในปี 2009 และจากนั้นเส้นใย x - ray ที่ 3 ที่มีลักษณะสีน้ำเงิน-ขาวตรวจพบในเดือนมกราคมปีนี้ หอสังเกตการณ์ X - Ray ยังไม่ได้ปล่อยภาพใหม่ที่เราสามารถคำนวณความเร็วของการเคลื่อนไหวของพวกมันอย่างง่ายๆ พวกมันคือเส้นใย x - ray ขนาดใหญ่และเป็นสามกลุ่มแรกในสิบสองที่จะถูกตรวจพบและมาถึงเรา เปลี่ยนโครงสร้างและDNAของเราและ
สิ่งยืนยันว่าจริง
สองอันที่เรียกว่า"เส้นใย x - ray"ลึกลับมีการตรวจพบในปี 2009 และจากนั้นเส้นใย x - ray ที่ 3 ที่มีลักษณะสีน้ำเงิน-ขาวตรวจพบในเดือนมกราคมปีนี้ หอสังเกตการณ์ X - Ray ยังไม่ได้ปล่อยภาพใหม่ที่เราสามารถคำนวณความเร็วของการเคลื่อนไหวของพวกมันอย่างง่ายๆ พวกมันคือเส้นใย x - ray ขนาดใหญ่และเป็นสามกลุ่มแรกในสิบสองที่จะถูกตรวจพบและมาถึงเรา เปลี่ยนโครงสร้างและDNAของเราและ
P.31
โลกที่เรารู้จัก คำชี้แจงอย่างเป็นทางการของนาซาก็คือมันกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมากและพวกเขาไม่มีความคิดเห็นตรงจุดนี้ว่าอะไรเป็นสาเหตุของมัน
นั่นคือ ... อย่างเป็นทางการแน่นอน
ปิดการบันทึก ... พวกเขามีความตระหนักถึงสถานการณ์ที่แท้จริง พวกเขาให้ไฟล์วิดีโอเล็กน้อยของการระเบิด SGR A * บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพวกเขา – ลำแสง และพลังงานที่ปล่อยออกมากำลังแผ่กระจายตามแนวระนาบกาแล็คซี่ พวกเขาสร้างมันก็เพื่อแสดงต่อคนอื่น ๆ ให้รู้ว่าอาจจะยังมีบางที่ที่จะต้องศึกษาและค้นหาข้อมูลที่มีประโยชน์ แต่ส่วนใหญ่,ไม่อย่างแน่นอนเพราะว่าผู้คนไม่ได้มีความรู้เพียงพอที่จะเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา และความหมายที่แท้จริงสำหรับชีวิตบนโลก การเดินทางในช่วง 26,000ปีแสงเข้ามาหาเราอิเล็กตรอนรังสีคอสมิกที่มีพลังงานสูงนี้จะสร้างแสงสี น้ำเงิน-ขาว
อย่างต่อเนื่อง ดังที่ผู้แสดงครอปเซอร์เคิลได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน, ในไม่ช้านี้หลังจากที่เรามองเห็นในวันที่ 13 ธันวาคม 2012เมื่อดวงจันทร์ของเราจะเป็นแบบหยาง(หลักปรัชญาจีน), Superwave ของรังสีคอสมิกจะเริ่มเจาะสนามแม่เหล็กที่ป้องกันของระบบสุริยะของเรา มื่อเวลานั้นมาถึงทันทีที่พวกมันทะลุทะลวงเข้ามาภายใน heliopause พวกมันก็จะก่อให้เกิดเครือข่ายในรูปแบบของใยแมงมุมเรืองแสงบางๆยืดออกมาจากฟากฟ้า
ปิดการบันทึก ... พวกเขามีความตระหนักถึงสถานการณ์ที่แท้จริง พวกเขาให้ไฟล์วิดีโอเล็กน้อยของการระเบิด SGR A * บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพวกเขา – ลำแสง และพลังงานที่ปล่อยออกมากำลังแผ่กระจายตามแนวระนาบกาแล็คซี่ พวกเขาสร้างมันก็เพื่อแสดงต่อคนอื่น ๆ ให้รู้ว่าอาจจะยังมีบางที่ที่จะต้องศึกษาและค้นหาข้อมูลที่มีประโยชน์ แต่ส่วนใหญ่,ไม่อย่างแน่นอนเพราะว่าผู้คนไม่ได้มีความรู้เพียงพอที่จะเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา และความหมายที่แท้จริงสำหรับชีวิตบนโลก การเดินทางในช่วง 26,000ปีแสงเข้ามาหาเราอิเล็กตรอนรังสีคอสมิกที่มีพลังงานสูงนี้จะสร้างแสงสี น้ำเงิน-ขาว
อย่างต่อเนื่อง ดังที่ผู้แสดงครอปเซอร์เคิลได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน, ในไม่ช้านี้หลังจากที่เรามองเห็นในวันที่ 13 ธันวาคม 2012เมื่อดวงจันทร์ของเราจะเป็นแบบหยาง(หลักปรัชญาจีน), Superwave ของรังสีคอสมิกจะเริ่มเจาะสนามแม่เหล็กที่ป้องกันของระบบสุริยะของเรา มื่อเวลานั้นมาถึงทันทีที่พวกมันทะลุทะลวงเข้ามาภายใน heliopause พวกมันก็จะก่อให้เกิดเครือข่ายในรูปแบบของใยแมงมุมเรืองแสงบางๆยืดออกมาจากฟากฟ้า
ไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งก็เข้าใจว่าผลของการมาของรังสีคอสมิกเหล่านั้นทำให้ RNA / DNA ของเราเปลี่ยนพวกเรากำลังกลายพันธุ์และมีกระบวนการตื่นที่ยิ่งใหญ่ เด็กๆมากมายที่เกิดมาทุกที่แสดงความสามารถโดยการติดต่อทางโทรจิตและ พลังจิต,มีความสามารถเกี่ยวกับด้านจิตใจ และสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว เฉพาะในทวีปแอฟริกามีกรณีของเด็กที่เกิดมามีผิวเผือกสีขาวอย่างสมบูรณ์ขณะที่พ่อแม่ของพวกเขามีผิวสีดำ มนุษยชาติอยู่ภายใต้การควบคุมดู และชนิดของโปรแกรมทางพันธุกรรมที่แตกต่างกันด้วยสายพันธุ์ต่างดาวจำนวนมากมันเกิดขึ้นมาหลายพันปีให้หลังแล้วแต่ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาพวกเรากำลังมีเหตุการณ์นี้เพิ่มมากขึ้นและตระหนักถึงการแสดงตัวและกิจกรรมของพวกเขา อย่างไรก็ตามการใช้สารฟลูออไรด์,aspartame,การจัดการทางพันธุกรรมอาหาร,วัคซีนและเครื่องมืออื่น ๆ อีกมากมายเป็นเพียงการชะลอการกลายพันธุ์เพื่อชะลอการกระตุ้นและวิวัฒนาการของสายพันธุ์มนุษย์ ในขณะนี้มันเป็นเป็นความวุ่นวายยุ่งเหยิงบนโลกของเราตั้งแต่หลายวัฒนธรรมมีวาระประชุมที่แตกต่างกันออกไป รัฐบาลของเราไม่ได้ทำอะไรเพื่อเรา พวกเขาปฏิเสธ
P.32
หลักฐานว่าเราไม่ได้อยู่โดยลำพัง,พวกเราไม่ได้กำลังควบคุมที่ดิน, น้ำ, อากาศของโลก และแน่นอนไม่ใช่ระบบสุริยะ
อย่างไรก็ตาม คุณทราบไหมว่า DNA แบบเกลียวคู่ที่มีชื่อเสียงนี้ ถูกค้นพบโดย Watson และ Crick, มีมีความคิดเป็น”ขยะ"วิวัฒนาการแต่จริงๆแล้วฟั่นเกลียวของเส้นที่ 3 เพิ่มมากขึ้นกว่าในการสื่อสารกับอีกสองเส้น?
ศักยภาพของเส้นใยเข้ารหัสของแสงในกลุ่มฟั่นเกลียวเหล่านี้จะนำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายในสิบสองฟั่นเกลียว RNA / DNA มีความสำคัญที่เป็นกังวลต่อกลุ่มอิลูมินาติอย่างมากเพราะเมื่อเปิดใช้งานแล้วก็จะทำให้มนุษย์กลายเป็นประเภทใหม่ลักษณะเหนือมนุษย์ หรือ superman สามารถใช้สมองอย่างเต็มที่ (ปัจจุบันใช้เพียงหนึ่งในสิบของศักยภาพ) ระบบต่อมไร้ท่อมีการเปลี่ยนแปลง, การยกระบบปฏิบัติการแบบบูรณาการและทำงานได้อย่างสมบูรณ์ของเจ็ดจักราในระดับ aethericและmorphing(เหมือนการเปลี่ยนภาพด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์) ภายในระบบสิบสามจักรา
อย่างไรก็ตาม คุณทราบไหมว่า DNA แบบเกลียวคู่ที่มีชื่อเสียงนี้ ถูกค้นพบโดย Watson และ Crick, มีมีความคิดเป็น”ขยะ"วิวัฒนาการแต่จริงๆแล้วฟั่นเกลียวของเส้นที่ 3 เพิ่มมากขึ้นกว่าในการสื่อสารกับอีกสองเส้น?
ศักยภาพของเส้นใยเข้ารหัสของแสงในกลุ่มฟั่นเกลียวเหล่านี้จะนำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายในสิบสองฟั่นเกลียว RNA / DNA มีความสำคัญที่เป็นกังวลต่อกลุ่มอิลูมินาติอย่างมากเพราะเมื่อเปิดใช้งานแล้วก็จะทำให้มนุษย์กลายเป็นประเภทใหม่ลักษณะเหนือมนุษย์ หรือ superman สามารถใช้สมองอย่างเต็มที่ (ปัจจุบันใช้เพียงหนึ่งในสิบของศักยภาพ) ระบบต่อมไร้ท่อมีการเปลี่ยนแปลง, การยกระบบปฏิบัติการแบบบูรณาการและทำงานได้อย่างสมบูรณ์ของเจ็ดจักราในระดับ aethericและmorphing(เหมือนการเปลี่ยนภาพด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์) ภายในระบบสิบสามจักรา
กระบวนการทางธรรมชาติของซุปเปอร์วิวัฒนาการนี้
สร้างสายพันธุ์”Novaman"ซึ่งเป็นภัยคุกคามอย่างรุนแรงต่อฐานอำนาจ NWO เพราะมนุษย์ดังกล่าวจะสามารถสื่อสารโดยการติดต่อทางจิตในโลกและนอกโลก จิตสำนึกของพวกเขาจะยกระดับเหนือมนุษย์ เพิ่มอำนาจจิตใจ,ที่แฝงอยู่ในขณะนี้ และเติบโต มนุษย์และได้รับอธิปไตยและไม่ถูกใช้งานโดยอิลูมินาติ
อีกต่อไป ความมุ่งที่เลวมากของ ฝ่ายมืด (การจัดอันดับร่างกายใน Cabalistic / Alchemic สูงสุดของโครงสร้างการปกครองของพวก อิลูมินาติ) ก็คือวัคซีนอนุภาคนาโนจะรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับตัวกระทำฟั่นเกลียวของยีนส์ มีจุดประสงค์เพื่อหยุดการรับผลของของกาแล็กซี่ (รังสีคอสมิก) สัญญาณและข้อมูลที่กระตุ้นการกลายพันธุ์ระดับโมเลกุลโดยเชื่อมต่อการสื่อสารกลุ่มฟั่นเกลียวในระดับเซลล์
วิธีที่สอง เพื่อป้องกันไม่ให้สัญญาณกาแล็กซี่ผ่านเข้ามา ก็คือการเปลี่ยนความถี่ของบรรยากาศโดยใช้ airborn พ่นฝุ่นละอองที่ลดความเข้มของรังสีม่วงที่ระดมยิงสู่โลกของเราและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในมนุษย์ ตอบสนองต่อการป้อนพลังงาน อย่างน้อยที่สุดหนึ่งในสี่ของมนุษย์โลกตอบสนองเป็นอย่างมากต่อการเข้ามาของลำรังสีเหล่านี้ถูกทำให้กลายพันธุ์
ที่ NWO พิจารณาว่าเป็น"อัตราที่น่ากลัว."
ความจริงก็คือว่าขณะนี้การแข่งขันของสายพันธุ์มนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและ DNA ได้ active มากขึ้นและเริ่มใช้งานในรูปแบบที่มีต่อโครงสร้าง DNA แบบทริปเปิ้ล เนื่องจาก DNA เสมือนเป็นเสาอากาศมันง่ายต่อการตอบสนองต่อสัญญาณ
ความจริงก็คือว่าขณะนี้การแข่งขันของสายพันธุ์มนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและ DNA ได้ active มากขึ้นและเริ่มใช้งานในรูปแบบที่มีต่อโครงสร้าง DNA แบบทริปเปิ้ล เนื่องจาก DNA เสมือนเป็นเสาอากาศมันง่ายต่อการตอบสนองต่อสัญญาณ
P.33
ที่ได้รับที่กำลังนำโมเลกุลของ DNA เพื่อกำหนดค่าตัวเอง ซึ่งหมายถึงพวกเรามากมายเร็ว ๆ นี้จะอยู่ในตำแหน่งที่ต่อต้านพันธมิตรฝ่ายลบเมื่อเวลานั้นมาถึงนั่นคือเหตุผลที่เราจำเป็นต้องเปิด เพื่อเปลี่ยนทางเดินของเรา เพื่อปลดปล่อยระบบความเชื่อเก่าๆเพื่อเรียนรู้ที่จะใช้ศักยภาพเหล่านั้น
สรุปผู้ปฏิบัติงานในฝ่ายมืดกำลังเร่งดำเนินการโครงการ บ้าๆของพวกและ NOW ก่อนปี 2012 New World Order การดำเนินการพวกเขาจะจัดตั้งรัฐบาลเดียวของโลกและจะให้อำนาจตามกฎหมายแก่พวกเขาที่จะใช้อาวุธในการฆ่าหลายพันล้านคนในนามของขบวนการเพื่อความสงบของโลกและการก่อการร้ายทั่วโลก แล้วดักพันล้านจิตสำนึกในมิติที่แห่งดวงดาว(astral dimension)อยู่ภายในเรื่องบรรจุสนามพลังงานขนาดใหญ่ บรรจุเก็บไว้ในยานอวกาศขนาดใหญ่และนำตัวไปจากคลื่นพลังงานที่ใกล้มาถึง และทั้งหมดที่เราเห็นบนชั้นวางของร้านอาหารขนาดใหญ่ก็เพื่อป้องกันการวิวัฒนาการ ของDNA มนุษย์ที่จะกลับกลายมามีจิตสำนึกสูง ส่วนที่น่าเศร้าคือ 99.9% ของประชากรมนุษย์ไม่มีความคิดว่าเราถูกบังคับให้ใช้อาหารจัดการทางพันธุกรรมอยู่หรือไม่?
สรุปผู้ปฏิบัติงานในฝ่ายมืดกำลังเร่งดำเนินการโครงการ บ้าๆของพวกและ NOW ก่อนปี 2012 New World Order การดำเนินการพวกเขาจะจัดตั้งรัฐบาลเดียวของโลกและจะให้อำนาจตามกฎหมายแก่พวกเขาที่จะใช้อาวุธในการฆ่าหลายพันล้านคนในนามของขบวนการเพื่อความสงบของโลกและการก่อการร้ายทั่วโลก แล้วดักพันล้านจิตสำนึกในมิติที่แห่งดวงดาว(astral dimension)อยู่ภายในเรื่องบรรจุสนามพลังงานขนาดใหญ่ บรรจุเก็บไว้ในยานอวกาศขนาดใหญ่และนำตัวไปจากคลื่นพลังงานที่ใกล้มาถึง และทั้งหมดที่เราเห็นบนชั้นวางของร้านอาหารขนาดใหญ่ก็เพื่อป้องกันการวิวัฒนาการ ของDNA มนุษย์ที่จะกลับกลายมามีจิตสำนึกสูง ส่วนที่น่าเศร้าคือ 99.9% ของประชากรมนุษย์ไม่มีความคิดว่าเราถูกบังคับให้ใช้อาหารจัดการทางพันธุกรรมอยู่หรือไม่?
อย่างไรก็ตามทำไมไม่ทำเช่นนี้ตอนนี้อย่างเปิดเผย? ทำไมถึงไม่ลดเราในตอนนี้? ทำไมต้องรอกระทั่งถึงท้ายที่สุด? ใครสามารถหยุดพวกเขา? พวกเขาไม่สามารถดำเนินการได้โดยตรงเพราะมีคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่นี่ตอนนี้และกำลังเฝ้ามองดูอยู่ และจะไม่อนุญาตให้กระทำการดังกล่าว พวกเขายังคงยืนอยู่ข้างๆ กฎของจักรวาลไม่ได้มีอิทธิพลต่อการวิวัฒนาการของกลุ่มสายพันธุ์อื่น แต่เขาช่วยเราทางอ้อมและคอยนำทางให้เราผ่านข้อความครอปเซอร์เคิล บางสายพันธุ์ต้องการจะช่วยโดยการสื่อสารกับคนที่มีการเปิดใช้งานอย่างเพียงพอของ RNA / DNA ที่มีศักยภาพหรือที่มีมาตั้งแต่เกิดและสามารถที่จะรับส่งโทรจิตและเข้าใจความหมายอย่างถูกต้อง สิ่งที่ดีที่สุดของความรู้ของผมมีอย่างน้อยที่สุดประมาณไม่กี่ร้อยคนทั่วโลกที่สามารถรับได้โดยตรง
P.34
โดยการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวรวมทั้งตัวผมเองด้วย หากคุณต้องการผมสามารถช่วยให้คุณสามารถเปิดใช้เพิ่มเติมศักยภาพของDNA ของคุณและเชื่อมต่อกับมนุษย์ต่างดาวที่มีการส่งข้อความผ่านทางครอปเซอร์เคิลและจิตสำนึกของโลกแม่ที่มีชื่อว่า GAIA ได้ ทั้งหมดก็เพื่อว่าคุณจะได้อยู่ตรงตำแหน่งที่จะช่วยหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้ตามที่กล่าวมาแล้ว มันไม่ได้เป็นข้อห้ามใดๆว่าร่างกายทางกายภาพจะถูกออกแบบคอมพิวเตอร์ชีวภาพมาอย่างดี ขอให้ออกจากภาพมายาและระบบความเชื่อ
ทางศาสนา , “ร่างกายทางชีวภาพของมนุษย์เป็นคอมพิวเตอร์ชีวภาพโคลนนิ่ง” วันที่มีการออกแบบทางพันธุกรรมและโดยใครก็ตาม ... ยังคงไม่มีใครทราบ การทดสอบ RNA / DNA แสดงอย่างชัดเจนว่าหลอดเลือดชีวภาพเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมา และไม่ได้สร้างขึ้นตามธรรมชาติ ในความเป็นจริงที่สุดของชีวิตของทุกที่ในจักรวาลนี้เป็นวิศวกรรมทางพันธุกรรม
ยักษ์โบราณและ DNA
การวิจัยทางพันธุกรรมในช่วง 60 ปีแสดงให้เห็นว่าการทำงานดั้งเดิมของโฮสต์ชีวภาพได้ไกลเกินเท่าที่จะจินตนาการได้
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างของการทำงานวันในทุกวันนี้เป็นเหมือนมีจำกัด อยู่เพียงใน 3-4% ของดีเอ็นเอที่มีศักยภาพการใช้งาน และเพื่อที่เราจะตอบคำถามตามหลักเหตุและผล ว่าร่างกายทางภาพของเราร่างกายมีเงื่อนไขที่จำกัด ของการทำงานดังกล่าวไอย่างไรเราก็ต้องย้อนกลับไปในเวลาเมื่อ DNA ทำงานได้มากขึ้นกว่าทุกวันนี้
P.35
ในความเป็นจริงหากเรามองในอดีตที่ผ่านมา เราเห็นว่าเมื่อไม่นานมานี้เอง น้อยกว่า 13,000 ปีที่ผ่าน บนโลกของเราโลกมียักษ์อยู่มากมายเป็นรูปแบบของชีวิตที่ไม่มีอยู่อีกแล้วในทุกวันนี้ สิ่งมีชีวิตที่มีแขนและขา 4 ข้างและมากกว่า ครึ่งคน – ครึ่งสัตว์ -- ครึ่งมนุษย์-ครึ่งปลา, สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มาจากดาวอื่น ๆ ในเวลานั้นมนุษย์มีความแตกต่างมาก มีแม้กระทั่งมีสายพันธุ์ที่มีผิวสีน้ำเงินและก็สายพันธุ์ที่มีหูยาว มีเสาอากาศที่ใหญ่โตงอกมาจากส่วนหัว สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อยู่ในความเข้าใจว่าเป็นเทวดาหรือปีศาจ
P.36
ข้อความภาษาสันสกฤตมักจะพูดถึงคนที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติ อาคารวัดใหญ่โตกับการใช้อำนาจทางจิต และทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่แปลกและยากที่จะเข้าใจแม้กระทั่งทุกวันนี้ มีงานเขียนและหลักฐานอื่น ๆ ที่มีการอธิบายการสื่อสารทางจิตระหว่าง,โยคีเป็นรูปแบบบางส่วนของการปรับแต่งเพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียว เพื่อที่จะมีอิทธิพลต่อเมทริกซ์หรือนำกลุ่มวิญญาณเดินทางไปในมิติที่ไกลออกไป สรุปบรรยากาศในสมัยโบราณสิ่งต่างๆใหญ่กว่าปัจจุบันมาก ซึ่งหมายความว่ามีปราณหรือพลังชีวิตมากกว่า พูดง่ายๆ, ปราณที่มากกว่าหมายถึงความอุดมสมบูรณ์มากกว่าของ DNA ในทุกวันนี้บรรยากาศของเราเล็กลงมากไม่มีอะไรใหญ่โตขึ้นอีกต่อไปแล้วและเราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า DNA ทำงานได้น้อยลง
อ้างอิง : ข่าวนาซ่าวันที่ 1 กันยายน 2010> บรรยากาศชั้นสูงของโลกหดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้และต่ำกว่าในประวัติศาสตร์> พลังงานดวงของอาทิตย์ลดลงถึงระดับต่ำผิดปกติ 2007-2009, ในระหว่างช่วงต่ำของแสงอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นเวลานานเกือบจะไม่จุดบอดบนดวงอาทิตย์ ในขณะเดียวกัน, thermosphere ของโลก (ความสูง 55 - 300 ไมล์) หดตัวมากกว่าตอนไหนๆในรอบ43 ปีของ
การสำรวจอวกาศใด ๆ ผลการศึกษาพบ thermosphere เย็นลงในปี 2008 ถึง 41 เคลวิน (ประมาณ 74 องศาฟาเรนไฮต์) เมื่อเปรียบเทียบกับปี 1996 ที่มีเพียง 2 K เพราะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผลยังแสดงให้เห็นความหนาแน่นของ thermosphere ลดลงร้อยละ 31
อะไรก็ตามที่ทำให้เกิด, ฟั่นเกลียวสิบเส้นของโมเลกุล DNA ถูกตัดการเชื่อมต่อจากระบบต่อมไร้ท่อของเครื่องคอมพิวเตอร์ชีวภาพของเรา ระบบต่อมไร้ท่อจริงๆแล้วมีการเชื่อมต่อกับกระบวนการทางเคมีชีวภาพที่มีการเปิดใช้งานต่อม pineal, ต่อมใต้สมอง(pituitary gland)และ ต่อม thalamus ต่อมเหล่านั้นตอบสนองโดยตรงกับอาการจำนวนมากที่สามารถจัดเป็น"การรับรู้ทางประสาทสัมผัสที่สูงกว่า" หลังจากที่การลดลงของ RNA / DNA ต่อมเหล่านี้หดขนาดลงและการสูญเสียการทำหน้าที่มากที่สุดในการทำงาน เพื่อที่จะพิสูจน์ข้อสังเกตนี้เราสามารถข้อมูลอ้างอิงจากการวิจัยของนักโบราณคดี
ดร. Carl Baugh ที่ได้สร้างสภาวะจำลองแบบเดียวกันกับในอดีตและการค้นหาความจริงของสถานการณ์ gigantism
ดร. คาร์ลเป็นนักโบราณคดีและยังเป็นผู้อำนวยการฝ่ายพิสูจน์หลักฐานของพิพิธภัณฑ์ใน Glen Rose, เท็กซัส
เขาพิสูจน์ได้ว่าสภาพแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่กับพืชและสัตว์อื่น ๆ ได้เปลี่ยนไปจากสภาพแวดล้อมของหลายพันปีที่ผ่านมา เขากล่าวว่าองค์ประกอบของอากาศที่เราหายใจเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่นความเข้มข้นของออกซิเจนที่พบในอากาศได้ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป สภาพภูมิอากาศรวมทั้งอุณหภูมิความชื้นปริมาณน้ำฝน, หิมะตก, ก็ยังได้เปลี่ยนแปลงไป อะไรก็ตามในกรณีการวิจัยของเขาสรุปว่ามีการลดลงของความดันบรรยากาศ ,การลดลงของความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศของโลก, การเปลี่ยนแปลงในความแข็งแรงและทิศทางของสนามแม่เหล็กโลก
และการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นและลักษณะของรังสีคอสมิกต่อชีวิตที่อยู่บนโลก
P.37
ถูกเปิดเผยออกมา เขาได้สร้างและจดสิทธิบัตรห้อง'Hyperbaric Biosphere' เพื่อทดสอบสิ่งที่กล่าวอ้างในพระคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับบรรยากาศน้ำท่วมก่อนนี้และสภาวะแม่เหล็กตามที่ เจเนซิส ระบุว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกถูกสร้างอย่างสมบูรณ์แบบและการออกแบบให้มีชีวิตอยู่ยาวนานหรือแม้กระทั่งตลอดไป นอกจากนี้ยังระบุว่าหลังจากการพังทลายครั้งยิ่งใหญ่, ทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมาทั้งหมดจะล่มสลาย
"Hyperbaric Biosphere"มีความสามารถทำให้เกิดการผสมของก๊าซหลายแบบที่ประกอบกันในบรรยากาศข้างในห้องเช่นเดียวกันที่ความแตกต่างหลากหลายของความเข้มสนามแม่เหล็กไฟฟ้า,ความถี่และระยะเวลา
หลังจากนั้นเขาเรียกสิ่งนี้ว่าการแสดงออกทางพันธุกรรมที่เหมาะสมที่สุด -- หรือที่ดีที่สุดของ RNA / DNA ของสิ่งมีชีวิตที่สามารถมีได้
"Hyperbaric Biosphere"มีความสามารถทำให้เกิดการผสมของก๊าซหลายแบบที่ประกอบกันในบรรยากาศข้างในห้องเช่นเดียวกันที่ความแตกต่างหลากหลายของความเข้มสนามแม่เหล็กไฟฟ้า,ความถี่และระยะเวลา
หลังจากนั้นเขาเรียกสิ่งนี้ว่าการแสดงออกทางพันธุกรรมที่เหมาะสมที่สุด -- หรือที่ดีที่สุดของ RNA / DNA ของสิ่งมีชีวิตที่สามารถมีได้
การอ้างอิงรวมถึง;
-การจ่ายออกซิเจนและกลไกการควบคุมการส่งออกซิเจน กล่าวได้ว่าห้องและการรักษาความเข้มข้นของออกซิเจนกำหนดไว้ล่วงหน้า 22% ถึง 30% ของปริมาณในนั้น;
-การจ่ายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกลไกการควบคุมสำหรับการจ่ายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กล่าวได้ว่าห้องและการรักษาความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงของ 0.1-0.3% โดยปริมาตรในนั้น;
-อุปกรณ์ขดลวดสนามแม่เหล็กในนั้นจะเชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับการสร้างพัลส์แม่เหล็กไฟฟ้าควบคุมในระดับพลังงานในช่วง 1 ถึง 5 เกาส์และที่ความถี่ในช่วงประมาณ 0.5 เฮิร์ตซ์ถึงประมาณ 30 เฮิร์ตซ์
การทดลองของดร. Baugh กับ Hyperbaric biosphere พิเศษของเขาได้สร้างผลลัพธ์ที่น่าสนใจมากที่บ่งบอกถึงวิธีการที่มีศักยภาพในการชี้ทาง ที่จะรักษาและ / หรือทำให้กลับสู่สภาพเดิมของผู้คนในทุกวันนี้ นาซาได้ร้องขอการค้นพบและรายงานของดร. Baugh เพื่อค้นหาความจริงของการใช้งานโปรแกรมอวกาศ
-การจ่ายออกซิเจนและกลไกการควบคุมการส่งออกซิเจน กล่าวได้ว่าห้องและการรักษาความเข้มข้นของออกซิเจนกำหนดไว้ล่วงหน้า 22% ถึง 30% ของปริมาณในนั้น;
-การจ่ายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกลไกการควบคุมสำหรับการจ่ายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กล่าวได้ว่าห้องและการรักษาความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงของ 0.1-0.3% โดยปริมาตรในนั้น;
-อุปกรณ์ขดลวดสนามแม่เหล็กในนั้นจะเชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับการสร้างพัลส์แม่เหล็กไฟฟ้าควบคุมในระดับพลังงานในช่วง 1 ถึง 5 เกาส์และที่ความถี่ในช่วงประมาณ 0.5 เฮิร์ตซ์ถึงประมาณ 30 เฮิร์ตซ์
การทดลองของดร. Baugh กับ Hyperbaric biosphere พิเศษของเขาได้สร้างผลลัพธ์ที่น่าสนใจมากที่บ่งบอกถึงวิธีการที่มีศักยภาพในการชี้ทาง ที่จะรักษาและ / หรือทำให้กลับสู่สภาพเดิมของผู้คนในทุกวันนี้ นาซาได้ร้องขอการค้นพบและรายงานของดร. Baugh เพื่อค้นหาความจริงของการใช้งานโปรแกรมอวกาศ
ตัวอย่าง รวมถึง; การยืดขยายช่วงชีวิตของแมลงวันผลไม้ได้ถึงสามรุ่น, เปลี่ยนโมเลกุลของพิษในงูพิษชนิดหนึ่งไปยังสถานะที่ไม่เป็นพิษ, เร่งการเจริญเติบโตของปลาปิรันย่า-- ตั้งแต่ 2"ถึง 16"ได้กว่า 2.5 ปี
P.38
มีการประเมินโดยนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ว่าความดันบรรยากาศเมื่อหลายพันปีที่ผ่านมาจะมากประมาณ 29.4 ปอนด์ ต่อตารางนิ้วสองเท่าของปัจจุบันที่ความดันระดับน้ำทะเล (14.7 ปอนด์ต่อตารางนิ้วที่ระดับน้ำทะเล)
-ปริมาณออกซิเจนประมาณ 30% แทนที่ 21% ที่เรามีประสบการณ์ในทุกวันนี้
-สามารถรักษาแผลเปิดข้ามคืนภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้
-สภาวะบรรยากาศแบบนี้จะช่วยชีวิตมนุษย์ให้ยาวนานหลายร้อยปี
ในกรณีใด ๆ เราได้ข้อสรุปเพียงหนึ่งเดียว วันนี้การทำงานของ DNA เกลียวคู่ มีความสัมพันธ์กับสภาวะชีวิตในปัจจุบัน ไม่มีอะไรขนาดยักษ์อีกต่อไป แต่ถ้าคุณให้ความสนใจศึกษาดีๆในโลกทุกวันนี้ คุณจะเริ่มพบว่า DNAกำลัง เปลี่ยนแปลงอีกครั้งและมากขึ้นมากขึ้นในสัตว์โลกต่างๆที่พบการกลายพันธุ์
-ปริมาณออกซิเจนประมาณ 30% แทนที่ 21% ที่เรามีประสบการณ์ในทุกวันนี้
-สามารถรักษาแผลเปิดข้ามคืนภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้
-สภาวะบรรยากาศแบบนี้จะช่วยชีวิตมนุษย์ให้ยาวนานหลายร้อยปี
ในกรณีใด ๆ เราได้ข้อสรุปเพียงหนึ่งเดียว วันนี้การทำงานของ DNA เกลียวคู่ มีความสัมพันธ์กับสภาวะชีวิตในปัจจุบัน ไม่มีอะไรขนาดยักษ์อีกต่อไป แต่ถ้าคุณให้ความสนใจศึกษาดีๆในโลกทุกวันนี้ คุณจะเริ่มพบว่า DNAกำลัง เปลี่ยนแปลงอีกครั้งและมากขึ้นมากขึ้นในสัตว์โลกต่างๆที่พบการกลายพันธุ์
ในสายพันธุ์ของพวกมัน ดังที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ชั้นบนของบรรยากาศของเราจะหายไปซึ่งหมายความว่าเราจะได้สัมผัสกับรังสีคอสมิกมากยิ่งขึ้น การเปิดรับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแผ่รังสีคอสมิก จำนวนมากขึ้นของ DNA จะตอบสนองต่อแรงกระตุ้นที่เกี่ยวข้องกับกระแสคอสมิก และการเปลี่ยนแปลงของ DNA ที่มากขึ้นก็จะเกิด ความจริงก็คือเราอยู่ในช่วงตรงกลางของการเปลี่ยนจิตสำนึก – การตื่นขึ้นครั้งใหญ่ แต่เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการที่เราอยู่ในสถานะนี้เราต้องมองย้อนกลับไป แต่เวลานี้ต้องไม่มองด้วยตาที่กรอง,อคติ,หรือระบบความเชื่อ แต่ด้วยสายตาที่ไม่มีการกรองใดๆ วิธีที่ดีที่สุดคือให้คุณดึงตารางหมากรุกขึ้นให้ตัวหมากทั้งหมดล้มลงและคุณเริ่มต้นที่จะนำตัว
หมากวางในตารางหมากรุกทีละหนึ่งๆ ซึ่งก็คือเราจำเป็นต้องเริ่มต้นการสแกนเข้าไปในอดีตด้วยสายตาใหม่ ลืมเกี่ยวกับหนังสือประวัติศาสตร์,ที่ส่วนใหญ่ได้รับการพิสูจน์แล้วไม่มีประโยชน์, เต็มไปด้วยมุมมองและระบบความเชื่อที่บังคับโดยชนชั้นปกครอง ความจริงแล้วเป็นสิ่งที่แตกต่างกันมากและแปลกยิ่งกว่ากว่านิยาย ตามข้อสรุปแรกเมื่อได้เห็นวัดเก่าแก่ที่สุดพบว่าส่วนใหญ่ทำจากหินแกรนิต,สูงและใหญ่มาก ซับซ้อนมากและยากมากที่จะตัดเป็นรูปร่าง และสร้างได้โดยปราศจากเทคโนโลยีขั้นสูงและความรู้ , ความจริงอย่างเปิดเผยก็คือหินแกรนิตปรับเปลี่ยนการจัดการเพื่อให้ได้โครงสร้างเหล่านั้นยากมาก มันจะทำให้คุณหมุนอยู่ในหัวของคุณถ้าคุณรู้ว่าสิ่งที่ต้องการให้ทำสำเร็จ อย่างน้อยต้องทำด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน
P.39
มีน้ำหนักประมาณ 800 ตัน ,ความจริงก็คือไม่มีใครบอกได้แน่นอน 100% ว่ามันมีน้ำหนักแท้จริงเท่าไหร่ มันอาจจะหนักกว่านี้ 2 เท่าหรืออย่างน้อยมากกว่า 800 ตัน มันใหญ่มากกว่าที่เราจะมั่นใจว่ามีน้ำหนักเท่าไหร่ หินเหล่านี้ถูกตัดด้วยวิธีใดก็ตาม,ให้ได้รูปร่างและย้ายไปยัง Baalbek ที่ห่างออกไป 5 ไมล์ แล้วพวกมันก็ถูกยกขึ้นในอากาศ,ตั้งตรงขึ้นอย่างสมบูรณ์และเชื่อมต่อเพื่อไม่ให้คุณสามารถสอดกระดาษหรือยกหินแต่ละก้อนขึ้น สิ่งที่พวกเขาทำได้อย่างนั้นยังไม่ชัดเจนว่าทำได้อย่างไร ในกรณีใด ๆ สิ่งหนึ่งที่แน่ใจ – ในทุกวันนี้"อย่างเป็นทางการ"เราจะไม่สามารถใช้เครนที่สามารถยกน้ำหนักแบบนี้ได้ ไม่แม้แต่ใกล้เคียง
แม้จะย้าย blockของหินที่มีน้ำหนักน้อยมากกว่ากึ่งหนึ่งของน้ำหนักหิน Trilithon มากๆ เราก็ยังต้องใช้ทีมงานวิศวกรก่อสร้างอย่างน้อยที่สุดต้องมีเครน 2 ตัวที่มีการใช้ร่วมกับของฮอลิคอปเตอร์หนึ่งหรือสองลำ ถ้าวันนี้เราไม่สามารถยกหินดังกล่าวได้แล้ววิธีการที่ผู้สร้าง Baalbek เมื่อหลายพันปีที่แล้วทำได้ย่างไร?
แม้จะย้าย blockของหินที่มีน้ำหนักน้อยมากกว่ากึ่งหนึ่งของน้ำหนักหิน Trilithon มากๆ เราก็ยังต้องใช้ทีมงานวิศวกรก่อสร้างอย่างน้อยที่สุดต้องมีเครน 2 ตัวที่มีการใช้ร่วมกับของฮอลิคอปเตอร์หนึ่งหรือสองลำ ถ้าวันนี้เราไม่สามารถยกหินดังกล่าวได้แล้ววิธีการที่ผู้สร้าง Baalbek เมื่อหลายพันปีที่แล้วทำได้ย่างไร?
อาจจะใช้วิธีร่วมกันของช้างและท่อนซุง?
วันนี้ ช้างที่แข็งแกร่งที่สุดสามารถยกได้สูงสุดที่ 500 กิโลกรัมถ้าพวกมันใช้ร่างกายของมัน,ถ้ามันพิงไปข้างหลังก็จะสามารถที่จะผลักดันหินได้ 25ตัน ด้วยท่อนไม้ซุง ข้อมูลนี้ถือตามช้างแอฟริกันเพราะว่าพวกมันแข็งแรงกว่าช้างในประเทศอินโดนีเซีย สำหรับบันทึก : ท่อนซุงที่แข็งที่สุดจะแตกเป็นเสี่ยงๆเหมือนเนยภายใต้ความกดดันของบล็อกหิน 200 ตัน
ไม่?
ผมไม่คิดอย่างนั้น และไม่พูดถึงว่าพวกมันถูกขนส่ง 5 ไมล์และวางเคียงข้างกันด้วยความแม่นยำเช่นนั้นแม้กระทั่งเข็มยังไม่สามารถแทรกระหว่างพวกมันได้ ไม่มีไม้ซุงเท่าที่เราทราบ,ว่าสามารถใช้งานกับน้ำหนักดังกล่าวได้ ;เแม้แต่ไม้ซุงที่แข็งที่สุดจะถูกบดละเอียดอย่างรวดเร็วภายใต้น้ำหนักหนัก 800 ตันของหิน Trilithon สโตน
วันนี้ ช้างที่แข็งแกร่งที่สุดสามารถยกได้สูงสุดที่ 500 กิโลกรัมถ้าพวกมันใช้ร่างกายของมัน,ถ้ามันพิงไปข้างหลังก็จะสามารถที่จะผลักดันหินได้ 25ตัน ด้วยท่อนไม้ซุง ข้อมูลนี้ถือตามช้างแอฟริกันเพราะว่าพวกมันแข็งแรงกว่าช้างในประเทศอินโดนีเซีย สำหรับบันทึก : ท่อนซุงที่แข็งที่สุดจะแตกเป็นเสี่ยงๆเหมือนเนยภายใต้ความกดดันของบล็อกหิน 200 ตัน
ไม่?
ผมไม่คิดอย่างนั้น และไม่พูดถึงว่าพวกมันถูกขนส่ง 5 ไมล์และวางเคียงข้างกันด้วยความแม่นยำเช่นนั้นแม้กระทั่งเข็มยังไม่สามารถแทรกระหว่างพวกมันได้ ไม่มีไม้ซุงเท่าที่เราทราบ,ว่าสามารถใช้งานกับน้ำหนักดังกล่าวได้ ;เแม้แต่ไม้ซุงที่แข็งที่สุดจะถูกบดละเอียดอย่างรวดเร็วภายใต้น้ำหนักหนัก 800 ตันของหิน Trilithon สโตน
P.40
ดังนั้นใครคือ supermen ที่อยู่เบื้องหลัง โครงการที่มีลมหายใจนี้? แท้จริงโลกตระหนักถึงต้นกำเนิดและประวัติของพวกเขาใครคือคนเหล่านี้? เป็นที่น่าเสียดาย,ที่อย่างไรก็ตามไม่มีใครทราบชื่อของพวกเขา ไม่มีในบันทึกโรมันเท่าที่มีอยู่ที่กล่าวถึงสถาปนิกและวิศวกรที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้าง
แท่นทที่ใหญ่โตนี้ ไม่มีประวัติศาสตร์ร่วมสมัยโรมันหรือนักวิชาการออกความเห็นว่ามันมีวิธีสร้างขึ้นได้อย่างไรและไม่มีเรื่องเล่าที่เก็บรักษาความหมายในการสร้างสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมดังกล่าว
เป็นเพราะเหตุใด? ทำไมถึงเงียบกันล่ะ?
แน่นอนบางคน,ที่อยู่ที่ไหนสักแห่งจะต้องรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น และ ปัญหาในที่นี้ได้เริ่มต้นขึ้น,สำหรับชาวท้องถิ่นของ Beqa'a Valley – ที่ประกอบด้วยชาวอาหรับมุสลิม, Maronite คริสเตียนและคริสเตียนนิกายออร์โธดอกส์-- ทำการรักษาตำนานเกี่ยวกับกำเนิดของ แท่นที่ยิ่งใหญ่(Great Platform)แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรมัน . พวกเขาบอกว่า Baalbek คือเมืองแรกที่ถูกสร้างขึ้นก่อนเกิดน้ำท่วมใหญ่(Great flood)พวกเขายังบอกว่าเมืองแรกได้กลายเป็นซากปรักหักพังที่เป็นผลมาจากการสู้รบอย่างรุนแรงและต่อมาภายหลังได้สร้างใหม่โดยพวกยักษ์,และกระดูกที่มีสัดส่วนขนาดใหญ่ได้ถูกขุดค้นทั่วพื้นที่
แน่นอนบางคน,ที่อยู่ที่ไหนสักแห่งจะต้องรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น และ ปัญหาในที่นี้ได้เริ่มต้นขึ้น,สำหรับชาวท้องถิ่นของ Beqa'a Valley – ที่ประกอบด้วยชาวอาหรับมุสลิม, Maronite คริสเตียนและคริสเตียนนิกายออร์โธดอกส์-- ทำการรักษาตำนานเกี่ยวกับกำเนิดของ แท่นที่ยิ่งใหญ่(Great Platform)แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรมัน . พวกเขาบอกว่า Baalbek คือเมืองแรกที่ถูกสร้างขึ้นก่อนเกิดน้ำท่วมใหญ่(Great flood)พวกเขายังบอกว่าเมืองแรกได้กลายเป็นซากปรักหักพังที่เป็นผลมาจากการสู้รบอย่างรุนแรงและต่อมาภายหลังได้สร้างใหม่โดยพวกยักษ์,และกระดูกที่มีสัดส่วนขนาดใหญ่ได้ถูกขุดค้นทั่วพื้นที่
Baalbek -- ประเทศเลบานอน, Giza พีระมิด -- อียิปต์, Teotihuacan> ปิรามิดแห่งดวงอาทิตย์ -- เม็กซิโก, Shaanaxi ปิรามิด -- จีน, วัด Dambulla -- ศรีลังกา, นครวัด -- กัมพูชา ... รายชื่อที่ปรากฏพบมากขึ้นๆ
เรื่องที่นำเสนออย่างเป็นทางการโดยสื่อชั้นนำเกี่ยวกับวิธีการที่โบราณสถานทั้งหมดถูกสร้างเป็นเรื่องน่าหัวเราะและไร้สาระกระทั่งบัดนี้ความเชื่อที่ว่ามันสร้างขึ้นได้อย่างไรยังคงเป็นที่ยอมรับกันโดยผู้คนมากมายมากที่ยังคงนอนหลับอยู่ในเมทริกซ์และไม่ตระหนักถึงการบงการสำคัญที่เกิดขึ้น แม้ทุกวันนี้ความพยายาม(ที่เล็กน้อย)ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะพวกเราไม่ได้มีประสิทธิภาพและมีทักษะเพียงพอ ที่จะทำซ้ำ Great Pyramid of Giza ที่มีความซับซ้อนอยู่ภายใน อย่างไรก็ตามความไม่มีประสิทธิภาพทำให้ยอมรับได้ว่าเรายังห่างไกลจากจุดสูงสุดของวิวัฒนาการของชีวิตที่ครั้งหนึ่งเคยดำรงอยู่บนโลกใบนี้,มีหลักฐานจำนวนมากที่พบทั่วโลก ก่อนอื่นมีกลุ่มที่ถูกเรียกว่า"ชายในชุดดำ"(Men in Black)ผู้ที่ได้ทำหน้าที่ในการทำให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
P.41
โดยทำการซ่อนหรือทำลายหากจำเป็น,อะไรก็ตามที่สามารถใช้เป็นหลักฐานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าบนโลกนี้
อดีตที่ถูกลืมและสงครามนิวเคลียร์โบราณบนโลกและดวงจันทร์
หากคุณไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน,คุณจะไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น; คุณจะไม่ได้รับเบาะแสว่าคุณคืออะไรหรือทำไมคุณมีเพียงฟังก์ชันการทำงานส่วนที่เป็นเกลียวคู่เท่านั้น พวกเขาได้ทำลายสิ่งเหล่านี้"ปริศนา Men in Black"(ได้รับการสนับสนุนด้วยหลายพันข้อความรับรองทั่วโลก ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา) กับภาพยนตร์สะท้อนนิยายวิทยาศาสตร์ไร้สาระ หนังเหล่านี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงๆเลย ทุกวันนี้อาจเป็นกลุ่มที่มีชื่อที่แตกต่างกันแต่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน
อดีตที่ถูกลืมและสงครามนิวเคลียร์โบราณบนโลกและดวงจันทร์
หากคุณไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน,คุณจะไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น; คุณจะไม่ได้รับเบาะแสว่าคุณคืออะไรหรือทำไมคุณมีเพียงฟังก์ชันการทำงานส่วนที่เป็นเกลียวคู่เท่านั้น พวกเขาได้ทำลายสิ่งเหล่านี้"ปริศนา Men in Black"(ได้รับการสนับสนุนด้วยหลายพันข้อความรับรองทั่วโลก ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา) กับภาพยนตร์สะท้อนนิยายวิทยาศาสตร์ไร้สาระ หนังเหล่านี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงๆเลย ทุกวันนี้อาจเป็นกลุ่มที่มีชื่อที่แตกต่างกันแต่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราจึงต้องไม่เป็นคนโง่เขลาเกี่ยวกับความรู้และข้อความที่คนสมัยก่อนทิ้งไว้ให้เรา นั่นคือเหตุผลที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ได้ศึกษาความรู้โบราณที่พูดเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของวัฎจักรที่มีความสำคัญสำหรับชีวิตบนโลกใบนี้ คนที่ไม่ทราบถึงประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของพวกเขาจะพ่ายแพ้ และสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย ในทางกลับกันสำหรับสมาชิกที่มาจากกลุ่ม"Elite"ผู้ที่ครอบครองข้อมูลจริงว่าอะไรที่เกิดขึ้นในสมัยโบราณ,ความรู้เหล่านั้นช่วยให้พวกเขาได้รับประโยชน์มาก มันทำให้มีช่องว่างขนาดใหญ่แก่พวกเขาสำหรับการปกครองได้ง่ายๆ และทุกๆ26000 ปีระบบสุริยะของเราจะผ่าน 12 ราศี คนโบราณเช่น Mayans Hopi, อียิปต์, Cherokee, Apache, และอื่น ๆ
ก็ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เหล่านี้
P.42
วัฎจักรที่ยิ่งใหญ่และมีปฏิทินตามนั้นด้วย วัฎจักรแบบนี้จะกำหนดโดยการเกิดเหตุการณ์ที่แตกต่างกันในธรรมชาติ เช่นวงโคจรของดวงอาทิตย์รอบ Alcion จุดศูนย์กลางของกระจุกดาวลูกไก่ รอบวงจรนี้จะแบ่งออกเป็น 5 รอบย่อยของแต่ละ5,125 ปี ทุกๆรอบย่อยจะมียุคของตัวเอง ดังที่ได้กล่าวมาก่อนหน้า, ปฏิทิน Aztec หรือ Mesoamerican Sun Stoneปรากฎว่าแต่ละวงจรย่อยได้ถูกทำลายโดย 5 ปัจจัย วงจรย่อยที่เราเอยู่ในปัจจุบันคือยุคของดวงอาทิตย์ที่ 5 (3113BC -- 2012AD) ตามที่ได้อธิบายในส่วนครอปเซอร์เคิล,เมื่อ 5123 ปีที่แล้วใน 3113 BC , อายุของดวงอาทิตย์ที่ 4 ได้ สิ้นสุดลง มันเป็นเวลาของน้ำท่วมใหญ่ที่ทุกวัฒนธรรมโบราณพูดถึง
จุดเริ่มต้นของลายสลักต่อเนื่อง bas-relief ได้ถูกค้นพบใน Yucatan ซึ่งแสดงให้เห็นถึงหายนะของชาว Atlantean ภาพข้างบนอธิบายถึงปิรามิดและวัดพังทลาย, ภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินยุบ รูปภาพในน้ำชี้ให้เห็นความพินาศของชีวิตโดยการจมน้ำตาย หลายคนหนีด้วยเรือ
จุดเริ่มต้นของลายสลักต่อเนื่อง bas-relief ได้ถูกค้นพบใน Yucatan ซึ่งแสดงให้เห็นถึงหายนะของชาว Atlantean ภาพข้างบนอธิบายถึงปิรามิดและวัดพังทลาย, ภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินยุบ รูปภาพในน้ำชี้ให้เห็นความพินาศของชีวิตโดยการจมน้ำตาย หลายคนหนีด้วยเรือ
บางงานวิจัยระบุว่าผู้ดูแลเวลาของมายันได้บันทึกว่าโลกไฟไหม้ทั่วไปหมด, ทั้งดิน, อากาศและน้ำและนั่นคือเวลาของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงผ่านอีเทอร์ปัจจัยสุดท้าย และมนุษยชาติออกจากดาวเคราะห์ดวงนี้ ทั่วทุกมุมโลกในวัฒนธรรมพื้นเมืองคุณจะได้พบเรื่องราวของน้ำท่วมใหญ่ที่ทำลายล้างมนุษยชาติ ไม่มีข้อสงสัยว่าภัยพิบัติที่เกินจินตนาการนี้ หรือมากกว่านี้จะเกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกระหว่างประมาณ 11,000 และ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล หลักฐานทางธรณีวิทยาและทางชีววิทยานับไม่ถ้วนที่สนับสนุนเหตุการณ์ร้ายแรงสุดบรรยายนี้ และประเพณีวัฒนธรรมก็อธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เช่นกัน พวกเขามาจากยุโรปและสแกนดิเนเวีย, รัสเซีย, แอฟริกา ไปสู่ทั่วทวีปอเมริกา, Australia, New Zealand, เอเชีย, จีน, ญี่ปุ่นและตะวันออกกลางและทุกๆที่ บางคนพูดว่าความร้อนทำให้น้ำทะเลเดือด; ภูเขาที่หายใจเป็นไฟ; การหายไปของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์และความมืดที่ตามมา; ฝนแห่งเลือด,น้ำแข็งและก้อนหิน ; โลกพลิกตัว ท้องฟ้าลดลง; การเพิ่มสูงขึ้นและ การจมลงของแผ่นดิน; การสูญเสียทวีปที่ยิ่งใหญ่; และความจริงทั้งหมดอธิบายถึงน้ำท่วมที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์, แผ่นน้ำกวาดทั่วทั้งโลก
P.43
ข้อความโบราณของจีนอธิบายถึงวิธีการที่เสาค้ำท้องฟ้าอย่างไร; วิธีการที่ดวงอาทิตย์,ดวงจันทร์และดาวถูกเทลงในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ,ที่ท้องฟ้าลดต่ำลง; แม่น้ำ,ทะเลและมหาสมุทรมุ่งไปทางตะวันออกเฉียงใต้ที่โลกจมลงและ เพลิงไหม้ที่ใหญ่โตถูกดับลงโดยน้ำท่วมที่โหมกระหน่ำ ในอเมริกา, พวกอินเดียนแดงเผ่า Pawnee บอกเรื่องราวเดียวกันของช่วงเวลาที่ขั้วเหนือและขั้วใต้ของดวงดาวเปลี่ยนที่ตั้งและเข้ามาหาซึ่งกันและกัน วัฒนธรรมอเมริกาเหนืออ้างถึงเมฆใหญ่โตที่ปรากฏให้เห็นและให้ความร้อนที่มีพลังสูงทำให้น้ำเดือด เอสกิโมกรีนแลนด์บอกแก่มิชชันนารี่ว่านานมาแล้วโลกพลิก ตำนานของชาวเปรูบอกว่าเทือกเขาแอนดิสแยกออกจากกันได้เมื่อท้องฟ้าทำสงครามกับโลก ตำนานบราซิลอธิบายถึงวิธีการที่สวรรค์ระเบิดและเศษวัสดุต่างๆก็หล่นลงมาฆ่าทุกสิ่งทุกอย่างและมนุษย์ทุกคนเมื่อสวรรค์และโลกเปลี่ยนที่ และ Hopi อินเดียนทวีปอเมริกาเหนือบันทึกว่า :"โลกมีรอยแยกใหญ่ และน้ำครอบคลุมทุกอย่างยกเว้นสันแคบๆของโคลน"
ทั้งหมดนี้มีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกับตำนานของแอตแลนติสและ Muหรือ Lemuria : สองทวีปใหญ่,ทวีปหนึ่งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกและอีกทวีป
อยู่ในแปซิฟิก ซึ่งหลายคนเชื่อว่ามีการปกครองโดยสายพันธุ์ที่มีความก้าวหน้าสูง ทวีปที่มีการกล่าวว่าได้หายไปภายใต้ทะเลในสถานการณ์ที่อธิบายไว้ข้างต้น,ชีวิตอันรุ่งเรืองบนเกาะ Azores
Atlantis ได้รับการอธิบายโดย Plato (427-347 BC), นักปรัชญากรีกโบราณและผู้เริ่มต้นระดับสูงของเครือข่ายสถานศึกษาความลับในความลึกลับของสังคม ถึงวันนี้ความลับของเครือข่ายนี้ได้ผ่านความรู้มากมายสู่คนจำนวนน้อยที่ถูกเลือกในขณะที่ปฏิเสธสิทธิพิเศษของกลุ่มคน Azores ซึ่งบางคนเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของแอตแลนติส, ตั้งอยู่บนแนวสันกลางของมหาสมุทรแอตแลนติกที่เชื่อมต่อกับรอยแตกที่ล้อมรอบโลก เส้นนี้มีระยะทาง ประมาณ 40,000 ไมล์ สันกลางของมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สำคัญสำหรับการเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟ ทั้ง 4 แผ่นเปลือกโลกที่ใหญ่โตนี้,
ยูเรเชีย, แอฟริกัน,อเมริกาเหนือและคาริบเบียน ทั้งหมดบรรจบและเกิดการปะทะกันในบริเวณนี้ทำให้ไม่เสถียรภาพทางธรณีวิทยาเป็นอย่างมาก ทั้ง Azoresและ หมู่เกาะ Canary นี่คือประเด็นการขยายออกของภูเขาไฟที่มีปฎิกิริยาอย่างกว้างขวางในช่วงเวลาที่ Plato แนะนำสำหรับจุดสิ้นสุดของ
แอตแลนติส ลาวาTachylite พังทลายลงไปในน้ำทะเลภายใน 15,000 ปี
และยังคงพบซากอยู่ที่ก้นทะเลรอบ ๆ Azores , ยืนยันได้ว่าธรณีวิทยาเปลี่ยนแปลงและเกิดปัญหา เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลักฐานอื่น ๆที่รวบรวม รวมถึง
หาดทรายที่ความลึก10,500-18,440 ฟุต เปิดเผยว่าก้นทะเลในพื้นที่นี้ต้องเคย
อยู่(อีกครั้งในทางธรณีวิทยาเมื่อเร็ว ๆ นี้) เหนือจากระดับน้ำทะเล นักสมุทรศาสตร์, Maurice Ewing, เขียนในนิตยสารNational Geographic กล่าวว่า
"ถ้าไม่แผ่นดินจมลง 3 ไมล์ก็ต้องทะเลเคยอยู่ 3ไมล์ต่ำกว่าในปัจจุบัน
P.44
เป็นตัวแบ่งชั้นและการจมของมวลผืนดินที่รู้จักกันอย่างดีในชื่อ Appalachia ที่เชื่อมต่อสิ่งที่ตอนนี้เราเรียกว่ายุโรป,อเมริกาเหนือ, ไอซ์แลนด์และกรีนแลนด์
ยิ่งไปกว่านั้นระดับการจมของพวกมันที่ปรากฏขึ้นสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด หลักฐานที่คล้ายกันสามารถใช้เพื่อสนับสนุนคือทวีปใหญ่ของสองวัฒนธรรมยิ่งใหญ่โบราณ"Mu"และ"Lemuria"ที่หลงเหลืออยู่ที่ใต้ของแปซิฟิค
ส่วนที่เราเรียกว่าสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้นอยู่ระหว่างเบอร์มิวดา, ตอนใต้ของรัฐฟลอริดาและใกล้ Antilles, มีการเชื่อมโยงกับแอตแลนติส นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ล่อแหลมในตำนานของเรือและเครื่องบินที่หายไป อาคารที่จมน้ำ,ผนัง,ถนนและหินวงกลมเช่น Stonehenge, แม้กระทั่งสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นปิรามิดตั้งอยู่ใกล้ๆ Bimini ภายใต้ผืนน้ำของชายฝั่งBahama และภายใน'สามเหลี่ยม' ดังนั้นจึงมีการสร้างกำแพงหรือถนนตัดขวาง
ยิ่งไปกว่านั้นระดับการจมของพวกมันที่ปรากฏขึ้นสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด หลักฐานที่คล้ายกันสามารถใช้เพื่อสนับสนุนคือทวีปใหญ่ของสองวัฒนธรรมยิ่งใหญ่โบราณ"Mu"และ"Lemuria"ที่หลงเหลืออยู่ที่ใต้ของแปซิฟิค
ส่วนที่เราเรียกว่าสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้นอยู่ระหว่างเบอร์มิวดา, ตอนใต้ของรัฐฟลอริดาและใกล้ Antilles, มีการเชื่อมโยงกับแอตแลนติส นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ล่อแหลมในตำนานของเรือและเครื่องบินที่หายไป อาคารที่จมน้ำ,ผนัง,ถนนและหินวงกลมเช่น Stonehenge, แม้กระทั่งสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นปิรามิดตั้งอยู่ใกล้ๆ Bimini ภายใต้ผืนน้ำของชายฝั่งBahama และภายใน'สามเหลี่ยม' ดังนั้นจึงมีการสร้างกำแพงหรือถนนตัดขวาง
เทือกเขาหิมาลัย, เทือกเขาแอลป์และเทือกเขาแอนดิส, พึ่งมีความสูงเท่ากับปัจจุบันเมื่อประมาณ 11,000 ปีที่ผ่านมา
ทะเลสาบตีตีกากาที่ชายแดนเปรู - โบลิเวียทุกวันนี้คือทะเลสาบสูงที่สุดในโลกที่เรือสินค้าสามารถแล่นได้อยู่ที่12,500 ฟุต แต่ประมาณ 11,000 ปีที่ผ่านมาอาณาบริเวณเหล่านี้อยู่ที่ระดับน้ำทะเล!
ทำไมปลาจำนวนมากและฟอสซิลมหาสมุทรอื่น ๆ พบในระดับที่สูงขึ้นในช่วงภูเขา? ก็เนื่องจากภูเขาเหล่านั้นครั้งหนึ่งอยู่ที่ระดับน้ำทะเลเมื่อไม่นานมานี้
ทำไมปลาจำนวนมากและฟอสซิลมหาสมุทรอื่น ๆ พบในระดับที่สูงขึ้นในช่วงภูเขา? ก็เนื่องจากภูเขาเหล่านั้นครั้งหนึ่งอยู่ที่ระดับน้ำทะเลเมื่อไม่นานมานี้
ในแง่ทางธรณีวิทยาเช่นกัน
มีการเพิ่มการยอมรับว่าโลกได้รับความเดือดร้อนจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาอย่างมหาศาล การอภิปราย (และมักจะเป็นปรปักษ์) มาพร้อมกับคำถามว่าเมื่อไหร่และทำไม การเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลเสียหายเหล่านี้มีส่วน
มีการเพิ่มการยอมรับว่าโลกได้รับความเดือดร้อนจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาอย่างมหาศาล การอภิปราย (และมักจะเป็นปรปักษ์) มาพร้อมกับคำถามว่าเมื่อไหร่และทำไม การเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลเสียหายเหล่านี้มีส่วน
เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนกับระบบสุริยะจักรวาลโดยรวม เพราะดาวเคราะห์ทุกดวงแสดงให้เห็นหลักฐานของเหตุการณ์หายนะบางอย่างที่เกิดผลกระทบบนพื้นผิว,บรรยากาศ,ความเร็วและมุมของการโคจรหรือการหมุน
P.45
มีหายนะครั้งใหญ่เกิดขึ้นอย่างมหาศาลในโลกประมาณ 11,000 ก่อนคริสตกาล ซึ่งทำลายอารยธรรมที่ก้าวหน้าของเทคโนโลยียุคทอง ซึ่งก็คือ 13,000 ปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญมากและเกี่ยวข้องกับเวลาที่เราอาศัยอยู่ถึงตอนนี้
เป็นที่น่าสนใจที่จะกล่าวว่าในระหว่างการสำรวจชั้นใต้ผิวดินโดยรัสเซียและจีนใน 1,927 ร่องรอยของระเบิดนิวเคลียร์โบราณได้ถูกตรวจพบ ชั้นตะกอนบางอย่างเป็นอะตอมที่กลายเป็นแก้วเมื่อหลายพันปีที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ที่เหมือนกันมากนี้สามารถสังเกตได้ในบริเวณรอบๆสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์ หลักฐานที่ชัดเจนของการระเบิดของนิวเคลียร์และคนถูกหลอมรภายในหินและดินที่พบได้ในเมืองที่หายไปแห่ง Mohenjo daro การวัดกัมมันตภาพรังสี หลักฐานแสดงที่แน่นอนว่าเกิดสงครามที่ก้าวหน้าขึ้นในสมัยโบราณ มันเป็นที่ชัดเจนว่าเราไม่ใช่อารยธรรมแรกบนโลกและไม่ใช่อารยธรรมที่ก้าวหน้าสูงสุด หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีอารยธรรมก่อนหน้านี้มีกระจายไปทั่วโลก มากกว่า 600 ปิรามิดที่ทำจากหิน, ดินและธาตุเหล็ก ปิรามิดเหล่านี้เกือบจะชี้ไปในทิศทางเดียวกัน;ทุกปิรามิดมีสัดส่วนเช่นเดียวกับตัวเลข Pi และทั้งหมด
เป็นที่น่าสนใจที่จะกล่าวว่าในระหว่างการสำรวจชั้นใต้ผิวดินโดยรัสเซียและจีนใน 1,927 ร่องรอยของระเบิดนิวเคลียร์โบราณได้ถูกตรวจพบ ชั้นตะกอนบางอย่างเป็นอะตอมที่กลายเป็นแก้วเมื่อหลายพันปีที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ที่เหมือนกันมากนี้สามารถสังเกตได้ในบริเวณรอบๆสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์ หลักฐานที่ชัดเจนของการระเบิดของนิวเคลียร์และคนถูกหลอมรภายในหินและดินที่พบได้ในเมืองที่หายไปแห่ง Mohenjo daro การวัดกัมมันตภาพรังสี หลักฐานแสดงที่แน่นอนว่าเกิดสงครามที่ก้าวหน้าขึ้นในสมัยโบราณ มันเป็นที่ชัดเจนว่าเราไม่ใช่อารยธรรมแรกบนโลกและไม่ใช่อารยธรรมที่ก้าวหน้าสูงสุด หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีอารยธรรมก่อนหน้านี้มีกระจายไปทั่วโลก มากกว่า 600 ปิรามิดที่ทำจากหิน, ดินและธาตุเหล็ก ปิรามิดเหล่านี้เกือบจะชี้ไปในทิศทางเดียวกัน;ทุกปิรามิดมีสัดส่วนเช่นเดียวกับตัวเลข Pi และทั้งหมด
ตั้งอยู่บนจุด Cross ของแม่เหล็กของโลก โครงสร้างเดียวกันหรือคล้ายกันถูกตรวจพบบนดวงจันทร์และดาวอังคาร มันเห็นได้ชัดว่าอารยธรรมก่อนหน้านี้มีเทคโนโลยีสำหรับการเดินทางระหว่างดาวเคราะห์และที่ไกลออกไป
P.46
สามที่ที่รู้จักมากที่สุดในโลกพบในอียิปต์ แต่ที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดอยู่ในเอเชีย จำนวนมากของพวกมันถูกน้ำท่วม แต่มีเพียงแค่สองที่รู้จักกันโดยทั่วไป อันหนึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นที่โอกินาวาและอีกอันอยู่ทางใต้ของประเทศคิวบา ทั้งสองอันนี้สร้างขึ้นในเวลาเดียวกัน -- ประมาณ 12,000 ปีที่ผ่านมา
P.47
ในประเทศจีน (เขตมณฑลส่านซี) มากกว่า 70 ปิรามิดตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน,สองแห่งที่ใหญ่กว่าพีระมิดในGizaมาก
อย่างที่กล่าวมาอารยธรรมของเราเป็นอารยธรรมที่ 5 ที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้า เราไม่ใช่ทั้งกลุ่มแรกและกลุ่มสุดท้ายในขณะที่เรากำลังอยู่ในยุคที่ 5 ของดวงอาทิตย์ซึ่งหมายถึงดาวฤกษ์ของเราผ่านไปเป็นดาวแคระขาว,ดาวแคระสีเหลือง,ดาวยักษ์ใหญ่สีแดงและอีกครั้งในระยะดาวแคระขาว – สำหรับ 4 ครั้งในอดีต อะไรก็ตามที่ลบอารยะธรรมก่อนหน้านี้มันเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก
มีหลักฐานมากมายที่น่ากลัวของสงครามโบราณทุกที่บนโลก,ดวงจันทร์และดาวอังคาร ในความเป็นจริงมีข้อบ่งชี้ว่าแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ในความเป็นจริงแล้วเป็นดาวเคราะห์ในอดีตและด้วยเหตุผลบางประการมันได้ถูกทำลาย
คนจำนวนไม่มากที่รู้ว่าหลุมอุกกาบาตจำนวนมากบนพื้นผิวโลกเป็นรอยแผลเป็นจากการระเบิดของนิวเคลียร์โบราณ
อย่างที่กล่าวมาอารยธรรมของเราเป็นอารยธรรมที่ 5 ที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้า เราไม่ใช่ทั้งกลุ่มแรกและกลุ่มสุดท้ายในขณะที่เรากำลังอยู่ในยุคที่ 5 ของดวงอาทิตย์ซึ่งหมายถึงดาวฤกษ์ของเราผ่านไปเป็นดาวแคระขาว,ดาวแคระสีเหลือง,ดาวยักษ์ใหญ่สีแดงและอีกครั้งในระยะดาวแคระขาว – สำหรับ 4 ครั้งในอดีต อะไรก็ตามที่ลบอารยะธรรมก่อนหน้านี้มันเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก
มีหลักฐานมากมายที่น่ากลัวของสงครามโบราณทุกที่บนโลก,ดวงจันทร์และดาวอังคาร ในความเป็นจริงมีข้อบ่งชี้ว่าแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ในความเป็นจริงแล้วเป็นดาวเคราะห์ในอดีตและด้วยเหตุผลบางประการมันได้ถูกทำลาย
คนจำนวนไม่มากที่รู้ว่าหลุมอุกกาบาตจำนวนมากบนพื้นผิวโลกเป็นรอยแผลเป็นจากการระเบิดของนิวเคลียร์โบราณ
สำหรับหลายทศวรรษที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์กระแสหลักได้สงสัยว่าอุกกาบาตที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ที่จะทำให้Arizona 's Barringer Meteor Crater (ในภาพ) สามารถปลุกหินละลายให้ตื่นได้อย่างไร ขนาดกว้าง 1.2 กม. ลึก 170เมตร ส่วนสูงที่ขอบ 45 เมตรสูง ไม่พบวัตถุใดๆเลย ไม่ได้อยู่ภายในหลุม, ไม่ได้ห่างออกไปหลายไมล์และไม่ใช่หลายร้อยไมล์ห่างจากใจกลางของหลุมเช่นกัน ดูเหมือนว่าอุกกาบาตที่ทำให้เกิดหลุมดังกล่าวได้หายไปในอากาศ ไม่มีร่องรอยของชิ้นส่วนดาวตกใด ๆ แน่นอน ... นี่เป็นเพียงการปกปิดเรื่องราวของผู้คน สิ่งที่เรากำลังมองหาหนึ่งในพันของหลุมจากสงครามนิวเคลียร์โบราณ หลายที่เหล่านั้นยังคงมีกัมมันตรังสี ผู้คนเจ็บป่วยเมื่อพวกเขาเข้าใกล้... ทั้งหมดที่นั่น อยู่ข้างหน้าเราและเรายังไม่ตระหนักถึงอะไรที่เรากำลังเห็นมันอยู่หรือ
P.48
มหากาพย์บทกวีฮินดู"มหาภารตะ"และ"รามายณะ"นำเสนอรายละเอียดที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งที่อธิบายสงครามปรมาณูโบราณ
ที่สามารถค้นหาได้ :
"... (มันเป็น) ขีปนาวุธ;ที่ยิงออกไปด้วยพลังงานของจักรวาล คอลัมน์ที่ลุกโชติช่วงของควันและเปลวไฟ, สว่างราวกับดวงอาทิตย์นับพันดวง, แสงสว่างที่เพิ่มขึ้นของมัน ... มันเป็นอาวุธที่เราไม่รู้จักและสายฟ้าเหล็ก, ผู้นำความตายที่ยิ่งใหญ่,ที่ทำให้ลดลงเป็นเถ้าถ่านของเชื้อสายทั้งหมดของ Vrishnis และ Andhakas ... ซากศพถูกเผาไหม้จนจำไม่ได้ ผมและเล็บหลุดออก; เครื่องปั้นดินเผาแตกอย่างชัดเจนและนกเปลี่ยนเป็นสีขาว ... หลังจากไม่กี่ชั่วโมงอาหารทั้งหมดติดเชื้อ ... การที่จะหลบหนีจากไฟนี้ทหารโยนตัวเองในลำธารเพื่อล้างตัวเองและอุปกรณ์ของพวก เขา".
"พระเจ้าในรถม้าบนเมฆ...ขบวนรถสวรรค์สง่างามแล่นมาในท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆ
-- มหาภารตะ
"... (มันเป็น) ขีปนาวุธ;ที่ยิงออกไปด้วยพลังงานของจักรวาล คอลัมน์ที่ลุกโชติช่วงของควันและเปลวไฟ, สว่างราวกับดวงอาทิตย์นับพันดวง, แสงสว่างที่เพิ่มขึ้นของมัน ... มันเป็นอาวุธที่เราไม่รู้จักและสายฟ้าเหล็ก, ผู้นำความตายที่ยิ่งใหญ่,ที่ทำให้ลดลงเป็นเถ้าถ่านของเชื้อสายทั้งหมดของ Vrishnis และ Andhakas ... ซากศพถูกเผาไหม้จนจำไม่ได้ ผมและเล็บหลุดออก; เครื่องปั้นดินเผาแตกอย่างชัดเจนและนกเปลี่ยนเป็นสีขาว ... หลังจากไม่กี่ชั่วโมงอาหารทั้งหมดติดเชื้อ ... การที่จะหลบหนีจากไฟนี้ทหารโยนตัวเองในลำธารเพื่อล้างตัวเองและอุปกรณ์ของพวก เขา".
"พระเจ้าในรถม้าบนเมฆ...ขบวนรถสวรรค์สง่างามแล่นมาในท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆ
-- มหาภารตะ
"... เมื่อพระเจ้ารามาถูกคุกคามจาก'กองทัพลิง'เขายิง'ลูกศรเวทย์มนตร์' สิ่งนี้ทำให้เกิดแสงวาบขึ้นมามากกว่าความร้อนจากแสนดวงอาทิตย์ เปลี่ยนทุกอย่างเป็นผุยผง ผมของผู้รอดชีวิตร่วงหล่น,เล็บของพวกแตกเป็นชิ้นๆ
รามายณะ
P.49
มหาภารตะคือการอธิบายการสู้รบทางปรมาณูที่Arjuna ได้รับ"อาวุธสววรค์"เขาไม่สามารถใช้กับมนุษย์"เพราะมันอาจทำลายโลก"แต่เขา สามารถใช้มันกับ"ศัตรูที่ไม่ใช่มนุษย์”
นักวิจัยที่มีชื่อว่า David Davenport ใช้เวลา 12 ปีศึกษาสคริปต์ฮินดูโบราณและหลักฐานโบราณของMohenjo - daro และประกาศในปี 1996 ว่าเมืองถูกทำลายโดยทันทีเมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ซากปรักหักพังของเมืองเปิดเผยศูนย์กลางของการระเบิดวัดได้ กว้าง 50 หลา สถานที่นั้นทุกสิ่งทุกอย่างตกผลึก(crystallized) , หลอมหรือละลาย
ซากปรักหักพังของเมืองเปิดเผยศูนย์กลางของการระเบิดวัดได้ กว้าง 50 หลา สถานที่นั้นทุกสิ่งทุกอย่างตกผลึก(crystallized) , หลอมหรือละลาย
ที่ 60 หลาจากศูนย์กลางของซากอิฐถูกละลายชิ้ให้เห็นถึงการระเบิด ... เหตุการณ์ลึกลับน่ากลัวเมื่อ 4000 ปีที่ผ่านมานี้ได้รับการบันทึกในมหาภารตะ
ตามข้อความที่ปรากฏ "ควันร้อนสีขาวที่สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 1000 เท่า เพิ่มความสว่างขึ้นเป็นอนันต์และทำลายทุกอย่างเป็นเถ้าถ่าน ... น้ำเดือด…ม้าและรถรบสงครามถูกเผาไหม้นับหลายพัน ... ศพที่ตายในสนามรบได้ถูกทำลายด้วยความร้อนอย่างสาหัสเพื่อให้พวกเขาดูไม่เหมือนมนุษย์ ... "
ตามข้อความที่ปรากฏ "ควันร้อนสีขาวที่สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 1000 เท่า เพิ่มความสว่างขึ้นเป็นอนันต์และทำลายทุกอย่างเป็นเถ้าถ่าน ... น้ำเดือด…ม้าและรถรบสงครามถูกเผาไหม้นับหลายพัน ... ศพที่ตายในสนามรบได้ถูกทำลายด้วยความร้อนอย่างสาหัสเพื่อให้พวกเขาดูไม่เหมือนมนุษย์ ... "
จากหนึ่งในพงศาวดารที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดีย ... หนังสือแห่ง Dzyan :
"การแยกแยกไม่ได้นำความสงบสุขมาสู่คนเหล่านี้และในที่สุดความโกรธแค้นของพวกเขามาถึงจุดที่เจ้าเมืองเดิมนำนักรบของเขาจำนวนไม่มากและพวกเขาก็ขึ้นไปในอากาศในเรือเหาะขนาดใหญ่ที่ส่องแสง
ขณะที่พวกเขาอยู่ไกลมากจากเมืองของศัตรู, พวกเขาปล่อยทวนขนาดใหญ่ส่องสว่างพุ่งไปบนลำแสง มันระเบิดออกจากกันในเมืองของศัตรูของพวกเขาและเกิดลูกไฟขนาดหมึหาที่ระเบิดขึ้นไปยังชั้นฟ้าทั้งหลายและเกือบจะดาวทุกดวง คนที่อยู่ในเมืองถูกเผาไหม้อย่างน่ากลัวและแม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเมือง -- ในบริเวณใกล้เคียง – ถูกเผาไหม้ด้วยเช่นกัน บรรดาผู้ที่มองทวนและลูกไฟได้ตาบอดตลอดไปหลังจากนั้น,ผู้ที่เข้าเมืองโดยการเดินเท้าเจ็บป่วยและเสียชีวิต แม้แต่ฝุ่นของเมืองก็เป็นพิษ, เแม่น้ำที่ไหลผ่านก็เช่นกัน ผู้คนไม่กล้าเข้าไปใกล้และมันค่อยๆ พังทลายเป็นฝุ่นและถูกลืมโดยผู้คน เมื่อผู้นำได้เห็นสิ่งที่เขาได้ทำกับคนของเขา เขาเกษียณตัวเองออกไปสู่ปราสาทของเขาและปฏิเสธที่จะพบเห็นใครอีก แล้วเขาก็รวบรวมพวกนักรบที่เหลือรวมทั้งภรรยาและลูก ๆของพวกเขา แล้วขึ้นเรือเหาะของพวกเขาทีละคนๆไปสู่ท้องฟ้าและแล่นออกไป พวกเขาไม่ได้กลับมาอีกเลย.
"การแยกแยกไม่ได้นำความสงบสุขมาสู่คนเหล่านี้และในที่สุดความโกรธแค้นของพวกเขามาถึงจุดที่เจ้าเมืองเดิมนำนักรบของเขาจำนวนไม่มากและพวกเขาก็ขึ้นไปในอากาศในเรือเหาะขนาดใหญ่ที่ส่องแสง
ขณะที่พวกเขาอยู่ไกลมากจากเมืองของศัตรู, พวกเขาปล่อยทวนขนาดใหญ่ส่องสว่างพุ่งไปบนลำแสง มันระเบิดออกจากกันในเมืองของศัตรูของพวกเขาและเกิดลูกไฟขนาดหมึหาที่ระเบิดขึ้นไปยังชั้นฟ้าทั้งหลายและเกือบจะดาวทุกดวง คนที่อยู่ในเมืองถูกเผาไหม้อย่างน่ากลัวและแม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเมือง -- ในบริเวณใกล้เคียง – ถูกเผาไหม้ด้วยเช่นกัน บรรดาผู้ที่มองทวนและลูกไฟได้ตาบอดตลอดไปหลังจากนั้น,ผู้ที่เข้าเมืองโดยการเดินเท้าเจ็บป่วยและเสียชีวิต แม้แต่ฝุ่นของเมืองก็เป็นพิษ, เแม่น้ำที่ไหลผ่านก็เช่นกัน ผู้คนไม่กล้าเข้าไปใกล้และมันค่อยๆ พังทลายเป็นฝุ่นและถูกลืมโดยผู้คน เมื่อผู้นำได้เห็นสิ่งที่เขาได้ทำกับคนของเขา เขาเกษียณตัวเองออกไปสู่ปราสาทของเขาและปฏิเสธที่จะพบเห็นใครอีก แล้วเขาก็รวบรวมพวกนักรบที่เหลือรวมทั้งภรรยาและลูก ๆของพวกเขา แล้วขึ้นเรือเหาะของพวกเขาทีละคนๆไปสู่ท้องฟ้าและแล่นออกไป พวกเขาไม่ได้กลับมาอีกเลย.
P.50
นอกเหนือจากนี้ ทั้งสองบทกวีมหากาพย์ฮินดูยังมีคำอธิบายรายละเอียดของยุคหลายพันปีที่ผ่านมาอีก
เมื่อพระมหากษัตริย์แห่งพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่ขับขี่อยู่ในวิมานหรือเรือเหาะของพวกเขาได้ต่อสู้โดยการปล่อยอาวุธสงครามที่ทรงพลังใส่ศัตรูของพวกเขา คำอธิบายเรื่องอาวุธเหล่านี้อยู่ในบทกวีโบราณ – ความร้ายแรงของพวกมันและลักษณะของการทำลายล้างและความเสียหายจากผลกระทบหลังจากนั้น--- ดูเหมือนทำให้เราในยุคใหม่ปวดหัวเลยนะ
ข้อความอธิบาย :
-อสุนีบาตของพระอินทร์ได้รับพลังแห่งเสียงฟ้าร้องของพระอินทร์ผู้มีพันตา
-ลูกศรแห่งความตายวัดได้สามศอกถึงหกศอกมันเป็นอาวุธที่ไม่รู้จัก,
-อสุนีบาตของพระอินทร์ได้รับพลังแห่งเสียงฟ้าร้องของพระอินทร์ผู้มีพันตา
-ลูกศรแห่งความตายวัดได้สามศอกถึงหกศอกมันเป็นอาวุธที่ไม่รู้จัก,
สายฟ้าผ่าเหล็กของพระอินทร์,ยมทูตแห่งความตาย
-ขีปนาวุธได้รับการชาร์จพลังงานจากจักรวาล
-อาวุธAgneyaสามารถที่จะถูกต่อต้านโดยปราศจากตัวพระเจ้า
-ขีปนาวุธได้รับการชาร์จพลังงานจากจักรวาล
-อาวุธAgneyaสามารถที่จะถูกต่อต้านโดยปราศจากตัวพระเจ้า
-Brahma-danda หรือไม้เท้าของพระพรหมมีพลังอนุภาพภาพมาก
-แม้ว่าจะใช้เพียงครั้งเดียวก็ฆ่าฟันทั้งประเทศและเชื้อชาติจากรุ่นสู่รุ่น
-Adwattanปล่อยจรวดmissileที่ไม่มีควัน
-จรวดระเบิดด้วยพลังแห่งฟ้าร้อง
-จรวดบินได้นี้ทำลายเมืองทั้งเมืองที่เต็มไปด้วยป้อมปราการ
-3 เมืองของVrishnisและAndhakasถูกทำลายกันในทันที
-Adwattanปล่อยจรวดmissileที่ไม่มีควัน
-จรวดระเบิดด้วยพลังแห่งฟ้าร้อง
-จรวดบินได้นี้ทำลายเมืองทั้งเมืองที่เต็มไปด้วยป้อมปราการ
-3 เมืองของVrishnisและAndhakasถูกทำลายกันในทันที
-คอลัมน์เรืองแสงของควันและไฟสว่างสุกใสเหมือนดวงอาทิตย์นับพันและสว่างขึ้นๆ
-เมฆคำรามลั่นอยู่ด้านบนเหนือฝุ่นที่ฟุ้งกระจายและก้อนกรวด,ลูกศรแห่งเปลวไฟ,อย่างหนาแน่นดุจฝักบัวมหึมาพุ่งออกไปสู่ทุกสรรพสิ่ง,ห้อมล้อมศัตรูครอบคลุมทุกด้าน
-ท้องฟ้าลุกโพลงเป็นไฟและสิบจุดของขอบฟ้าเต็มไปด้วยควัน
-ดาวตกส่งแสงลงมาจากฟากฟ้า
-ลมที่รุนแรงเริ่มพัดและสิ่งต่างๆมากมายถูกรบกวน
-ดวงอาทิตย์แกว่งไปมาบนชั้นฟ้าทั้งหลาย
-โลก,ภูเขา,ทะเลและป่าไม้ทุกแห่งเริ่มสั่นสะเทือน
-ท้องฟ้าลุกโพลงเป็นไฟและสิบจุดของขอบฟ้าเต็มไปด้วยควัน
-ดาวตกส่งแสงลงมาจากฟากฟ้า
-ลมที่รุนแรงเริ่มพัดและสิ่งต่างๆมากมายถูกรบกวน
-ดวงอาทิตย์แกว่งไปมาบนชั้นฟ้าทั้งหลาย
-โลก,ภูเขา,ทะเลและป่าไม้ทุกแห่งเริ่มสั่นสะเทือน
- ลมพัดดังพายุรุนแรงและแผ่นดินส่องแสง
- ไม่มีใครเห็นกองไฟ - มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่มันกลืนกินทุกอย่าง
- เมื่อฝนเทลงมาน้ำเหือดแห้งกลางอากาศด้วยความร้อน
- นกร้องอย่างบ้าคลั่ง และสิงสาราสัตว์สั่นกลัวจากการถูกทำลาย
- สัตว์หล่นลงที่พื้น,หัวของมันแตกสลาย,พวกมันตายในดินแดนอันกว้างใหญ่
- ช้างถูกเผาในเปลวไฟ,วิ่งไปมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อหาที่ป้องกัน
- ไม่มีใครเห็นกองไฟ - มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่มันกลืนกินทุกอย่าง
- เมื่อฝนเทลงมาน้ำเหือดแห้งกลางอากาศด้วยความร้อน
- นกร้องอย่างบ้าคลั่ง และสิงสาราสัตว์สั่นกลัวจากการถูกทำลาย
- สัตว์หล่นลงที่พื้น,หัวของมันแตกสลาย,พวกมันตายในดินแดนอันกว้างใหญ่
- ช้างถูกเผาในเปลวไฟ,วิ่งไปมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อหาที่ป้องกัน
- น้ำในแม่น้ำและทะเลสาบเดือดและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในนั้นตายหมด
-หลายพันของยานรบก็ล้มลงที่ด้านข้าง
-กองทัพทั้งหมดพังทลายดังเช่นต้นไม้ในป่าถูกเผาอยู่ในไฟไหม้ที่ร้ายกาจ
- ศพถูกเผาไหม้อย่างมากไม่สามารถจดจำได้
- การเพ่งของอาวุธ Kapilla มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะเผาไหม้ 5 หมื่นคนเป็นเถ้าถ่าน
- สายฟ้าฟาดลดเชื้อชาติทั้งหมดของ Vrishnis และ Ankhakas.ให้เหลือเพียงเถ้าถ่าน
- เพื่อหนีลมหายใจแห่งความตายนักรบกระโจนลงในแม่น้ำเพื่อล้างตัวเองและฝังเสื้อเกราะของพวกเขา
- ผมและเล็บหลุดออก
- ทารกถูกฆ่าตายในครรภ์
- นกเกิดมีขนสีขาว, เท้าสีแดงและในรูปร่างคล้ายเต่า
- เครื่องปั้นดินเผาเสียหายโดยไม่มีสาเหตุ
- อาหารทั้งหมดได้กลายเป็นพิษและกินไม่ได้
-หลายพันของยานรบก็ล้มลงที่ด้านข้าง
-กองทัพทั้งหมดพังทลายดังเช่นต้นไม้ในป่าถูกเผาอยู่ในไฟไหม้ที่ร้ายกาจ
- ศพถูกเผาไหม้อย่างมากไม่สามารถจดจำได้
- การเพ่งของอาวุธ Kapilla มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะเผาไหม้ 5 หมื่นคนเป็นเถ้าถ่าน
- สายฟ้าฟาดลดเชื้อชาติทั้งหมดของ Vrishnis และ Ankhakas.ให้เหลือเพียงเถ้าถ่าน
- เพื่อหนีลมหายใจแห่งความตายนักรบกระโจนลงในแม่น้ำเพื่อล้างตัวเองและฝังเสื้อเกราะของพวกเขา
- ผมและเล็บหลุดออก
- ทารกถูกฆ่าตายในครรภ์
- นกเกิดมีขนสีขาว, เท้าสีแดงและในรูปร่างคล้ายเต่า
- เครื่องปั้นดินเผาเสียหายโดยไม่มีสาเหตุ
- อาหารทั้งหมดได้กลายเป็นพิษและกินไม่ได้
P.51
มีรายละเอียดมากมายที่นี่ที่น่ากลัวมากคล้ายกับเป็นประจักษ์พยานของระเบิดนิวเคลียร์ ความสว่างที่สุดของการระเบิด, คอลัมน์ของควันเพิ่มสูงขึ้นและเปลวไฟ,ฝุ่นกัมมันตภาพรังสีหลังนิวเคลียร์ระเบิด,ความเข้มข้นของความร้อนที่รุนแรงและช็อกเวพ, ลักษณะที่ปรากฏของเหยื่อและ ผลกระทบจากพิษรังสี, กว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาคำอธิบายโบราณเหล่านี้ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นเพียงแค่จินตนาการ แต่เมื่อมาถึงของยุคนิวเคลียร์ในปี1945 ทันทีทันใดข้อความจากอินเดียโบราณได้ถูกแปลในความหมายใหม่ทั้งหมด
ยังคงมีข้อแนะนำที่ยืนกรานอย่างถูกต้องเที่ยงตรงว่าสงครามนิวเคลียร์ได้เกิดแน่นอนในอดีตเป็นไปตาม มหาภารตะ, สงครามแห่งพรหมที่ยิ่งใหญ่ วิมานบินและอาวุธที่ลุกเป็นไฟ,ความเกี่ยวข้องกับผู้คนยุคก่อนประวัติศาสตร์ตามแม่น้ำคงคาตอนบนในภาคเหนือของอินเดีย ในพื้นที่ระหว่างคงคาและภูเขาแห่งทัชมาฮาล, เป็นสถานที่ที่ซากปรักหักพังจำนวนมากดำเป็นตอตะโกที่ยังไม่ได้รับการสำรวจหรือขุดค้น
ข้อสังเกตที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 แสดงให้เห็นว่าซากปรักหักพังไม่ได้ถูกเผาด้วยไฟที่เกิดจากธรรมชาติ ในหลายกรณีจะปรากฏเป็นฝูงชนกลุ่มใหญ่ถูกหลอมรวมกันในพื้นผิวที่เป็นหลุมลึก - อธิบายได้เหมือนเช่นดีบุกหยุดอยู่ภายใต้กระแสของเหล็กเหลว มีข้อบ่งชี้ว่าสงครามที่น่ากลัวนี้นำมาซึ่งการตกต่ำของยุคก่อนประวัติศาสตร์อาณาจักรพระรามาในอินเดีย ที่ครั้งหนึ่งต่อสู้กันในภูมิภาคที่ตอนนี้อยู่ในเขตแคชเมียร์ ด้านนอกของเมืองศรีนากาเป็นสถานที่พบซากปรักหักพังใหญ่โตของวัดซับซ้อนที่เรียกว่า Parshaspur ซึ่งมีหินบล็อกขนาดหลายตันกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณกว้าง โครงร่างของบล็อกบอกนัยยะของการระเบิดอย่างมากเมื่อมีการทำลายล้างบริเวณนั้น มันไม่ได้ปราศจากความหมายทางชะตากรรมที่ว่าในวันนี้สองประเทศในสมัยปัจจุบันในเอเชียใต้มีอาวุธนิวเคลียร์ - อินเดียและปากีสถาน – เป็นคู่แข่งที่ดุเดือด,และส่วนหนึ่งในการต่อสู้ของพวกเขาก็คือความขัดแย้งในพื้นที่แคชเมียร์
ยังคงมีข้อแนะนำที่ยืนกรานอย่างถูกต้องเที่ยงตรงว่าสงครามนิวเคลียร์ได้เกิดแน่นอนในอดีตเป็นไปตาม มหาภารตะ, สงครามแห่งพรหมที่ยิ่งใหญ่ วิมานบินและอาวุธที่ลุกเป็นไฟ,ความเกี่ยวข้องกับผู้คนยุคก่อนประวัติศาสตร์ตามแม่น้ำคงคาตอนบนในภาคเหนือของอินเดีย ในพื้นที่ระหว่างคงคาและภูเขาแห่งทัชมาฮาล, เป็นสถานที่ที่ซากปรักหักพังจำนวนมากดำเป็นตอตะโกที่ยังไม่ได้รับการสำรวจหรือขุดค้น
ข้อสังเกตที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 แสดงให้เห็นว่าซากปรักหักพังไม่ได้ถูกเผาด้วยไฟที่เกิดจากธรรมชาติ ในหลายกรณีจะปรากฏเป็นฝูงชนกลุ่มใหญ่ถูกหลอมรวมกันในพื้นผิวที่เป็นหลุมลึก - อธิบายได้เหมือนเช่นดีบุกหยุดอยู่ภายใต้กระแสของเหล็กเหลว มีข้อบ่งชี้ว่าสงครามที่น่ากลัวนี้นำมาซึ่งการตกต่ำของยุคก่อนประวัติศาสตร์อาณาจักรพระรามาในอินเดีย ที่ครั้งหนึ่งต่อสู้กันในภูมิภาคที่ตอนนี้อยู่ในเขตแคชเมียร์ ด้านนอกของเมืองศรีนากาเป็นสถานที่พบซากปรักหักพังใหญ่โตของวัดซับซ้อนที่เรียกว่า Parshaspur ซึ่งมีหินบล็อกขนาดหลายตันกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณกว้าง โครงร่างของบล็อกบอกนัยยะของการระเบิดอย่างมากเมื่อมีการทำลายล้างบริเวณนั้น มันไม่ได้ปราศจากความหมายทางชะตากรรมที่ว่าในวันนี้สองประเทศในสมัยปัจจุบันในเอเชียใต้มีอาวุธนิวเคลียร์ - อินเดียและปากีสถาน – เป็นคู่แข่งที่ดุเดือด,และส่วนหนึ่งในการต่อสู้ของพวกเขาก็คือความขัดแย้งในพื้นที่แคชเมียร์
ภาพจากซ้ายไปขวา : โครงสร้างโบราณของอาณาจักรรามาพบในประเทศปากีสถาน
ภาพด้านขวา : หนึ่งในภาพวาดหายากของผู้รอดชีวิตจากสงครามนิวเคลียร์โบราณ มีสิ่งบ่งชี้ว่าประชาชนรามาบางส่วนโดยเดินทางออกไปยังอวกาศเพื่อที่จะหลบหนีการทำลายโดยนิวเคลียร์โดยวิมานของพวกเขาและบางคนก็อยู่ใต้ดินลึกเข้าไปใน Agartha สำหรับAgartha เป็นอาณาจักรใต้ดินที่มีอยู่แม้ในทุกวันนี้มีเมืองหลวงชื่อ Shamballa เราจะเห็นผู้รอดชีวิตของรามาที่ได้กลับไปยังพื้นผิวโลกเมื่อสงครามสิ้นสุดลง และ RNA / DNA ลดต่ำลง
ภาพด้านขวา : หนึ่งในภาพวาดหายากของผู้รอดชีวิตจากสงครามนิวเคลียร์โบราณ มีสิ่งบ่งชี้ว่าประชาชนรามาบางส่วนโดยเดินทางออกไปยังอวกาศเพื่อที่จะหลบหนีการทำลายโดยนิวเคลียร์โดยวิมานของพวกเขาและบางคนก็อยู่ใต้ดินลึกเข้าไปใน Agartha สำหรับAgartha เป็นอาณาจักรใต้ดินที่มีอยู่แม้ในทุกวันนี้มีเมืองหลวงชื่อ Shamballa เราจะเห็นผู้รอดชีวิตของรามาที่ได้กลับไปยังพื้นผิวโลกเมื่อสงครามสิ้นสุดลง และ RNA / DNA ลดต่ำลง
อย่างแท้จริงคนที่มีหูยาวกำลังสอนความรู้ทางศาสนาของวัฒนธรรมรามา
(หูสั้น) ที่อยู่รอบ ๆตัวเขา คนเหล่านั้นจริงๆแล้วก็คือร่างกายทางชีวภาพเกลียวฟังก์ชันการทำงานคู่ของเราในปัจจุบันนั่นเอง เห็นได้ชัดว่าใช้เวลาหลายปีก่อนที่ผู้รอดชีวิตของรามากลับสู่พื้นอีกครั้ง หลังจากที่สงครามทุกอย่างลดลง ต้นไม้ไม่เติบโตเป็นขนาดใหญ่ บรรยากาศหดตัว และทุกสิ่งสูญเสียคุณภาพ วันนี้พระสงฆ์พุทธศาสนาและโยคีเป็นคนที่ได้รับความรู้จากผู้สืบเชื้อสายของชาว Lemurian ที่สูญหายไปนานแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อคุณสแกนวิเคราะห์คัมภีร์พระเวท และตำราทางพุทธศาสนาคุณจะเห็นว่ามันมีความรู้ทางศาสนาจากผู้รอดชีวิตแห่งอาณาจักรรามา
P.52
ไกลออกไปทางทิศใต้ของป่าหนาแน่นของ Deccan ซากปรักหักพังเช่นเดียวกันพบมากขึ้นซึ่งอาจจะมีจุดกำเนิดก่อนหน้านี้ ถึงตอนนี้จะชี้กลับไปสู่สงครามก่อนหน้า มหาภารตะ, และที่ซึ่งล้อมรอบพื้นที่มหานครห่างไกลออกไป กำแพงเคลือบเป็นเงา, สึกกร่อนและแตกด้วยความร้อนอย่างมาก ภายในอาคารต่างๆที่ยังคงยืนตั้งอยู่และหินประดับกลับกลายเป็นแก้ว นั่นคือพื้นผิวของหินมีการหลอมละลายและตกผลึกใหม่อีกครั้ง ไม่มีการเผาไหม้โดยธรรมชาติหรือการปะทุของภูเขาไฟที่สามารถสร้างความร้อนได้แรงกล้าขนาดเพียงพอที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์นี้ จะมีก็แต่ความร้อนมหาศาลของคลื่นรังสีเท่านั้นที่อาจทำความเสียหายแบบนี้ได้ ในภูมิภาคเดียวกันนี้กลุ่มที่สองของซากปรักหักพัง,นักวิจัยชื่อ อเล็กซานเดอร์ โกบอพสกี้ ชาวรัสเซียรายงานในปี 1966 ถึงการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ที่มีระดับรังสีที่ระดับสูงกว่า 50 เท่าในคนปกติ ในเดือนมกราคมปี 1992 รายงานข่าวได้ถูกตีพิมพ์เกี่ยวกับการค้นพบพื้นที่ 3 ตารางไมล์ของ เถ้าสารกัมมันตรังสีในราชาสถาน,ตั้งอยู่ที่ 10 ไมล์ทางทิศตะวันตกของ Jodhpur การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้ต้องถูกยกเลิกเนื่องจากมีเหตุการณ์การเกิดสูงของการกำเริบของโรคมะเร็งและเกิดความบกพร่องของการคลอด
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่สร้างขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ในพื้นที่ถูกคิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง,แต่ทีมงานทางวิทยาศาสตร์ที่มีสมาชิก 5 คน, นำโดยหัวหน้าผู้ควบคุมงานโครงการ Lee Hundley, ส่งคนไปเพื่อศึกษาความลึกลับได้พบแหล่งกำเนิดที่ผิดปกติมาก ในที่สุดพวกเขาขุดพบซากของอาคารดำเป็นตอตะโก คาดว่ามีอายุไม่น้อยกว่า 8-12 พันปีซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็น
ที่อาศัยของมนุษย์มากถึงครึ่งล้านคน เมืองก่อนประวัติศาสตร์ที่ปรากฎทั้งหมด – บอกถึงกากกัมมันตรังสีที่ตกค้าง-ที่ถูกทำลายโดยอาวุธนิวเคลียร์ นักวิทยาศาสตร์คาด ประมาณว่ามีขนาดเดียวกันกับที่ถูกทำลายในปี 1945 ที่
ฮิโรชิมา ฟรานซิสเทย์ เลอร์นักโบราณคดี,ในการติดตามผลการค้นพบครั้งแรกนี้,พบภาพแกะสลักทางประวัติศาสตร์ที่ผนังข้อความในวัดบริเวณใกล้เคียงบรรยายภาพคนในท้องถิ่นกำลังสวดมนต์เพื่อรักษาชีวิตพวกเขาจาก
"แสงที่ยิ่งใหญ่"ที่กำลังมาถึงเพื่อทำลายเมืองของพวกเขา จารึกปรากฏว่าได้รับการคัดลอกมาจากแหล่งที่มีอายุมากกว่านับหลายพันปีย้อนหลัง เทย์เลอร์พูดว่า:"มันช่างเหลือเชื่อจริงๆ ที่จะจินตนาการว่าบางอารยะธรรมมีเทคโนโลยีนิวเคลียร์ก่อนพวกเรา” เถ้าสารกัมมันตรังสีเพิ่มความน่าเชื่อถือของบันทึกอินเดียโบราณที่อธิบายถึงสงครามปรมาณู"
เพื่อปกป้องคนในท้องถิ่น,เถ้าและซากปรักหักพังถูกปกคลุมอย่างระมัดระวังเพื่อไปปิดกั้นรังสีที่เหลือ และทุกวันนี้มีแค่เพียงถนนทางหลวงคอนกรีตหนาๆเมื่อเวลาวิ่งผ่านพื้นที่เท่านั้นที่สามารถมองเห็น มันอาจจะมากกว่าความบังเอิญที่ว่า ในตอนที่เมืองลึกลับนี้ถูกทำลายในราชาสถานเป็นระยะเวลาประมาณ 12,000 ปีผ่านมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีร่องรอยเพิ่มเติมของทองแดง,ดีบุกและตะกั่วในแกนน้ำแข็งจากทั่วโลก,แสดงให้เห็นถึงจำนวนมากของสารมลพิษ
P.53
ถูกปล่อยไปในบรรยากาศข้างบนและกระจายอยู่ทั่วโลกโดยทันที - รวมทั้งการเพิ่มขึ้นอย่างมากของความเข้มข้นของยูเรเนียมในปะการังจาก 1.5 ส่วนต่อล้านเป็นมากกว่า 4 ส่วนในล้านส่วน Paleo – นักอากาศวิทยา ไม่สามารถอธิบายว่าการเพิ่มขึ้นเหล่านี้เป็นการเกิดขึ้นตามธรรมชาติ สารัสวติแม่น้ำอันยิ่งใหญ่และอารยะธรรมอันยิ่งใหญ่ของมัน มีการอ้างถึงในคัมภีร์พระเวทมากกว่า 50 ครั้ง พิสูจน์ว่าการแห้งของแม่น้ำสารัสวติ เกิดตามต้นกำเนิดของคัมภีร์พระเวท ซึ่งผลักดันวันที่ของจุดกำเนิดย้อนกลับไปในยุคโบราณ ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นชัดเจนถึงระบบแม่น้ำ 2 สาย -- ระบบ แม่น้ำสินธุและระบบแม่น้ำที่แห้งไปแล้ว”สารัสวติ” ขยายจากเทือกเขาหิมาลัยสู่ทะเลอาหรับ แม่น้ำสินธุแสดงในกรอบด้านซ้ายเป็นสีน้ำเงินและลุ่มน้ำ
สารัสวติ อยู่ทางด้านขวาระบุไว้ในสีเขียว จุดสีดำเป็นโบราณสถานจำนวนมากหรือการตั้งถิ่นฐานก่อนหน้าตามลุ่มน้ำ สารัสวติ ที่แห้งไปแล้ว
การศึกษาทางโบราณคดีได้แสดงให้เห็นว่าการแห้งขอดของแม่น้ำ สารัสวติ เกิดจากการเคลื่อนไหวของโครงสร้างของโลกครั้งใหญ่หรือแผ่นโลกเคลื่อนตัวภายใน สาเหตุหลักของการแห้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการจับตัวของพื้นที่หลักของแม่น้ำสารัสวติ การศึกษาก่อนหน้านี้ด้วยหลักฐานทางโบราณคดีที่มีจำกัดได้ข้อสรุปที่ขัดแย้ง, แต่การศึกษาอิสระที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานของการบุกรุกจากต่างชาติในอารยธรรม อินโด-สารัสวติ ความเจริญและความต่อเนื่องทางวัฒนธรรมสามารถตรวจสอบกลับอย่างน้อยนับหลายพันปี ในอีกแง่หนึ่ง โบราณคดีไม่สนับสนุนทฤษฎีการบุกรุกของอารยัน
หลักฐานสามารถชี้ได้ว่าอารยธรรมสิ้นสุดด้วยผลของสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งได้รับการอธิบายอย่างมากในมหาภารตะโบราณและข้อความโบราณคดี อื่นๆ และที่โบราณคดีทางทะเลยังสามารถใช้เป็นประโยขน์ได้ ชายฝั่งของเมืองโบราณ Dwarka ใน กุตราช,ประเทศอินเดีย เปิดเผยหลักฐานเพิ่มเติมและสนับสนุนในคัมภีร์ พระเวทถึงน้ำท่วมทั้งหมดของเมือง Dwarka -- เมืองท่าโบราณของกฤษณะพบใต้น้ำตามที่ได้รับการอธิบายในมหาภารตะและวรรณกรรมพระเวท อื่น ๆ
หลักฐานสามารถชี้ได้ว่าอารยธรรมสิ้นสุดด้วยผลของสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งได้รับการอธิบายอย่างมากในมหาภารตะโบราณและข้อความโบราณคดี อื่นๆ และที่โบราณคดีทางทะเลยังสามารถใช้เป็นประโยขน์ได้ ชายฝั่งของเมืองโบราณ Dwarka ใน กุตราช,ประเทศอินเดีย เปิดเผยหลักฐานเพิ่มเติมและสนับสนุนในคัมภีร์ พระเวทถึงน้ำท่วมทั้งหมดของเมือง Dwarka -- เมืองท่าโบราณของกฤษณะพบใต้น้ำตามที่ได้รับการอธิบายในมหาภารตะและวรรณกรรมพระเวท อื่น ๆ
ทั้งหมดของการขุดค้นเมืองใต้น้ำเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อไปอีกช่วยเพิ่มความ
P.54
ดินของ Hastinapur แสดงหลักฐานการเกิดน้ำท่วมนี้ หลักฐานทางโบราณคดีของเมืองหลวงใหม่Kausambi พบและได้รับการบันทึกวันที่ในช่วงเวลาหลังน้ำท่วมโดยสรุปจากการศึกษานอกสถานที่อินโด-ฝรั่งเศส เป็นที่แน่นอน,สามารถสรุปได้ว่า คัมภีร์พระเวท อธิบายถึงภูมิศาสตร์ของตอนเหนืออินเดียที่มีมานานก่อน 3,000 BCE หลักฐานสอดคล้อง กับชะตากรรมของแม่น้ำสารัสวติ มันสำคัญมากที่ทำให้เราเข้าใจว่าสงครามโบราณไม่เพียงแต่เกิดที่ดินแดนอินเดีย แต่เกิดทั่วโลก-ตัวอย่างหนึ่งที่พบในบราซิล ภาพค่อนข้างเก่าแต่ถูกต้อง (ดูรูปหน้า 54 ประกอบ)
-อารยะธรรมในดินแดนเก่าแก่ของอียิปต์ยังมีส่วนเกี่ยวของกับสงครามนิวเคลียร์และยังมีเทคโนโลยีการบินเต็มไปหมด
-มีร่องรอยอื่น ๆ อีกมากมายเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์ ในแอฟริกามีบางส่วนของเมืองที่มี การเปลี่ยนเป็นผลึกแก้ว และผนังหินเป็นบางส่วนละลาย
P.55
Sodom และ Gomorrah สามารถนำมาเปรียบเทียบกับฮิโรชิมาและนางาซากิ มีความน่าจะเป็นสูงที่Sodom, Gomorrah, Zoar, Admah และ Zeboiim ถูกทำลาย,ก่อให้เกิด Dead Sea
การค้นพบมีไม่สิ้นสุด ยิ่งคุณขุดค้นและทำการวิจัยมากขึ้น,คุณก็เริ่มหัวหมุนไปทุกที บางสิ่งกำลังชี้ให้เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เราได้รับในโรงเรียนเป็นเท็จ พวกเราเคยหลงทาง ไม่น่าเป็นไปได้มันเป็นรอยต่อหลักของสงครามนิวเคลียร์โบราณ มันเป็นเรื่องดาวเคราะห์นั่นเอง! พื้นผิวดวงจันทร์เต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตจากระเบิดนิวเคลียร์ ปล่องภูเขาไฟถูกวางตำแหน่งอย่างชาญฉลาด,ไม่ต้องสงสัยมันเป็นผลิตภัณฑ์จากอิทธิพลของธรรมชาติ,สะเก็ดดาวหรือ อุกาบาต
มีรูปแบบของการยิงระเบิดนิวเคลียร์ใส่กันระหว่างโลกและดวงจันทร์ในสมัยโบราณหรือไม่? แน่นอนมันมี
มีสถานที่ปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นและตรวจพบบนดวงจันทร์ บางอย่างยังคงไม่เสียหายและมีผู้อาศัยที่ไม่ใช่รูปแบบของชีวิตมนุษย์ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่พบบนด้านมืดของดวงจันทร์เป็นซากของยานขนาดใหญ่
มีรูปแบบของการยิงระเบิดนิวเคลียร์ใส่กันระหว่างโลกและดวงจันทร์ในสมัยโบราณหรือไม่? แน่นอนมันมี
มีสถานที่ปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นและตรวจพบบนดวงจันทร์ บางอย่างยังคงไม่เสียหายและมีผู้อาศัยที่ไม่ใช่รูปแบบของชีวิตมนุษย์ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่พบบนด้านมืดของดวงจันทร์เป็นซากของยานขนาดใหญ่
ที่พิกัด 17 ° S / 117.5 ° E. มันดูเหมือนยานบินถูกนำลงไปจอดโดยแสงเลเซอร์
P.56
รูปภาพ อย่างเป็นทางการขององค์การนาซ่าบนเว็บไซต์ของสถาบันดวงจันทร์และดาวเคราะห์ (LPI,ในเมืองฮุสตัน) ซึ่งเป็น"สถาบันการวิจัยที่ให้การข้อมูลสนับสนุนแก่นาซ่าและชุมชนวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับดาวเคราะห์": ลิ้งค์เชื่อมโยงในการค้นหารูปภาพ (AS15 - P - 9630 และ AS15 - P - 9625 จากApollo Image Atlas) มีดังต่อไปนี้
http://www.lpi.usra.edu/resources/apollo/frame/?AS15-P-9625
ดาวอังคารก็ถูกปกคลุมด้วยสิ่งก่อสร้างลึกลับมากมายหลายพันเหล่านั้น เมื่อเรามองที่ดาวอังคารจากระยะไกลเราจะสังเกตได้ทันทีว่าดาวเคราะห์ดวงนี้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงบนพื้นผิว แผลเป็นยักษ์คือผลที่เห็นได้ชัดของการปะทะกันกับเทหะวัตถุฟากฟ้าอื่น ๆ หรือบางสิ่งบางอย่าง ข้อมูลนี้ได้ถูกกรองเสมอและไม่เคยถึงมือประชาชนเพื่อให้ตระหนักเท่าที่ควร สิ่งเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพบบนดวงจันทร์และดาวอังคารเพิ่มเติมจะกล่าวครอบคลุมในงานนำเสนอ
ข้อความในคัมภีร์พระเวทนอกจากนี้ยังอธิบายถึงสงครามกับ"พระเจ้า"ซึ่งช่วยให้คุณมีมุมมองที่ชัดเจนว่ามนุษย์ต่างดาวฝ่ายไม่ดีที่ถูกนำเสนอก่อนไม่เคยจากไปไหน พวกเขายังคงอยู่บนโลกนี้และสถานที่อื่น ๆ ของระบบสุริยะจักรวาล พวกเขาอยู่ตรงนี้มาตลอด และตอนนี้เราเจริญก้าวหน้าพอที่จะตรวจสอบการแสดงตนของพวกเขาและเพื่อให้สามารถเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการกระทำของพวกเขา มันใช้เวลาหลายพันปีเพื่อให้มนุษย์เจริญก้าวหน้าอีกครั้งเพื่อชี้ไปยังจุดที่เราตรวจพบว่าเราอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังและมีหลายชนิดของโปรแกรมที่แตกต่างกันที่ถูกใช้ดำเนินการกับเรา
บางส่วน ของเชื้อสายต่างดาวที่เราสามารถตรวจพบทุกวันนี้เป็น,เป็นแบบเดียวกับ"พระเจ้า" ตามข้อความ พระเวท และข้อเขียนโบราณอื่น ๆ...
พร้อมคำอธิบายที่พวกเขาทำสงครามกับมนุษย์โบราณ แตกต่างเพียงว่าในครั้งนั้นมนุษย์โบราณได้รับการพัฒนาทางเทคโนโลยีและ จิตวิญญาณที่ไกลกว่าเราในวันนี้และมีสารพันธุกรรมที่เปิดใช้งานมากกว่าที่เรามีอยู่ ณ เวลานี้เรายังมีไม่มาก,สิ่งที่เราสามารถใช้เป็นสิ่งป้องกัน,เพื่อให้เป็นตรรกะที่เราจะศึกษาแนวทางของพวกเขาและจะได้เข้าใจภาพใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำของพวกเขา มันจะมีประโยชน์มากหากเราหลายคนเริ่มใช้ความสามารถตามธรรมชาติด้วยการมองระยะไกล(remote viewing)และการควบคุมนอกภายร่างกาย เพื่อที่จะสามารถเพิ่มเติมความสามารถของเราให้ถึงมิติคล้ายดาว(astral dimension)และเพื่อสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นบนระนาบของการดำรงอยู่นั้น ดังที่ได้กล่าวมาก่อนหน้า รังสีคอสมิกจะโจมตีโลกของเราในอัตราที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และDNA มากขึ้นจะเปิดใช้งาน เราสามารถเข้าใจทักษะเหล่านั้นได้เร็วขึ้น,เพื่อรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเหมือนที่คนสมัยก่อนใช้วิธีการนี้,ในการทำมันเพื่อเชื่อมต่อกับโลกแม่และช่วยในการเปลี่ยนแปลง
ให้ราบรื่นขึ้น
P.57
โชคดีของเราคือการที่ตอนนี้เรากำลังเข้าใกล้เวลาที่กาแล็กซี่ได้,อาบพลังงานสูงสุด,ที่จะเคลื่อนผ่านภูมิภาคนี้ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของชีวิตทั้งหมดน ทำให้เราเข้าสู่การมีคุณสมบัติสูงของการดำรงอยู่ เหมือนสิ่งที่คนโบราณเคยมี
ถ้าเราประสบความสำเร็จและเรายังคงจัดการเรียนรู้บทเรียนตรงเวลา,พลังงานสูงสุดนี้จะทำให้เราออกจากการมีประสิทธิภาพต่ำของการดำรงอยู่ในส่วนที่เป็นเกลียวคู่ เข้าสู่การดำรงอยู่หลายมิติของพลังอำนาจมหาศาลและการเข้าถึงความตระหนักรู้ กรุณาพิจารณาว่าที่ผมร่วมแชร์ทั้งหมดนี้กับคุณคนที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นเพราะผมเชื่อว่าเราสามารถสร้างความแตกต่างได้ ผมพยายามที่จะอธิบายให้คุณอย่างง่ายที่สุดเพื่อคุณจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนในหัวของคุณว่าเรากำลังยืนอยู่ที่ไหนในทุกสิ่งที่เราเห็นรอบตัวเรา ในความเป็นจริงในจักรวาลที่เราเห็นอยู่มีความซับซ้อนมาก จักรวาล, เหมือนกับโลกทางกายภาพ,ตามความเป็นจริงแล้วเป็นโฮโลแกรม –เกิดการแทรกสอดของลำแสงสร้างลักษณะของรูปแบบสามมิติ
มันก็เหมือนปาหินลงสระน้ำและเฝ้ามองคลื่นชนกันและสร้างรูปแบบ ในความเป็นจริงจักรวาลนี้เป็นโฮโลแกรมของ 64 คลื่นหรือระดับชั้นเวลา และนี่คือเหตุผลที่เรามี 64 hexagrams วางซ้อนกันของ I Ching, 64 กุญแจต้นไม้แห่งชีวิต และ 64 codons ของ DNA ส่วนที่ดีก็คือทั้งหมดของ 64 คลื่นเหล่านี้กำลังจะไปที่จุดสูงสุดด้วยกันในปี 2012
เราจึงโชคดีที่อาศัยอยู่ที่นี่และตอนนี้ เหลือเชื่อจริงๆ!
ผมจะพูดครอบคลุมทั้งหมดในรายละเอียดเพิ่มเติมในงานนำเสนอ
เพื่อที่จะแสดงหลักฐานว่ามนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นไม่เคยไปจากไปไหนเลยและพวกเขายังคงอยู่ที่นี่บนโลกในฐานใต้ดินและฐานใต้น้ำของพวกเขา ผมให้คุณดูรูปภาพเก่าไม่กี่ศตวรรษที่บรรยายถึงสิ่งที่เรียกว่า UFOs
ผมจะพูดครอบคลุมทั้งหมดในรายละเอียดเพิ่มเติมในงานนำเสนอ
เพื่อที่จะแสดงหลักฐานว่ามนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นไม่เคยไปจากไปไหนเลยและพวกเขายังคงอยู่ที่นี่บนโลกในฐานใต้ดินและฐานใต้น้ำของพวกเขา ผมให้คุณดูรูปภาพเก่าไม่กี่ศตวรรษที่บรรยายถึงสิ่งที่เรียกว่า UFOs
(ภาพที่ 1 และ 2) เป็นภาพวาดโดยคาร์โล Crivelli (1430-1495) และเรียกว่า"การประกาศ"(1486) และแขวนไว้ใน National Gallery, London วัตถุที่มีรูปร่างแบบจานกำลังส่องแสงดินสอของลำแสงลงบนมงกุฎของแมรี่(ภาพ ที่ 3 และ 4) – ภาพเหล่านี้ของ 2 วันสงครามศาสนา จากต้นฉบับศตวรรษที่ 12 "Annales Laurissenses"
(หนังสือ เกี่ยวกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์และศาสนา) และอ้างถึงการเห็น UFO ในปี 776 ในระหว่างการโอบล้อมบนปราสาท Sigiburg, ประเทศฝรั่งเศส ขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้อยู่ ทันใดนั้นกลุ่มของจาน(โล่ที่ลุกเป็นไฟ)ปรากฏโฉบเหนือจุดยอดของโบสถ์ มันปรากฏตัวต่อพวก Saxons ช่วยให้พวกฝรั่งเศสได้รับการคุ้มครองโดยวัตถุเหล่านี้และ พวกSaxons
ก็ได้หลบหนีไป
P.58
-(ภาพที่ 1, 2 และ 3) ภาพด้านซ้ายแสดงให้เห็นจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง"การตรึงกางเขน"และถูกวาดใน 1350 วัตถุ 2 อันสามารถมองเห็นในด้านขวาและซ้ายของภาพ การขยาย ของวัตถุทั้ง 2นี้แสดงไว้ด้านบน ภาพตั้งอยู่เหนือแท่นบูชาที่ Visoki Decani วัดในโคโซโว, ยูโกสลาเวีย
(ภาพ ที่ 4) -- ภาพนี้เป็นภาพโดยศิลปินเฟลมิช Aert De Gelder และได้รับการตั้งชื่อว่า"พิธีล้างบาปของพระคริสต์"มันเป็นภาพวาดใน 1710 และแขวนไว้ใน Fitzwilliam Musuem, Cambridge วัตถุที่มีรูปร่างเหมือจานส่องลำแสงลงบนจอห์นแบ๊บติสและพระเยซู
(ภาพ ที่ 4) -- ภาพนี้เป็นภาพโดยศิลปินเฟลมิช Aert De Gelder และได้รับการตั้งชื่อว่า"พิธีล้างบาปของพระคริสต์"มันเป็นภาพวาดใน 1710 และแขวนไว้ใน Fitzwilliam Musuem, Cambridge วัตถุที่มีรูปร่างเหมือจานส่องลำแสงลงบนจอห์นแบ๊บติสและพระเยซู
-(ภาพที่ 1) นี้เป็นภาพในศตวรรษที่ 17 และตั้งอยู่ใน Svetishoveli โบสถ์ใหญ่ใน Mtskheta,จอร์เจีย สังเกตว่ามีวัตถุรูปจานทั้ง 2 ด้านข้างของพระคริสต์
(ภาพที่ 2) ภายในรูปจานทั้ง 2 คุณจะเห็นพวกมันมีภาพใบหน้า
(ภาพที่ 2) ภายในรูปจานทั้ง 2 คุณจะเห็นพวกมันมีภาพใบหน้า
- (ภาพที่ 1 และ 2) ภาพวาดนี้เรียกว่า"Madonna กับ Saint Giovannino" มันเป็นวาดในศตวรรษที่ 15 Palazzo Vecchio แสดงภาพที่ไม่รู้จักและนำไปที่ Lippi schoolไหล่ขวาบนของ พระแม่มารีย์เป็นวัตถุรูปจาน ภาพตรงกลาง ชายคนหนึ่งและสุนัขของเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนที่วัตถุ
(3 ภาพ) --ปี 1660 ภาพแสดงให้เห็นโดยเรือดัตช์ 2 ลำในทะเลเหนือ,วัตถุเคลื่อนที่ช้าลงในท้องฟ้า มันน่าจะเป็นภาพ2 จาน ที่มีขนาดแตกต่างกัน แหล่งที่มาสำหรับเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในหนังสือเรื่อง :"Theatrum Orbis Terrarum"โดยนาวิกโยธิน Blaeu หนังสือเหล่านี้รวบรวมจากบทความโดยนักเขียนที่แตกต่างกันและรายละเอียดของภารกิจระยะยาวในทะเล,ข้อมูลการทำแผนที่
(3 ภาพ) --ปี 1660 ภาพแสดงให้เห็นโดยเรือดัตช์ 2 ลำในทะเลเหนือ,วัตถุเคลื่อนที่ช้าลงในท้องฟ้า มันน่าจะเป็นภาพ2 จาน ที่มีขนาดแตกต่างกัน แหล่งที่มาสำหรับเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในหนังสือเรื่อง :"Theatrum Orbis Terrarum"โดยนาวิกโยธิน Blaeu หนังสือเหล่านี้รวบรวมจากบทความโดยนักเขียนที่แตกต่างกันและรายละเอียดของภารกิจระยะยาวในทะเล,ข้อมูลการทำแผนที่
- (ภาพที่ 1) จานจากเนปาล, ของตกแต่งแสดงรูปร่างคล้ายจานรองจากเนปาล,แสดงภาพหัวมนุษย์ขนาดใหญ่ ประมาณการว่าจานมีอายุประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช
(ภาพที่ 2) ศิลปะยูทาห์ร็อคทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อไม่กี่ศตวรรษ
(ภาพที่ 2) ศิลปะยูทาห์ร็อคทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อไม่กี่ศตวรรษ
P.59
ถ้าคุณใช้เครื่องมือค้นหาของ Google และคุณทำวิจัยเพิ่มเติมของคุณเองเอง
คุณจะพบข้อมูลมากขึ้นนับหลายๆร้อย ผมเชื่อว่าคุณจะเห็นว่าผมจะไปต่อที่ไหน พวกเขาไม่เคยทำเพื่อผลประโยชน์ ส่วนใหญ่ของพวกเขาได้เข้าไปในอวกาศและกลับหลังมาจากที่โลกเสถียร มีหลักฐานมากเพียงพอที่โลกของเราเคยสลับขั้วโลก และพลิก ในช่วงเวลาของการไม่สมดุลของแรงดึงดูดโลก น้ำในมหาสมุทรจะอยู่นอกเหนือการควบคุมและน้ำจะท่วมทุกๆอย่าง สึนามิสูงอย่างน้อย 4 ไมล์ วัฒนธรรมโบราณทั้งหมดได้ทิ้งบันทึกของเหตุการณ์ในรูปแบบเดียวกันนี้หรืออื่นๆไว้ เราได้รับการโกหกและถูกบังคับให้เชื่ออย่างผิดๆมานานแล้วโดยกลุ่มเล็ก ๆ ของผู้คนร่ำรวย ที่อยู่ด้านบนของปิรามิดการปกครอง ... ที่ไม่ใช่มนุษย์ที่แท้จริง ผู้ปกครองบนปิรามิดมีสายเลือดพิเศษผสมยีนส์ระหว่างมนุษย์และสัตว์เลื้อยคลาน (reptilian)
ในความเป็นจริงทุกอย่างเกี่ยวข้องสมาคมลับที่ควบคุมโดยบุคคลผสมข้ามยีนส์เหล่านี้และวาระที่ซ่อนอยู่ของพวกเขา
ไม่มีแม้แต่ประธานาธิบดีคนใดที่ได้รับการเลือกตั้งโดยประชาชน ... แต่สั่งการโดยกลุ่มหัวหน้า เพราะว่า / เขาและเธอมีสายเลือดพิเศษ
ตัวอย่าง เช่นบารัคและมิเชล โอบามาพวกเขากลับชาติมาเกิดจาก ฟาโรห์ Akhenaton และราชินี Nefertiti แห่งอียิปต์โบราณ
ไม่มีแม้แต่ประธานาธิบดีคนใดที่ได้รับการเลือกตั้งโดยประชาชน ... แต่สั่งการโดยกลุ่มหัวหน้า เพราะว่า / เขาและเธอมีสายเลือดพิเศษ
ตัวอย่าง เช่นบารัคและมิเชล โอบามาพวกเขากลับชาติมาเกิดจาก ฟาโรห์ Akhenaton และราชินี Nefertiti แห่งอียิปต์โบราณ
หลังจาก การตกต่ำของ DNA พวกเขาลดต่ำลงสู่ การทำงานแบบเกลียวคู่และพลังชีวิตของพวกเขาได้เดินทางไปยังมิติคล้ายดาวและกลับมาในเวลาอันสั้น จนกระทั่งพวกเขามาถึงระนาบของโลกมนุษย์ อีกครั้งในเวลานี้
P.60
ในสมัยอียิปต์โบราณ, เทพเจ้าไอซิส เทพแห่งภูมิปัญญาและได้รับการเคารพบูชาจากผู้คนมากมาย ฟาโรห์ Akhenaten ได้เปลี่ยนให้บูชาตัวเอง เขาประกาศตัวเองว่าเป็น Amen Ra --"บุตรแห่งพระเจ้า" คำว่าอาเมน คือคำสิ้นคำอธิษฐานที่มาจากอียิปต์โบราณและการเคารพบูชาอาเมนรา ในความเป็นจริงฟาโรห์ Akhenaten ในอียิปต์โบราณเป็นแหล่งที่มาของความชั่วร้ายที่มีการแพร่กระจายบนโลกใบนี้นับตั้งแต่นั้น และตอนนี้เขากลับมาแล้วเพื่อจะทำสิ่งที่เขาได้เริ่มต้นให้สำเร็จเมื่อคุณเห็นพวกเขาแสดงสัญลักษณ์นี้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาทักทายกับสมาชิกคนอื่นของสมาคมลับและระเบียบวาระการประชุมลับของพวกเขา – ที่เป็นพวกฝ่ายมืด
ในความเป็นจริงทุกอย่างเกี่ยวข้องสมาคมลับที่ถือครองโดยลูกผสมเหล่านี้และวาระที่ซ่อนอยู่ของพวกเขา ทั้งหมดส่วนที่เหลือเป็นภาพยนตร์สำหรับคนที่ยังคงมีการรับรู้หลับไหลและง่ายต่อการจัดการมีพวกชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ในหมู่พวกเราและบางครั้งก็ดูเหมือนว่าคนอยู่ภายใต้การสะกดบางชนิด คนส่วนใหญ่ยังคงหลับไหล เขาไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ไม่สามารถที่จะคิดได้อย่างชัดเจนและพวกเขาได้กลายเป็นผู้เชื่อฟังอย่างเต็มที่เมื่อถูกสะกดจิต เป็นสิ่งที่คล้ายกับเมื่องูเห่าสะกดจิตเหยื่อของมัน ผู้คนตาบอดโดยภาพมายาของวาระชั่วร้าย โดยการหลอกลวงยิ่งใหญ่
P.61
อีกครั้งผมกำลังเผชิญหน้ากับจุดที่คำถามใหญ่ปรากฏขึ้นในจิตสำนึกของผม – ผมควรระงับการให้ข้อมูลแก่คุณเนื่องจากข้อมูลอาจเป็นอันตรายต่อคุณหรือผลักดันคุณออกจากสภาพที่สบายๆของคุณหรือไม่ และอีกครั้ง แรงชี้นำภายในที่กำลังขับเคลื่อนผมในการสร้างสรรค์งานนี้ คือข้อมูลได้ไปไกลและเข้าถึงได้มากเท่าที่จะมากได้กว่าคนอื่น ๆ,เพื่อให้การหลอกลวงถูกเปิดเผย เมื่อถึงเวลาผมจะอธิบายวิธีการจัดการกับมันเพื่อที่จะทำให้ความชั่วร้ายไม่มีอำนาจและไม่สามารถเข้าถึงผู้คนอีกต่อไป นี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ ... แต่สิ่งที่ดีที่สุดของความรู้ของผมคือ”ความจริง”คุณสามารถค้นหาซากของสิ่งมีชีวิตฝ่ายมืดทั่วทุกมุมโลก,แสดงให้เราเห็นว่าชีวิตบนโลกใบนี้เป็นจำนวนมากที่มีความแตกต่างจากที่เราได้รับการบอกกล่าว บางส่วนไม่มีจุดกำเนิดแบบมนุษย์หรือที่ทุกคนเรียกว่า"พระเจ้า"ที่มหาภารตะ, รามายณะและข้อความโบราณอื่น ๆ พูดถึง
แม้ทุกวันนี้ เมื่อส่วนใหญ่ของคนชอบเรียกตัวเองว่า"มีอารยะธรรม"เราถูกบังคับให้เชื่อว่าเราต้อง มีกษัตริย์และราชินี
เพื่อปกครองเหนือเรา เพราะเขามีสายเลือดราชวงศ์ ขณะที่ในความเป็นจริงมันไม่มีอะไรเลย”ราชวงศ์”แต่เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นมีสายเลือดชั่วร้ายที่สืบทอดตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่ออยู่ในสมัยโบราณ,ส่วนใหญ่ของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทุกวันนี้บนระนาบของโลก ต้องดื่มเลือดและน้ำเหลืองมนุษย์เพื่อที่จะรักษาลักษณะของมนุษย์และไม่ต้องผ่านกระบวนการ ที่เรียกว่าการพลิกรูปร่าง การพิสูจน์ ... มีหลักฐานที่ยืนยันเช่นนั้นหรือ? นี่ คือหนึ่งในนั้น : เผยแพร่ : อาทิตย์ 7 มีนาคม 2010 ชื่อ : Queen Elizabethที่ 1 และงู
รูปคนของอลิซาเบธ ที่เปิดเผยให้เห็นเธออุ้มงู ที่ตอนนี้มีช่อดอกไม้ปรากฏขึ้นเบื้องหลังรอยยิ้มที่ยากจะเข้าใจ : แกลลอรี่ภาพแห่งชาติแสดงผลงานรูปคนในศตวรรษที่ 16 ซึ่งได้บอกความลับของมันหลังจากนั้นนานถึง 400 ปี รายละเอียด Queen Elizabeth กำลังแสดงร่างของงูม้วนเดิมที่เธอถือ ภาพ : แกลลอรี่ภาพแห่งชาติ / PA
P.62
งานสืบค้นทางวิทยาศาสตร์ได้พบงูขดลึกลับอยู่ในมือของ Queen Elizabeth I, ซึ่งถูกวาดโดยศิลปินหลังจากนั้น,ในรูปคนที่หอศิลป์แห่งชาติ มันถูกเปิดเผยว่ารูปของราชินีซึ่งไม่ได้รับการจัดแสดงในแกลลอรี่ตั้งแต่ 1921, ที่วาดยังไม่เสร็จของรูปคนที่นั่งให้วาดที่ไม่มีใครรู้จัก การเปิดเผยเกี่ยวกับภาพวาดนี้และภาพอื่นๆ 3 ภาพ ของราชินีทิวดอร์ได้แสดงขึ้นใหม่,ซ่อนและเปิดเผย : การเปลี่ยนใบหน้าของ Elizabeth I, วันที่ 13 มีนาคมที่แกลลอรี่ภาพคนแห่งชาติเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะการผลิตในโครงการทิวดอร์ สหราชอาณาจักร นำโดย ด.ร. Cooper Tarnya รูปของลิซาเบธที่ 1 (NPG 200) ถูกวาดโดยศิลปินที่ไม่รู้จักในปี 1590s หรือต้น 1580s
การเสื่อมเสียเมื่อเวลาผ่านไปมีการเปิดเผยว่า อลิซาเบธ ที่ 1 แต่เดิมถืองูอยู่,เค้าร่างซึ่งขณะนี้มองเห็นได้บนพื้นผิว การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่างูเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบเดิม,การระบายสีในเวลาเดียวกันที่ส่วนที่เหลือของภาพ,และนิ้วมือของอลิซาเบธเดิมได้ประสานรอบงู (เหมือนที่เห็นในภาพพิมพ์ของศิลปิน) ในขั้นตอนสุดท้ายของภาพวาดได้ถูกพิจารณาที่จะไม่แสดงถึงสัญลักษณ์นี้ และราชินีได้แสดงการถือมัดเล็ก ๆ ของดอกกุหลาบแทนที่ นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยว่ารูปคนเดียวกันนี้วาดยังไม่เสร็จเป็นภาพผู้หญิงที่ไม่รู้จัก การถ่ายภาพ X - ray แสดงว่าผู้หญิงหันศีรษะไปในทิศทางตรงกันข้ามและในตำแหน่งที่สูงขึ้นกว่าราชินี ตาและจมูกของใบหน้าแรกสามารถมองเห็นสีที่หายไปจากหน้าผากของอลิซาเบธ บุคลิกลักษะณะของผู้เป็นต้นแบบให้วาดยังคงลึกลับ แต่ภาพที่ยังไม่เสร็จถูกวาดด้วยความสามารถสูง และดูเหมือนจะวาดด้วยจิตรกรที่แตกต่างกัน การค้นพบนี้ยืนยันว่าในศตวรรษที่ 16 รูปภาพถูกนำกลับมาใช้ใหม่โดยศิลปิน ผู้หญิงที่ไม่รู้จักดูเหมือนจะได้รับการใส่ผ้าคลุมแนวฝรั่งเศส, แฟชั่นใน 1580s - 1570 แสดงว่าอาจมีระยะเวลาไม่กี่ปีก่อนที่ภาพจะนำมาใช้อีกครั้งสำหรับรูปของ Elizabeth ที่ 1
คุณจะเห็นว่ามันไม่มีอะไรเกี่ยวกับสายเลือดราชวงศ์ ราชินี Elisabeth ที่ 1 แต่มีเพียงความมืดดำเท่านั้น ก่อนที่เธอจะถูกฆาตกรรม – บูชายัญ (หมายเหตุ : เธอถูกฆ่าในสถานที่พิเศษที่และเวลาตามโหราศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์) เจ้าหญิง Diana ได้พูดว่าเธอได้เห็นผู้คนภายในบ้านพวกราชวงศ์รูปร่างเปลี่ยนเป็นสัตว์เลื้อยคลาน เธอได้อธิบายถึงเหตุการณ์น่าเกลียดน่ากลัว ที่ผิวของสมาชิกราชวงศ์เปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วก็เริ่มที่จะปรากฏเป็นงูหรือจระเข้จนกระทั่งมันสูญเสียลักษณะของมนุษย์อย่างสมบูรณ์ และเธอไม่ได้เป็นคนเดียวที่อ้างเช่นนั้น หลาย ๆ คนได้เห็นสิ่งที่น่ากลัวเกินกว่าที่จะพูดถึงและส่วนมากของพวกเขาเชื่อมต่อกับราชวงศ์หรือทำงานให้
ราชวงศ์อังกฤษเป็นกุญแจสำคัญในสถานการณ์ทั้งหมดนี้เพราะสายเลือดดั้งเดิมมาจากสายเลือดที่เก่าแก่ที่สุดที่เป็นสมาชิกที่เรียกว่า"ความเป็นพวกพ้องของงู" (Brotherhood of the Snake)
ราชวงศ์อังกฤษเป็นกุญแจสำคัญในสถานการณ์ทั้งหมดนี้เพราะสายเลือดดั้งเดิมมาจากสายเลือดที่เก่าแก่ที่สุดที่เป็นสมาชิกที่เรียกว่า"ความเป็นพวกพ้องของงู" (Brotherhood of the Snake)
P.63
นั่นคือเหตุผลที่ผมได้แนบภาพของราชินีอลิซาเบท เพื่อให้ผู้คนสามารถเห็นหลักฐานที่อยู่เบื้องหลังมัน นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณเข้าใจว่าจนถึงทุกวันนี้,ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาทุกคนไม่มีข้อยกเว้น,มีความสัมพันธ์โดยตรงกับสายเลือดกษัตริย์อังกฤษ เมื่อวัน ที่ 20 ธันวาคม 1993 George Herbert Walker Bush ได้รับแต่งตั้งให้เป็น
ขุนนางโดยราชินีอังกฤษ เป็นเกียรติยศสูงที่สุดสำหรับการเป็นผู้นำของเขาใน Golf Warสิ่งนี้ดูเหมือนไม่เหมาะสมเมื่อประธานาธิบดีอเมริกันคุกเข่าต่อหน้าราชินีแห่งอังกฤษในพิธีที่เป็นสัญลักษณ์ของกองทหารใช่หรือไม่?
โดยสรุป,สายเลือดเผ่าพันธุ์ของสัตว์ข้ามผสมพันธุ์, เชื้อสายภายในเชื้อสาย,ในความเป็นจริง, เป็นศูนย์กลางในภูมิภาคกลางและตะวันออกใกล้ในโลกยุคโบราณและมากกว่าหลายพันปี นับตั้งแต่มีการขยายอำนาจของพวกเขาไปทั่วโลก ลักษณะสำคัญของการนี้มีการสร้างเครือข่ายของโรงเรียนลึกลับและสมาคมลับเพื่อริเริ่มซ่อนเร้นวาระของพวกเขาในขณะที่,เวลาเดียวกัน, การสร้างสถาบันเช่นศาสนาเพื่อกักขังจิตใจและอารมณ์ของผู้คนและจัดวางพวกเขาให้ทำสงครามซึ่งกันและกัน
โดยสรุป,สายเลือดเผ่าพันธุ์ของสัตว์ข้ามผสมพันธุ์, เชื้อสายภายในเชื้อสาย,ในความเป็นจริง, เป็นศูนย์กลางในภูมิภาคกลางและตะวันออกใกล้ในโลกยุคโบราณและมากกว่าหลายพันปี นับตั้งแต่มีการขยายอำนาจของพวกเขาไปทั่วโลก ลักษณะสำคัญของการนี้มีการสร้างเครือข่ายของโรงเรียนลึกลับและสมาคมลับเพื่อริเริ่มซ่อนเร้นวาระของพวกเขาในขณะที่,เวลาเดียวกัน, การสร้างสถาบันเช่นศาสนาเพื่อกักขังจิตใจและอารมณ์ของผู้คนและจัดวางพวกเขาให้ทำสงครามซึ่งกันและกัน
ลำดับชั้นของเผ่าพันธุ์ของสายเลือดนี้ไม่ได้เฉพาะเพศชายและบางส่วนของตำแหน่งสำคัญถูกยึดครองโดยผู้หญิงเช่น เดียวกับในกรณีของฮิลารี คลินตัน แต่ในแง่ของตัวเลขมันคือสิ่งครอบงำเพศชายและดังนั้นจึงดีกว่าที่จะเรียกว่าเป็นพวกพ้องเดียวกัน เพื่อความถูกต้องมากยิ่งขึ้น,การให้ความสำคัญกับ
บาบิโลนโบราณ ถ้าใช้คำที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้นก็จะเป็น
"พวกพ้องเดียวกันของบาบิลอน" “Babylonian Brotherhood”
ขนาดปัจจุบันของการควบคุมโดย Brotherhood ไม่ได้เกิดขึ้นในไม่กี่ปี,แม้ช่วงไม่กี่ทศวรรษหรือไม่กี่ศตวรรษ : สามารถตรวจสอบกลับหลายพันปี โครงสร้างของสถาบันในทุกวันนี้ ในรัฐบาล, ธนาคาร, ธุรกิจ, ทหารและสื่อไม่ได้พึ่งถูกแทรกซึมโดยอำนาจนี้,มันถูกสร้างขึ้นโดยพวกเขาตั้งแต่เริ่มต้น วาระของ Brotherhood นี่คือในความจริงของวาระหลายพันปี
มันเป็นการคลี่แผน, ชิ้นต่อชิ้น, สำหรับการรวมอำนาจควบคุม,ที่มาจากส่วนกลางของโลก ,ลำดับชั้นสายเลือด ที่ด้านบนสุดของปิรามิดแห่งการควบคุมและปราบปรามมนุษย์ ผ่านกระบองข้ามรุ่น, ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของบรรพบุรุษ, เด็ก ๆของครอบครัวเหล่านี้ที่จะถูกเลือกให้สืบทอดตั้งแต่แรกเกิด เพื่อให้เข้าใจถึงวาระและวิธีการจัดการ'Great Work'
ขนาดปัจจุบันของการควบคุมโดย Brotherhood ไม่ได้เกิดขึ้นในไม่กี่ปี,แม้ช่วงไม่กี่ทศวรรษหรือไม่กี่ศตวรรษ : สามารถตรวจสอบกลับหลายพันปี โครงสร้างของสถาบันในทุกวันนี้ ในรัฐบาล, ธนาคาร, ธุรกิจ, ทหารและสื่อไม่ได้พึ่งถูกแทรกซึมโดยอำนาจนี้,มันถูกสร้างขึ้นโดยพวกเขาตั้งแต่เริ่มต้น วาระของ Brotherhood นี่คือในความจริงของวาระหลายพันปี
มันเป็นการคลี่แผน, ชิ้นต่อชิ้น, สำหรับการรวมอำนาจควบคุม,ที่มาจากส่วนกลางของโลก ,ลำดับชั้นสายเลือด ที่ด้านบนสุดของปิรามิดแห่งการควบคุมและปราบปรามมนุษย์ ผ่านกระบองข้ามรุ่น, ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของบรรพบุรุษ, เด็ก ๆของครอบครัวเหล่านี้ที่จะถูกเลือกให้สืบทอดตั้งแต่แรกเกิด เพื่อให้เข้าใจถึงวาระและวิธีการจัดการ'Great Work'
ให้เป็นจริงวาระที่ก้าวหน้าของพวกเขากลายเป็นภารกิจที่ถูกปลูกฝัง ตั้งแต่ในช่วงแรกๆของชีวิตพวกเขา เมื่อถึงเวลาพวกเขาจะเข้ามาร่วมและดำเนินการตามลำดับชั้น Brotherhood และส่งต่อกระบองในรุ่นต่อไป, การศึกษาของพวกเขาได้หล่อหลอมให้เป็นคนที่ไม่สมดุลอย่างสูง พวกเขาเป็น
P.64
พวกที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมาก แต่มีความเห็นอกเห็นใจตรงข้ามและเย่อหยิ่งว่าพวกเขามีสิทธิที่จะครองโลกและควบคุมผู้คนที่ไม่รู้และพวกเขาดูว่าด้อยกว่า
เด็ก Brotherhood ที่ขู่จะคัดค้านหรือปฏิเสธแบบพิมพ์ ก็จะถูกผลักดันออกไปหรือกระทำด้วยวิธี อื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าแค่เพียงคนที่'ปลอดภัย'เท่านั้นที่จะอยู่ระดับบนของปิรามิดและ รับรู้ความลับระดับสูงและได้รับความรู้ที่ก้าวหน้า นั่นคือบางคนของสายเลือดเหล่านี้เท่านั้นที่ได้รับการระบุชื่อ
เด็ก Brotherhood ที่ขู่จะคัดค้านหรือปฏิเสธแบบพิมพ์ ก็จะถูกผลักดันออกไปหรือกระทำด้วยวิธี อื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าแค่เพียงคนที่'ปลอดภัย'เท่านั้นที่จะอยู่ระดับบนของปิรามิดและ รับรู้ความลับระดับสูงและได้รับความรู้ที่ก้าวหน้า นั่นคือบางคนของสายเลือดเหล่านี้เท่านั้นที่ได้รับการระบุชื่อ
บ้านแห่งวินด์เซอร์ในอังกฤษเป็นหนึ่งในพวกเขา, Rothschilds, ราชวงศ์ในยุโรปและชนชั้นสูง, Rockefellers, และส่วนที่เหลือที่เรียกว่าการสถาปนาสหรัฐอเมริกาตะวันออก ที่ซึ่งสร้างประธานาธิบดีอเมริกัน,ผู้นำธุรกิจ, นายธนาคารและผู้บริหาร แต่ที่ข้างบนระดับสูงมาก, สมาคมลับฝ่ายมืด จะควบคุมเผ่าพันธุ์มนุษย์จากเงาภายนอกอาณาเขต กลุ่มใดๆที่ไม่สมดุลมากๆและอยากได้การควบคุมที่สมบูรณ์แบบบนโลก จะต่อสู้กันภายในพวกตัวเอง
,ขัดแย้งกัน,เพื่อแสวงหาการควบคุมสูงสุด นี่เป็นสิ่งจริงแท้แน่นอนของ Brotherhood
พวกอิลูมินาติเป็นกลุ่มลับมากๆแห่งการปฏิบัติการใช้เวทย์มนต์ ที่อยู่มานับหลายๆพันปีและมีการใช้คำสอนที่เป็นความลับที่ชั่วร้ายของพวกยิวเป็นหนึ่งในแนวทางของพวกเขาเพื่อกดขี่ข่มเหงประชาชน
สรุป, มี 13 ตระกูลสายเลือดอิลูมินาติ ที่ปกครองโลกใบนี้ภายใต้เงามืด
รายชื่อ 13 ตระกูลดังต่อไปนี้ :
1. Astor
2. Bundy
3. Collins
4. DuPont
5. Freeman
6. Kennedy
7. Li (Chinese)
8. Onassis
9. Rockefeller
10. Rothschild
11. Russell
12. van Duyn
13. Merovingian (European Royal Families)
P.65
ครอบครัวต่อไปนี้ก็เชื่อมต่อกับครอบครัวเหล่านั้นด้วยเหมือนกัน :
1. Reynolds
1. Reynolds
2. Disney
3.Krupp
4. McDonald
นอกจากนี้นอกเหนือไปจาก 4 ครอบครัวนี้ ,ก็ยังมีอีกหลายร้อยคนอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อห่างๆกับ 13 สายเลือดอิลูมินาติ
นอกจากนี้นอกเหนือไปจาก 4 ครอบครัวนี้ ,ก็ยังมีอีกหลายร้อยคนอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อห่างๆกับ 13 สายเลือดอิลูมินาติ
ถึงอย่างไรก็ตาม,พวกเขาจะไม่ถูกกล่าวถึงที่นี่;พวกเขาถูกพิจารณาว่ามีอำนาจน้อยกว่าและน้อยกว่า 13 สายเลือดบริสุทธิ์ ทั้งหมดเหล่านี้เป็นพวกซาตานที่ชั่วร้ายและบูชาอำนาจด้านมืด ไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นตอนนี้คุณจะเห็นตัวเองกำลังขับรถบัสที่อยู่เบื้องหลังฉากและสถานที่
ตอนนี้,สิ่งต่างๆดูจะแปลกประหลาดมากขึ้นๆ ผมจะต้องไปต่อไปเพราะว่า
ตอนนี้,สิ่งต่างๆดูจะแปลกประหลาดมากขึ้นๆ ผมจะต้องไปต่อไปเพราะว่า
เมทริกซ์พร้อมที่จะยอมรับความจริงแล้ว
บรรดา 13 สายเลือดอิลูมินาติ มีมากกว่าหรือน้อยกว่าความสามารถในการพลิกรูปร่างและบางส่วนดื่มเลือดและน้ำเหลืองมนุษย์เป็นประจำและบางครั้งบางคราว การควบคุมเหนือมนุษย์ที่ซึ่งยังคงนอนหลับใหลและยังคงสบายๆกับสภาพปัจจุบันของโครงสร้างทางสังคม,มักจะเชื่อฟังคำสั่งโดยไม่มีคำถามใด ๆ ,ให้อำนาจปกครองสูงสุดอย่างชอบธรรม
บรรดา 13 สายเลือดอิลูมินาติ มีมากกว่าหรือน้อยกว่าความสามารถในการพลิกรูปร่างและบางส่วนดื่มเลือดและน้ำเหลืองมนุษย์เป็นประจำและบางครั้งบางคราว การควบคุมเหนือมนุษย์ที่ซึ่งยังคงนอนหลับใหลและยังคงสบายๆกับสภาพปัจจุบันของโครงสร้างทางสังคม,มักจะเชื่อฟังคำสั่งโดยไม่มีคำถามใด ๆ ,ให้อำนาจปกครองสูงสุดอย่างชอบธรรม
สมาคมลับได้ถูกนำเสนอในประวัติศาสตร์ของมนุษย์มาเป็นเวลานานมาก มันทั้งหมดเริ่มต้นนับหลายๆพัน ปีที่ผ่านมา
ด้วย"Brotherhood of the Snake", "ซึ่งเป็นสมาคมลับที่ย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาของสวน Eden และ Sumer โบราณ
P.66
ผมเองไม่ได้มีข้อมูลว่ามีจำนวนของมนุษย์สัตว์เลื้อยคลานพลิกร่างนี้อยู่เท่าไหร่ ดูเหมือนมันมีเป็นจำนวนมากและพวกเขาได้แทรกซึมในสถาบันการศึกษาหลายแห่ง ด้วยเหตุผลบางอย่างสถานีโทรทัศน์Fox เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับพวกเขา,เนื่องจากส่วนใหญ่ของหลักฐานวิดีโอมาจากที่นั่น อาจเป็นเพราะมันดำเนินการโดยกลุ่มบุคคล สายเลือดอิลูมินาติ เรื่องราวของวิดีโอเกี่ยวกับReptilianจากรายงานข่าว FOX NEWSเป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆเรื่อง
ถ้าคุณต้องการดูข้อมูลมากกว่านี้เพียงไปที่ http://www.youtube.com/watch?v=v-ks_BNMhHM หรือเพียงแค่ค้นหาข้อมูลที่เก็บไว้ของ Fox Newsและคุณก็จะสามารถ ติดตามวิดีโอด้วยตัวคุณเอง , ดาวน์โหลดไฟล์และวิเคราะห์โดยใช้ซอฟต์แวร์เพื่อการวิเคราะห์วิดีโอบางชนิด
บรรดาครึ่งมนุษย์ -- มนุษย์ครึ่งสัตว์เลื้อยคลานถูกควบคุมโดยอย่างน้อยสี่กลุ่มมนุษย์ต่างดาว, ปลูกฝังและอาจมีอิทธิพลต่อการสื่อสารทางจิต(da se najdat uste prikladni sliki)
พวกเชื้อสายพันธุ์ผสมที่เกี่ยวข้องกับผมเป็นการส่วนตัวเป็นประเภทเหมือน
ถ้าคุณต้องการดูข้อมูลมากกว่านี้เพียงไปที่ http://www.youtube.com/watch?v=v-ks_BNMhHM หรือเพียงแค่ค้นหาข้อมูลที่เก็บไว้ของ Fox Newsและคุณก็จะสามารถ ติดตามวิดีโอด้วยตัวคุณเอง , ดาวน์โหลดไฟล์และวิเคราะห์โดยใช้ซอฟต์แวร์เพื่อการวิเคราะห์วิดีโอบางชนิด
บรรดาครึ่งมนุษย์ -- มนุษย์ครึ่งสัตว์เลื้อยคลานถูกควบคุมโดยอย่างน้อยสี่กลุ่มมนุษย์ต่างดาว, ปลูกฝังและอาจมีอิทธิพลต่อการสื่อสารทางจิต(da se najdat uste prikladni sliki)
พวกเชื้อสายพันธุ์ผสมที่เกี่ยวข้องกับผมเป็นการส่วนตัวเป็นประเภทเหมือน
คริสแองเจิล สายเลือดที่ครอบครองอำนาจจิตอันยิ่งใหญ่,ที่เขาใช้ในวัตถุประสงค์ทางสีดำ เขามี 20% ของยีนส์ที่ช่วยความสามารถในการใช้งานทางจิต เขาซ่อนอยู่ภายใต้นักเล่นกลลวงตามืออาชีพ,ซึ่งก็แน่นอนว่าเป็นเพียงการปกปิดสำหรับศักยภาพของเขาเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่ผมได้เห็นหลักฐานชัดเจนว่าเขามีการเชื่อมต่อกับสมาคมลับฝ่ายมืดและเขายังมีการสัมผัสโดยตรงกับมนุษย์ต่างดาวฝ่ายไม่ดี
P.67
หนึ่งในจานบินที่มนุษย์ต่างดาวฝ่ายไม่ดีใช้เป็นประจำ ปรากฎด้านบน (รูปที่ 1) หรือ (รูปที่ 3) ถ้าคุณเจอจานบินรูปร่างแบบนั้น-- วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้อย่างไรก็ตาม, มนุษย์ต่างดาวกลุ่มที่ใช้ประเภทจานบินนี้ไม่ได้อยู่ในชั้นบนสุดของการควบคุมปิระมิด ขั้นต่อไปในปิระมิดการควบคุมสูงสุด,เป็นของสิ่งมีชีวิตในแนวระนาบคล้ายดาวที่ต่ำกว่า,และก็เป็นที่สุดของอำนาจความชั่วร้ายที่เกือบทั้งหมดของอำนาจเขาเป็นผู้สร้างด้วยตัวเขาเอง
P.68
เหตุการณ์ 9 / 11 ผู้คนจำนวนมากรับรู้ ตึกแฝด, ถูกใช้เป็นสองเสาแฝดเพื่อเปิดประตูสู่ระนาบคล้ายดาวที่ต่ำกว่า เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเปิดและเปิดหน้าต่างโดยตรงไปยังนรก,พวกเขาสร้างการบวงสรวงที่ใหญ่โต 9 / 11 เป็นงานภายในและวัตถุระเบิด Nano - thermite ถูกนำมาใช้พร้อมการหนุนหลังอย่างมากของยูเอฟโอ ผมจะกล่าวครอบคลุมในรายละเอียดที่ดีกว่านี้ในงานนำเสนอ
เรามาถึงจุดในเวลาที่เราต้องเข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกและสิ่งที่สามารถทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังที่ได้กล่าวก่อนหน้า,ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับสมาคมลับและวาระของพวกเขา เมื่อเร็วๆนี้ทุกสิ่งเริ่มต้นในทุกเรื่องของยุคเราในความเป็นจริงเริ่มต้นก่อนสงครามโลกครั้งที่สองฮิตเลอร์แหกกฏข้อห้ามการนับถือไสยเวทและสมาคมลับเขาเดินทางสำรวจสิ่งประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพจากทุกที่และเขานำกลับไปยังประเทศเยอรมนี
เรามาถึงจุดในเวลาที่เราต้องเข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกและสิ่งที่สามารถทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังที่ได้กล่าวก่อนหน้า,ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับสมาคมลับและวาระของพวกเขา เมื่อเร็วๆนี้ทุกสิ่งเริ่มต้นในทุกเรื่องของยุคเราในความเป็นจริงเริ่มต้นก่อนสงครามโลกครั้งที่สองฮิตเลอร์แหกกฏข้อห้ามการนับถือไสยเวทและสมาคมลับเขาเดินทางสำรวจสิ่งประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพจากทุกที่และเขานำกลับไปยังประเทศเยอรมนี
ในฐานะส่วนหนึ่งของสมาคมลับเขาช่วยในการสร้างขององค์กรพิเศษนาซีที่มีรหัสชื่อ"Ahnenerbe" องค์กร พิเศษได้รับมอบหมายเพื่อการวิจัยความลับของหลายสิ่งต่างๆในหมวดหมู่ การวิจัยทางโบราณคดีและมานุษยวิทยา,ในช่วงหนึ่งของการเดินทางสำรวจในอัฟกานิสถาน พบจานบินรูปเบอร์รี่อายุหลายพันปีผ่านมา เรือบินมีรูปร่างเหมือนจานและบนพื้นผิวปรากฏว่าไม่มีความเสียหาย วัตถุบินได้ก็คือ VIMANA และเข้ากันเป็นอย่างดีในรายละเอียดของข้อความในสมัยโบราณ
มันเป็นครั้งแรกในจำนวนหลายครั้งที่ Ahnenerbe ประสบความสำเร็จในการเก็บรวบรวมจากทั่วโลก ประชาชนต้องเข้าใจว่าฮิตเลอร์, เกี่ยวข้องกับการค้นพบที่เขาตั้งใจอย่างจริงจังนี้,คือเรื่องเกี่ยวกับการเปิดกล่องแพนโดร่า ที่รัฐบาลทั่วโลกไม่ต้องการให้ปิดในภายหลัง
ดัง ที่ได้กล่าวมาก่อนหน้า,ฮิตเลอร์มีความสัมพันธ์กับสายเลือดอิลูมินาติ เขาได้เริ่มต้นในหลักคำสอนทางลับและการไปทิเบตที่บ่อยมาก หลังจากการใช้อำนาจกับพระสงฆ์ทิเบตเขาได้เรียนรู้ความลับมากมายในหลายท้องที่อื่น ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีโบราณและสิ่งประดิษฐ์ที่ยังคงเก็บรักษาไว้ องค์กรลับนาซีได้ติดต่อกับผู้รอดชีวิตของอารยธรรมโบราณ, เกี่ยวกับเทคโนโลยีโบราณเช่นที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ Vimanas
พวกเราต้องเข้าใจว่าการศึกษาและความเข้าใจในต้นแบบที่กู้คืนหลายๆอย่างมีความสำคัญอย่างแน่นอนเพื่อรับประกันการครอบงำของนาซีเหนือท้องฟ้า พันธมิตรในแบบคู่ขนานมุ่งเน้นการเรียนรู้ความชำนาญในอะตอมและการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรก ฐานลับเหล่านี้มีศูนย์การวิจัยทั้งหมดที่ควบคุมโดยพวกนาซี หนึ่งในผู้ทำงานในฐานลับ Victor Schauberger – ผู้ให้กำเนิดของยูเอฟโอนาซี
ดัง ที่ได้กล่าวมาก่อนหน้า,ฮิตเลอร์มีความสัมพันธ์กับสายเลือดอิลูมินาติ เขาได้เริ่มต้นในหลักคำสอนทางลับและการไปทิเบตที่บ่อยมาก หลังจากการใช้อำนาจกับพระสงฆ์ทิเบตเขาได้เรียนรู้ความลับมากมายในหลายท้องที่อื่น ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีโบราณและสิ่งประดิษฐ์ที่ยังคงเก็บรักษาไว้ องค์กรลับนาซีได้ติดต่อกับผู้รอดชีวิตของอารยธรรมโบราณ, เกี่ยวกับเทคโนโลยีโบราณเช่นที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ Vimanas
พวกเราต้องเข้าใจว่าการศึกษาและความเข้าใจในต้นแบบที่กู้คืนหลายๆอย่างมีความสำคัญอย่างแน่นอนเพื่อรับประกันการครอบงำของนาซีเหนือท้องฟ้า พันธมิตรในแบบคู่ขนานมุ่งเน้นการเรียนรู้ความชำนาญในอะตอมและการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรก ฐานลับเหล่านี้มีศูนย์การวิจัยทั้งหมดที่ควบคุมโดยพวกนาซี หนึ่งในผู้ทำงานในฐานลับ Victor Schauberger – ผู้ให้กำเนิดของยูเอฟโอนาซี
P.69
Schauberger เป็นส่วนหนึ่งของสมาคม Vril ทำการวิจัยการต้านแรงโน้มถ่วง เขาเสียชีวิตในปี 1958 ในเท็กซัส,ในขณะที่กำลังทำงานภายใต้การคุ้มครองของสหรัฐอเมริกาในการพัฒนาแหล่งที่มาของการบิน ตั้งแต่เขากลายเป็นคนอเมริกัน
ความท้าทายแรกคือดำเนินการและทำให้ในงานวิจัยของนาซีเรื่องความลับที่ยิ่งใหญ่ให้เสร็จสมบูรณ์
ความท้าทายแรกคือดำเนินการและทำให้ในงานวิจัยของนาซีเรื่องความลับที่ยิ่งใหญ่ให้เสร็จสมบูรณ์
กองทัพเข้าถึงรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าการเป็นความลับ ทำให้ผู้คนที่ไม่มีชีวิตอยู่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนเพียงพอ ด้วยการทำให้ศัตรูเสื่อมเสียและทำให้ประชาชนหวาดกลัวโดยการให้ระบบข้อมูลผิดๆ ยู เอฟโอและมนุษย์ที่มีอำนาจ ทางจิต, ได้ทำเป็นภาพยนตร์, โทรทัศน์และสร้างอาการทางจิตหวาดระแวงและการไม่ใช่โลกที่แท้จริงและการศึกษาทางวิทยาศาสตร์w,ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง,และเทคโนโลยีของนาซีถูกนำมาใช้เป็นระบบ โดยทั้งรัสเซียและอเมริกัน นักวิทยาศาสตร์ที่เก่งๆส่วนใหญ่ของนาซีเยอรมันถูกนำไปยังสหรัฐอเมริกาและประวัติทั้งหมดของพวกเขาที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ถูกลบหมด ในขณะเดียวกันองค์การนาซ่าถูกก่อตั้งขึ้น
สรุป สิ่งที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่สองเป็นเรื่อง, นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันคือกลุ่มแรกที่มีความลับของเครื่องที่บินไปดวงจันทร์,แต่เมื่อเกิดสงครามขึ้นอย่างเป็นทางการเทคโนโลยีได้รับการถ่ายโอนโดยส่วน ใหญ่สู่อเมริกันและรัสเซีย การพัฒนาของเทคโนโลยีดังกล่าวได้เป็นการทำงานเต็มรูปแบบในทุกวันนี้และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คนที่ทำงานในตำแหน่งทางทหารที่สำคัญเป็นพยานว่าสมาคมลับได้ติดต่อโดยตรงกับอย่างน้อย 2 กลุ่มต่างดาว สนธิสัญญาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีในผลประโยชน์ของการลักพาตัวประชากรมนุษย์จำนวนเปอร์เซ็นต์น้อยๆไป
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง,และเทคโนโลยีของนาซีถูกนำมาใช้เป็นระบบ โดยทั้งรัสเซียและอเมริกัน นักวิทยาศาสตร์ที่เก่งๆส่วนใหญ่ของนาซีเยอรมันถูกนำไปยังสหรัฐอเมริกาและประวัติทั้งหมดของพวกเขาที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ถูกลบหมด ในขณะเดียวกันองค์การนาซ่าถูกก่อตั้งขึ้น
สรุป สิ่งที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่สองเป็นเรื่อง, นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันคือกลุ่มแรกที่มีความลับของเครื่องที่บินไปดวงจันทร์,แต่เมื่อเกิดสงครามขึ้นอย่างเป็นทางการเทคโนโลยีได้รับการถ่ายโอนโดยส่วน ใหญ่สู่อเมริกันและรัสเซีย การพัฒนาของเทคโนโลยีดังกล่าวได้เป็นการทำงานเต็มรูปแบบในทุกวันนี้และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คนที่ทำงานในตำแหน่งทางทหารที่สำคัญเป็นพยานว่าสมาคมลับได้ติดต่อโดยตรงกับอย่างน้อย 2 กลุ่มต่างดาว สนธิสัญญาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีในผลประโยชน์ของการลักพาตัวประชากรมนุษย์จำนวนเปอร์เซ็นต์น้อยๆไป
เหตุผลถูกระบุว่ากลุ่มเหล่านั้นจะทำตรวจสอบทางพันธุกรรมในบุคคลที่ถูกลักพาตัวไป, หน่วยความจำทั้งหมดจะถูกลบจากเหตุการณ์ดังกล่าวและบุคคลที่จะถูกนำกลับอย่างปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย
นี้เป็นเวลาที่กลุ่ม M12 ถูกสร้างขึ้น,ซึ่งอีกครั้งสมาชิกทุกคนได้รับเลือกเป็นพิเศษด้วยสายเลือดของพวกเขา สิ่งต่างๆจะกลายเป็นสิ่งที่ยากมาก ๆเร็วๆนี้ , เพราะชัดเจนว่ากลุ่มต่างดาวไม่เคารพข้อตกลงและพวกเขากำลังทำการลักพาตัวมากกว่าที่ตกลงกัน ฝันร้ายจริงๆเริ่มขึ้นเมื่อพวกเขาพบว่าผู้ถูกลักพาตัวหลายๆคนถูกฝังอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ถ่ายทอดและรับสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ สถานการณ์กลับกลายเข้าสู่วิกฤติและนั่นคือเวลาเมื่อทั้งหมดของสมาคมหลักๆบนโลกได้ตัดสินใจว่านี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับดาวเคราะห์ มีสมาคมที่ประสบความสำเร็จในระดับที่สูงมากและครอบงำสั่งการเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นรัฐบาลเงา จากที่ติดต่อกับกลุ่มต่างดาว รัฐบาลเงาเรียนรู้เกี่ยวกับการเข้ามาของการเปลี่ยนแปลงมากถึงที่สุดในปี 2012-2013 การตัดสินใจคือการทำให้มนุษยชาติต้องอยู่รอดได้และตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการสร้างโลกใต้ดิน เงินจำนวนมากถูกสร้างขึ้นจากการกระทำที่ผิดกฎหมายเพื่อให้ศูนย์กลางเมืองใต้ดินหลักถูกสร้างขึ้น
P.70
รอบๆฐานหลัก,มีฐานใต้ดินขนาดเล็กกว่าที่สร้างเป็นเครือข่ายและได้เริ่มสร้างขึ้นแล้ว นี่ยังคงเป็นกระบวนการต่อเนื่องและสิ่งที่ดีที่สุดของความรู้ของผม, เครือข่ายเกือบเสร็จสมบูรณ์และทุกๆแห่งบนโลกได้รับการปกปิด นี่ก็เป็นหนึ่งในความลับที่ซ่อนอยู่มากที่สุด แต่ยังมีคนทำงานหลายพันคนในขั้นตอนการก่อสร้างเป็นพยานเกี่ยวกับการติดต่อโดยตรงกับพวกที่ไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้นหลายคนอธิบายถึงความใหญ่โตของฐานใต้ดิน,ลึกหลายไมล์,และลึกกว่าคุณจะไปได้ นอกเหนือจากนี้พวกเขากำลังเตรียมการครั้งใหญ่ที่เตรียมไว้มากกว่า 60 ปีและพวกเราที่อยู่บนพื้นผิวโลกไม่มีความคิดอย่างแน่นอนว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นภายใต้เท้าของเรา เหตุผลที่โลกใต้ดินถูกสร้างเนื่องจากการขยายตัวของดวงอาทิตย์และอิทธิพลแรงโน้มถ่วงจากเทหวัตถุฟากฟ้าที่เคลื่อนผ่านใกล้ระบบสุริยะของเรา แถบเข็มขัดดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดีได้รับผลกระทบจากแรงดึงดูดของเทหวัตถุเคลื่อนผ่านนี้แล้ว และเราจะเริ่มต้นได้สัมผัสกับประสบการณ์โดยตรงที่โจมตีจากดาวเคราะห์ที่เคลื่อนผ่าน การวิเคราะห์กลยุทธ์ที่พวกเขาทำผ่านทางสื่อสาธารณะ ,มันสามารถตรวจพบว่าข้อมูลเริ่มจะออกมา,และในรูปแบบที่ยังคงซ่อนเร้น แต่ตัวชี้วัดที่ชัดเจนคือการที่กองทัพเตรียมความพร้อมสำหรับสิ่งที่สำคัญในปี 2012 วันนี้เกือบจะไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง 2012 ในรูปแบบเดียวหรืออื่นใด ส่วน ใหญ่จะรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรมากกว่าเรื่อง New age ไร้สาระ, ทุกวันนั้นในปี 2012 จะมาและก็ไปและไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างจะ เหมือนปกติ ผมขอชี้ชัดอีกครั้งว่านี่เป็นเรื่องที่จริงมากๆ,เป็นจริง มันสามารถเกิดและกำลังมาถึงในไม่ช้านี้ เราจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทางร่างกาย,จิตใจและที่สำคัญที่สุดคือจิตวิญญาณ ผมได้ใช้ร่างกายชีวภาพนี้เป็นเวลา 37 ปีที่ผ่านมาเพื่อที่จะช่วยผู้คนในกระบวนการปลุกให้ตื่น บางครั้งการกระตุ้นให้ตื่นต้องการการพูดเกี่ยวกับสิ่งที่แปลกประหลาดและน่ากลัวและยากที่จะเชื่อ
ผมสามารถทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกอย่างที่ใส่ลงไปในไฟล์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและช่วยเหลือมนุษยชาติ ไม่ได้ขู่ให้กลัวหรือเป็นอันตราย, แต่เพื่อแสดงสถานการณ์จริงบนโลกใบนี้ ถ้าเราไม่เห็นสิ่งที่เป็นปัญหา ... เราจะสูญเสียและเราจะไม่สามารถแก้ปัญหา
ผมส่งผ่านข้อมูลที่ดีที่สุดของความรู้ที่ผมมี นี่คือความจริงและไม่ได้หวังอะไร แต่เป็นความจริง ข้อมูลบางส่วนรวบรวมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่ได้จากประสบการณ์ของผมอย่างถูกต้อง ทุกอย่างที่คุณได้อ่านในไฟล์นี้และอีกมาก จะอยู่ในงานนำเสนอและข้อพิสูจน์และหลักฐานวิดีโอก็จะแสดงให้ดู หลังจากนั้นคุณจะทำอะไรกับข้อมูลก็เป็นทางเลือกของคุณ
สรุป การวิเคราะห์กลยุทธ์ที่ชนชั้นปกครองกำลังบรรจุผ่านสื่อสาธารณะ,มันสามารถถูกตรวจพบว่า ข้อมูลเริ่มจะออกมาในรูปแบบที่ยังคงซ่อนเร้น แต่ตัวชี้วัดที่ชัดเจนคือกองทัพเตรียมความพร้อมสำหรับสิ่งที่สำคัญในปี 2012 ,ทุกวันนี้เกือบจะไม่มีใครไม่ได้ยินเกี่ยวกับ 2012 ในรูปแบบเดียวหรืออื่นใด ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรมากกว่าเรื่องไร้สาระของ New age, วันที่ในปี 2012 จะมาและไปและไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างจะเหมือนปกติ
สรุป การวิเคราะห์กลยุทธ์ที่ชนชั้นปกครองกำลังบรรจุผ่านสื่อสาธารณะ,มันสามารถถูกตรวจพบว่า ข้อมูลเริ่มจะออกมาในรูปแบบที่ยังคงซ่อนเร้น แต่ตัวชี้วัดที่ชัดเจนคือกองทัพเตรียมความพร้อมสำหรับสิ่งที่สำคัญในปี 2012 ,ทุกวันนี้เกือบจะไม่มีใครไม่ได้ยินเกี่ยวกับ 2012 ในรูปแบบเดียวหรืออื่นใด ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรมากกว่าเรื่องไร้สาระของ New age, วันที่ในปี 2012 จะมาและไปและไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างจะเหมือนปกติ
P.71
ผมขอชี้ชัดอีกครั้งว่านี่เป็นเรื่องที่จริงมากๆ,เป็นจริง มันสามารถเกิดและกำลังมาถึงในไม่ช้านี้ เราจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทางร่างกาย,จิตใจและที่สำคัญที่สุดคือจิตวิญญาณ ผมได้ใช้ร่างกายชีวภาพนี้เป็นเวลา 37 ปีที่ผ่านมาเพื่อที่จะช่วยผู้คนในกระบวนการปลุกให้ตื่นบางครั้งการกระตุ้นให้ตื่นต้องการการพูดเกี่ยวกับสิ่งที่แปลกประหลาดและน่ากลัวและยากที่จะเชื่อ ผมสามารถทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกอย่างที่ใส่ลงไปในไฟล์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและช่วยเหลือมนุษยชาติ ไม่ได้ขู่ให้กลัวหรือเป็นอันตราย, แต่เพื่อแสดงสถานการณ์จริงบนโลกใบนี้ ถ้าเราไม่เห็นสิ่งที่เป็นปัญหา ... เราจะสูญเสียและเราจะไม่สามารถแก้ปัญหา
ผมส่งผ่านข้อมูลที่ดีที่สุดของความรู้ที่ผมมี นี่คือความจริงและไม่ได้หวังอะไร แต่เป็นความจริง
ข้อมูลบางส่วนรวบรวมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่ได้จากประสบการณ์ของผมอย่างถูกต้อง ทุกอย่างที่คุณได้อ่านในไฟล์นี้และอีกมาก จะอยู่ในงานนำเสนอและข้อพิสูจน์และหลักฐานวิดีโอก็จะแสดงให้ดู หลังจากนั้นคุณจะทำอะไรกับข้อมูลก็เป็นทางเลือกของคุณ
เป็นที่โชคดีที่สิ่งมีชีวิตแห่งแสงสว่างยังคงอยู่ที่นี่ด้วย พวกเขาเฝ้ามองทุกสิ่งทุกอย่างและพวกเขากำลังให้ความช่วยเหลือ
มากเท่าที่พวกเขาทำได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น