Project Haarp
เขียนโดย jimmysiri
แผ่นดินไหว ซึนามิ ความแห้งแล้ง ไฟป่า น้ำท่วม โคลนถล่ม เฮอริเคน ทอนาโด ในรอบ 15 ปีที่ผ่านมาโดยส่วนใหญ่เป็นฝีมือของมนุษย์ทั้่งสิ้น ปรากฏการณ์เหล่านี้สร้างขึ้นโดยโครงการหรือเครื่อง " HAARP " หรือ High Frequency Active Aurora Research Project โดยเป็นโครงการทดลองทางวิทยาศาตร์ของรัฐบาลสหรัฐเพื่อสร้างและควบคุมสภาพ ภูมิอากาศโดยการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูงกว่า 1 พันล้านวัตต์ขึ้นไปที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แล้วให้สะท้อนกลับมายังพื้นผิวโลก ไปยังเป้าหมายที่ต้องการ (ไม่ว่าจะบนพื้นดิน หรือแม้แต่ในมหาสมุทร) เพื่อส่งพลังงานนั้นลงไปสู่ชั้นหินใต้ดินเพื่อก่อให้ เกิดแรงสั่นสะเทือนหรือเกิดแผ่นดินไหวนั่นเอง โดยเครื่อง HARRP นี้ ยังสามารถประยุคใช้กับเทคโนโลยีร่วมกับดาวเทียม และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อควบคุม Jet Stream ซึ่งเป็นกุญแจของธรรมชาติที่จะนำพากลุ่มเมฆ น้ำฝน ความร้อน ความแห้งแล้งและความหนาวเย็น และอื่นๆ อีกมาก ซึ่งจะกล่าวในตอนต่อไปครับ
ที นี้เรามาดูกันครับว่าใครคือผู้ค้นพบเทคโนโลยีนี้ เขาคือ Dr.Nicoli Tesla (นิโคไล เทสล่า) เป็นชาวเซิร์บย้ายถิ่นฐานมาที่รัฐนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 1950 แต่โครงการนี้จริงๆ เริ่มต้นในช่วงทศวรรษปี 1900 และถูกพัฒนาอย่างจริงจังจนเป็นผลสำเร็จโดย ดร.เทสล่า โดยการสนับสนุนเงินทุนจากนายธนาคาร "ชั่ว" ที่ชื่อ J.P. Morgan นั่นเอง จึงทำให้เทคโนโลยีถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดด้วยการสร้างภัยพิบัติต่างๆ เพื่อทำลายมนุษยชาติด้วยกันเอง ในคลิปแรกจะแสดงการทำงานของ Tesla Coil ซึ่งเป็นการงานวิจัยเพื่อจำลองและสร้างปรากฏการณ์ "ฟ้าผ่า" ขึ้น
และในวีดีโอนี้อดีตรัฐมนตรี คลังของญี่ปุ่น เค้าออกมายอมรับครับว่า ประเทศเค้าถูกภัยคุกคามจาก "เครื่องสร้างแผ่นดินไหว" หรือ HAARP ครับ เค้าจึงต้องยอมให้ประเทศที่ทำกับเค้าควบคุมระบบการเงินทั้งหมดของญี่ปุ่น เพราะเค้าต่อต้านไม่ได้ ฟังแล้วสลดใจมากครับ ผู้สัมภาษณ์ชาวอเมริกันคนนี้ ก็พยามยามที่จะเอาเรื่องนี้กลับมาเพื่อจะมาเปิดโปงว่าใครเป็นคนทำครับ เค้าก็สู้มาตลอดเพื่อเรื่องนี้ครับ
http://www.haarp.alaska.edu/haarp/index.html
http://foia.abovetopsecret.com/ultimate_UFO/Advanced/HAARPResearchAndApplications.pdf
http://www.fromthewilderness.com/free/pandora/haarp.html
http://www.haarp.net/
http://www.wired.com/dangerroom/2008/09/russias-haarp/
http://www.bariumblues.com/haarp_geophysical_weapon.htm
http://english.pravda.ru/science/19/94/379/16227_hurricanes.html
อเมริกาอยู่เบื้องหลังสึนามิ
เขียนโดย Wellrider
มกราคม 2007
บรรดานัก ทฤษฎีสมคบคิดพากันตั้งสมมุติฐานสาเหตุของสึนามิในเอเชีย ทั้งกล่าวหารัฐบาลปกปิดข้อมูล ใส่ร้ายกองทัพแอบทดลองอาวุธลับร้ายแรง หรือแม้แต่เชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ต่างดาว ที่พยายามแก้ไขการหมุนของโลกซึ่งไม่คงที่แน่นอน
เพียงไม่ถึงสองสัปดาห์หลังเกิดคลื่นยักษ์พัดถล่มเอเชียใต้และเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 150,000 คน จนสร้างความสะเทือนใจแก่ผู้คนโลก การถกเถียงถึงต้นตอของแผ่นดินไหวใต้มหาสมุทร ซึ่งเป็นสาเหตุของสึนามิครั้งนี้ กลายเป็นประเด็นร้อนที่มีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกันตามบาร์และห้องสนทนาทาง อินเทอร์เน็ตอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
"เรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังมากกว่านั้น ทำไมสหรัฐฯถึงส่งเรือรบเข้าไป และทำไมผู้บัญชาการอาวุโสในอิรัก ต้องเดินทางไปที่นั่นด้วย" มาร์ก ไทเลอร์ ดีไซเนอร์ผู้หนึ่งกระซิบระหว่างนั่งจิบเบียร์ที่บาร์ในย่านวั่นไจ๋ ของฮ่องกง
"มันเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังเหตุการณ์ที่เมืองบัมพอดิบพอดี" เขาอ้างถึงเหตุแผ่นดินไหวในอิหร่าน ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 30,000 คน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2003 และว่า "หรือมันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีบันทึกการเกิดแผ่นดินไหวลักษณะนี้ในสุมาตรา ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก"
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ช็อกโลก ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์ การลอบสังหารจอห์น เอฟ. เคนเนดี ตลอดจนการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา และการก่อการร้ายวันที่ 11 กันยายน 2001 บรรดานักทฤษฎีสมคบคิดมักออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับแผนชั่วร้ายที่อยู่ เบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ทุกครั้งไป
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ กองทัพสหรัฐฯและอินเดียตกเป็นเป้าของทฤษฎีดังกล่าวด้วย เช่นเดียวกับรัฐบาลหลายชาติ ตั้งแต่ออสเตรเลีย ไปจนถึงประเทศไทย ซึ่งถูกกล่าวหาว่า จงใจไม่ประกาศเตือนภัยสึนามิให้ประชาชนได้รับทราบก่อนหน้าคลื่นยักษ์จะถาโถม เข้าสู่ชายฝั่ง
ส่วนทฤษฎีที่แตกต่างจากข้อสังเกตอื่นๆทั่วไป คือ การกล่าวถึงต้นตอของคลื่นยักษ์ครั้งนี้ว่ามาจากการทดลอง "อาวุธสิ่งแวดล้อม" ซึ่งสามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดได้ ด้วยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าควบคุมในระยะไกล
ฟรี อินเทอร์เน็ต เพรส ซึ่งประกาศตัวเป็นเว็บไซต์นำเสนอ "ข่าวไร้การเซ็นเซอร์สำหรับคนจริง" มีการตั้งกระทู้ระบุว่า กองทัพและกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้รับคำเตือนภัยสึนามิล่วงหน้า แต่ไม่กระตือรือล้นในการแจ้งเตือนชาติเอเชีย
ฐานทัพเรือของสหรัฐฯในมหาสมุทรอินเดีย แถบหมู่เกาะดิเอโก การ์เซีย ได้รับการแจ้งเตือนและสามารถเอาตัวรอดได้อย่างไร้รอยขีดข่วน กระทู้ดังกล่าวตั้งคำถามต่อไปว่า "ทำไมชาวประมงในอินเดีย ศรีลังกา และประเทศไทย จึงไม่ได้รับการเตือนภัยในแบบเดียวกัน"
"บางทีอาจเป็นเพราะชาวประมงในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเครื่องมือสื่อสารที่สะดวกมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ก็เป็นได้" ข้อความหนึ่งโพสตอบด้วยอารมณ์โกรธแค้น
นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีอื่นๆที่แปลกประหลาด เช่น ชาวอินเดียผู้หนึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ต่างดาวที่แผลงฤทธิ์ หลังมีรายงานการติดต่อระหว่างเอเลียนกับรัฐบาลในเอเชียใต้ไม่นานมานี้ ขณะที่บางคนมองว่า มนุษย์ต่างดาวอาจพยายามช่วยแก้ไขการหมุนของโลกให้เป็นไปในอัตราคงที่
อย่างไรก็ดี ไทเลอร์หัวเราะเยาะไอเดียเรื่องเอเลียน แต่ยังคงเชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ พร้อมกับกล่าวปิดท้ายว่า "คอยดูแล้วกัน ยังมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอีกมากที่จะผุดขึ้นมาอีกในอนาคต"
ทางสถาบันวิจัยลับของอเมริกา ได้ทดลองใช้พลังงานไฟฟ้าอิเลคตรอน
ต่างๆ ทําให้สามารถควบคุม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดและทอร์นาโดได้
โดยทางกองทัพสหรัฐอเมริกาจะนํามาใช้ เป็นอาวุธ โจมตีประเทศอื่นๆ โดยที่ประเทศนั้นๆ ไม่รู้ตัวเลยว่าโดนโจมตี
เช่น การใช้แผ่นดินไหวโจมตีอินโดนีเซีย
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
- สกัดกั้นเศรษฐกิจการเจริญเติบโตของอินโดนีเซีย
- ฆ่าพลเมืองชาวมุสลิม ( อเมริกาต้องการกวาดล้างอิสลามทั้งในตะวันออกกกลางและที่อินโด )
- รัฐบาลอินโดนีเซียรู้เห็น เพราะบริเวณที่เกิดสึนามิ 26 ธันวาคม คือจ.อาเจ๊ะ จังหวัดที่ต้องการแยกตัวเป็นเอกราช ทําให้เกิดสงครามแบ่งแยกดินแดนหลายครั้ง ตั้งแต่สึนามิมา ไม่มีการต่อต้าน
ทางสถาบันวิจัยเทคโนดลยีต่างๆของยุโรป และรัสเซีย ออกมายอมรับว่าทําได้จริง
ที่มา http://www.bariumblues.com/haarp_geophysical_weapon.htm
การโจมตีต่างๆจะดําเนินต่อไป
พร้อมกันนี้ทางบริษัทยักใหญ่ได้ร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ จ่ายเงินให้กับ องกรณ์กรีนพีซ เพื่อประโคมข่าวว่า ภัยพิบัติธรรมชาติต่างๆ เป็นสาเหตุมาจาก
โลกร้อน
การที่ประโคมข่าวว่ามาจากโลกร้อน เป็นการหลอกลวงให้ประชาคมโลกเชื่อว่านี่เป็นต้นเหตุของภัยพิบัติ เพื่อการทดลองจะดําเนินต่อไป
ในฟอรั่มหนึ่งใน เวปhttp://www.droppingknowledge.org/bin...swer/6434.page
ระบุถึงการเกิด พายุเฮอริเคนคาทริน่า ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2005
เป็นการทดลองผิดพลาด ปกติจะเกิดเฮอริเคนประจําบริเวณอ่าวเมกซิโก 10 ลูก ขยายเป็น 20 ลูกในปีนั้น พอปี 2006 ก็กลับมาเป็นปกติ ผมค้นคว้าร่วมกับเพื่อนที่สนใจวิทยาศาสตร์ร่วมกันมา 2-3 ปีแล้ว
การทดลอง ระบุไม่ได้ครับว่าใช้พลังงานอะไรบ้างนัก
เพราะถูกปกปิดเป็นความลับ การเปิดเผยถูกเปิดเผยแค่บางส่วน
ที่แน่ๆ คือมีการตั้งเป้าหมายการทดลองไว้ในอนาคตแล้วว่าจะเป็นที่ไหน
เมื่อไหร่ โดยเป้าหมายสําคัญคือ ทําลายเศรษฐกิจและสาธรณูปโภคต่างๆของชาติศัตรูให้สิ้นไป แล้วอ้างเป็นภัยพิบัติจากธรรมชาติ
เลาธิการการป้องกันแห่งชาติสหรัฐอเมริกา วิลเลียม โคเฮน ออกมาเปิดเผยว่า ในปัจจุบันสามารถสร้างคลื่น อิเลคโตรแมกเนติก เพื่อใช้ควบคุม แผ่นดินไหว อากาศร้อน ภูเขาไฟระเบิด หรือแม้แต่ลมหมุนเล็กๆที่ไม่อันตราย ได้ เพื่อใช้เป็นอาวุธทางการทหารต่อไป
ในเวปนี้ยังมีบอกรายละเอียดของการทดลองมากมาย ที่คุณอาจยังไม่รู้
http://www.cyberspaceorbit.com/tectonic_weapons.html
อเมริกาอยู่เบื้องหลังสึนามิ 2
เขียนโดย Wellrider
กุมภาพันธ์ 2007
จากเอกสารลับของเพนตาก้อน (หน่วยงานกระทรวงกลาโหมฯสหรัฐฯ) ระบุถึง หน่วยงานพิเศษที่ตั้งขึ้นมา มีชื่อว่า HAARP (High-frequency Active Auroral Research Program) หน่วยงานนี้ ได้รับงบประมาณจากรัฐบาล เพื่อสร้างสุดยอดอาวุธที่สามารถควบคุมธรรมชาติได้ และใช้นักวิทยาศาสตร์ควบคุมการทดลอง จนประสบผลสําเร็จ เรียกว่า "อาวุธภัยพิบัติธรรมชาติ" โดย ใช้ทําการสร้างภัยพิบัติรูปแบบต่างๆทั่วโลก เพื่อปั่นป่วนและบั่นทอน เศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ ความตื่นกลัวของประเทศอื่นๆ
หน่วยงานเท่าที่อ่านมา มีการจงใจใช้สัญลักษณ์ทางศาสนาคริสต์ที่ว่าด้วย วันสิ้นโลก เพื่อขยายผลสร้างความตื่นตกใจให้ประชาชนโลก ให้เข้าใจว่าเป็นวันสิ้นโลกมาถึงแล้วจริงๆ แล้วกระหนําสร้างภัยพิบัติขึ้นมา ด้วยงบประมาณมหาศาลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการจะควบคุมกลไกตลาดโลก รวมถึงมีการจงใจสร้างโรคระบาด ซาร์ส และไข้หวัดนก ขึ้นมาเพื่อทําลายเศณษฐกิจเอเชีย-แอฟริกาอีกด้วย
จากในเวปและในเอกสารที่มีระบุ องการณ์ HAARP ออกมาบอกว่าตั้งแต่เข้าสู่ปี 2000 จะเริ่มมีการใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ ทําลายมวลมนุษยชาติ โดยจะเหลือแต่เพียงพวกคนรวยที่เตรียมตัวย้ายไปตั้งถิ่นฐานที่.... โดยอาจจะต้องปล่อยให้โลกพินาศไปด้วยภัยธรรมชาติที่มาจากอาวุธเทคโนโลยีเหล่า นี้ คิดค้นโดย นิโคล่า เทสลา ชาวนิวยอร์ค นอกจากจะใช้เครื่องมือทางการทหารก่อความวุ่นวายด้วย ภัยพิบัติ ปลอมๆต่างๆ ยังมีแผนไม่ลงนามในสนธิสัญญาเกียวโต เพื่อลดภาวะปรากฏการณ์เรือนกระจก นอกจากนี้ ยังจงใจปล่อยควันพิษ สารเคมี ให้ระเหยไปมากๆในชั้นบรรยากาศโลก เพื่อทําลายมวลมนุษยชาติ โดยคิดว่า พวกตัวเองจะรอดเป็นกลุ่มสุดท้าย และอพยพไปอยู่ที่... โดยการร่วมมือของ.... คอยจับตาเศรษฐกิจจีนดีๆ ปีนี้พุ่งสูงมาก อาจจะสูงจนเงินดอลล่าห์แทบไร้ค่า เพราะจีนเล่นแต่เงินยูโร เมื่อถึงตอนนั้น จะมีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ทําลายจีนแน่ๆ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ตอนปี 97 เศรษฐกิจฮ่องกงเจริญมากจากการค้าขายอาหาร
จู่ๆทําไมเกิดโรคไข้หวัดนกขึ้นมา ทําไมจู่ๆฮ่องกงเดี้ยง จีนก็โดน ทําไมสหรัฐฯมียา วัคซีนป้องกันไข้หวัดนกมากที่สุดในโลกและมีการเตรียมมา10ปีแล้ว
ผมและ เนติภูมิ นวรัตน์ ออกจากภูเก็ตมากรุงเทพฯ และบินต่อมายังประเทศศรีลังกาในวันเดียวกัน กว่าจะได้หลับตาพักก็เข้าตีสี่รุ่งเช้าของวันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2548 พอเริ่มมีแดดแผดแสงเข้ามาแยงตา เราก็นั่งรถจากกรุงโคลัมโบลงมาทางใต้ ผ่านตำบลสำคัญเช่น กาลูตารา อลุธกามา ฮิคกาดูว่ เมืองกอลล์ และมาพักแรมราตรีนี้ที่ตำบลเวลิกามาของจังหวัดตะคุนุ หรือจังหวัดใต้สุด
ผมเดินทางมายังตอนใต้ของศรีลังกาบ่อย บ่อยมากเหมือนมาบ้านหลังที่สองของตนเอง หลับตาครั้งใดก็ยังจำได้ถึงสภาพเดิมก่อนวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 ตอนใต้และตะวันออกของศรีลังกาจะมีถนนหนทางเล็กๆ ลาดพาดขนานไปกับหาดทรายชายทะเล เส้นสายการคมนาคมที่ขนานไปกับถนนหนทางก็คือ รางรถไฟสายโคลัมโบ เมืองกอลล์ เรือนไม้บ้าง ตึกบ้าง ของผู้คนก็จะปลูกอยู่ชิดติดถนนทั้งสองด้าน ส่วนที่ลาดลงไปก่อนจะถึงมหาสมุทรอินเดียนั้น ถ้าเป็นดินทรายมีโขดหินก็จะมีป่าชายหาดขึ้นเป็นแนวแคบๆ เป็นหย่อมๆ ส่วนใหญ่เป็นพวกสนทะเล กระทิง โพทะเลและหูกวาง หลายแห่งมีวัชพืชพวกสาบเสือและหญ้าคาขึ้นแทรกอยู่บ้าง
ในอดีต เมื่อขับรถยนต์ออกจากเมืองกอลล์ไปทางตะวันออกของประเทศ ริมฝั่งทะเลแถวไหนเป็นดินเลนลึกและมีความเค็มสูงก็จะมีป่าชายเลนหรือบางท่าน อาจจะเรียกว่าป่าโกงกาง พันธุ์ไม้ในป่าชายแลนของที่นี่ก็เหมือนกับไม้ในป่าชายเลนของประเทศไทย คือมีต้นโกงกางเป็นหลัก จากนั้นก็เป็นต้นตะบูนขาว ตะบูนดำ ประสักขาว ประสักแดง ตาตุ่มทะเล แสมขาว และก็ต้นจาก
ตระเวนไปในสถานที่ที่โดนสึนามิคลื่นมหาภัยในหลายประเทศนอกจากจะได้ช่วย เหลือเกื้อกูลรับใช้เพื่อมนุษย์ด้วยกันแล้ว ผมยังได้สังเกตความเปลี่ยนแปลงบางอย่างทา
ภูมิอากาศและภูมิประเทศบันทึกของเราอาจจะมีประโยชน์น้อยๆ ต่อผู้คนที่สนใจในภูมิอากาศบรรพกาล บรรพชีวินวิทยา หรือธรณีประวัติอะไรพวกนี้บ้าง
ระหว่างทาง ผมสั่งให้รถจอดเป็นระยะๆ และพาลูกชายลงไปสังเกตบ้านเรือนที่อยู่หลังป่าชายหาด บ้าเรือนเหล่านี้ต่างโดนพิษสึนามิพังทั้งหมด อาจจะเป็นเพราะป่าชายหาดมีพรรณไม้ไม่หนาแน่เพียงพอที่จะลดความบ้าคลั่งของ คลื่น แต่ถ้าเป็นหมู่บ้านบริเวณหลังป่าโกงกาง ก็จะไม่เสียหายมากเหมือนบ้านที่อยู่หลังป่าชายหาด
พ้นจากเมืองกอลล์ ผ่านไปในความนิคมทางตะวันออกของประเทศเรายังได้เห็นทิวทัศน์เขียวขจีของปาก แม่น้ำชายเลนหลายแห่ง เห็นรากโกงกางที่ขึ้นๆ ลงๆ ประสานกัน รถวิ่งไปถึงตรงไหนที่บังเอิญเป็นคราวน้ำลง ก็ยังคงได้เห็นพื้นเลนสีเทาที่มีปูและปลาตีนวิ่งไปมา นี่หมายความว่า สึนามิที่มีช่วงคลื่นยาวถึง 80-200 กิโลเมตร คลื่นคลั่งที่เคลื่อนข้ามมหาสมุทรซึ่งห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ได้เป็นพันๆ กิโลเมตร ก็ยังทำอะไรป่าโกงกางได้ไม่มาก
แวะทานอาหารที่ร้านริมแม่น้ำเบนธารา Benthara ในตำบลอลุธกามา Aluthgama จำได้ว่าร้านนี้เดิมอยู่ริมสายน้ำ แต่วันนี้ไหงมาตั้งอยู่ริมทะเล เจ้าของร้านและชาวบ้านแถวนนั้นเล่าให้ฟังว่าบรรพบุรุษของพวกตนตั้งรกรากอยู่ บนฝั่งแม่น้ำใหญ่ซึ่งเป็นแม่น้ำน้ำจืด แต่หลังจากวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 เป็นต้นมา บ้าเรือนของตนดันอยู่แระชิดติดกับทะเล น้ำบ้านกลายเป็นน้ำเค็ม มีน้ำขึ้นน้ำลงด้วย ยามใดที่น้ำขึ้น น้ำจะเอ่อไปนองแผ่นดินริมฝั่งที่แต่เดิมเป็นริมแม่น้ำ น่ากลัวมาก
นี่ก็เป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่ง ซึ่งนามิเปลี่ยนภูมิประเทศโดยคลื่นยักษ์ซัดพัดเอาแผ่นดินส่วนที่กั้นแม่น้ำ กับทะเลพังไปหลายจุด ยังผลให้แม่น้ำกลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเล ภูมิประเทศบริเวณนี้ก็เปลี่ยนไปหลายแห่ง ชาวบ้านปรับตัวไม่ทัน
ผมและเนติภูมิตระเวนหาที่นอนกันนานพอสมควร โรงแรมโน้นก็พัง บังกะโลนี้ก็เละ และมีอสุภซากศพคาอยู่หลายจุด สัมผัสได้แต่กลิ่นแต่หาอินทรีย์ไม่พบ
บั้นปลายท้ายที่สุด เราก็ได้ที่พักแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ชิดติดทะเล
เที่ยงคืน เสียงคลื่นซัดชายฝั่งดังเป็นระยะ ผมยังนั่งเขียนคอลัมน์อยู่
“พ่อเชื่อไหมครับว่า ในอนาคตมนุษย์จะเอานิวเคลียร์ไปไว้ใต้มหาสมุทร และสร้างสึนามิทำลายกลุ่มประเทศศัตรูที่อยู่ริมทะเล?” เนติภูมิส่งคำถามมาจากเตียง
ผมเงียบ ไม่ตอบว่ากระไร
ไม่นานนัก เนติภูมิก็หลับ
นิติภูมิ นวรัตน์
[10/1/2548]
สามปีที่ แล้ว นิติภูมิได้รับชวนจากรัฐบาลไต้หวันให้ไปเยือนสาธารณรัฐจีน ก่อนไปหนึ่งวัน เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหว ประชาชนคนตายไปมากกว่าสามพัน
รัฐบาลอิหร่านชวนนิติภูมิไปเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ธันวาคมก่อนการเดินทาง ก็มีแผ่นดินไหวเกิดที่เมืองแบม ผู้คนตายไปมากกว่าห้าหมื่น
วันนี้ วันพุธที่ 18 ขณะนี้นิติภูมิอยู่ที่ปากีสถาน สถานทูตปากีสถานชวนมาปราศรัยที่ศูนย์ภูมิภาคศึกษาแห่งมหาวิทยาลัย Sindh, Jamshoro ก่อนเดินทาง 2 วัน เกิดแผ่นดินไหวในภาคเหนือของปากีสถาน 2 ครั้ง มีคนตายไปหลายสิบ
ความที่ก่อนจะเดินทางไปประเทศใด หลายครั้งมักจะมีแผ่นดินไหวเกิดดักหน้าซะก่อน ผมก็จึงกลายเป็นคนที่สนใจในการเกิดของแผ่นดินไหว คนญี่ปุ่นเชื่อว่า มีปลาดุกขนาดใหญ่นอนอยู่ใต้พื้นโลก เมื่อใดที่ปลาดุกขยับ ก็จะเกิดแผ่นดินไหว ปลาดุกตัวนี้ถูก
ควบคุมโดยเทวดาตนหนึ่ง ซึ่งถือท่อนเหล็กในมือคอยหวดปลาไม่ให้ขยับ เมื่อใดที่เทวดาเผลอ ปลาก็จะกลับขยับตัว ทำให้เกิดแผ่นดินไหว มีคนตายมากมายทุกครั้ง
คนมองโกลในประเทศมองโกเลีย เชื่อว่ามีกบยักษ์หนุนโลกอยู่ เมื่อใดก็ตามที่กบตื่นขึ้นมาก็จะบิดขี้เกียจ ตอนนั้นนั่นแหละครับ จะเกิดแผ่นดินไหว
ตำนานฮินดูในอินเดีย เชื่อว่าโลกใบนี้มีช้างยักษ์ 8 เชือก เทินแผ่นดินเอาไว้ เมื่อใดที่ช้างเมื่อยก็จะสะบัดหัวและตัวไปมา เมื่อนั้นก็จะมีแผ่นดินไหว
เดี๋ยวนี้มนุษย์ทราบแล้วครับ ว่าเราทั้งหลายอาศัยอยู่บนเปลือกโลก 12 แผ่น แต่ละแผ่นยู่ในสภาพเหมือนลอยอยู่บนหินหลอมละลาย จึงมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา การเคลื่อนตัวแต่ละครั้งจะมีการชนกัน เสียดสีกัน ซ้อนทับกัน ฯลฯ ของแผ่นเปลือกโลก ทำให้เกิดมีแผ่นดินไหวนาดใหญ่
ตามแนวขอบเปลือก
บางทีแผ่นดินใหญ่ก็เกิดจากที่ลูกอุกกาบาตขนาดใหญ่ตกลงมาจากอวกาศ หลายครั้งที่พบว่าแผ่นดินไหวเกิดจากการที่ธารน้ำใต้ดินเปลี่ยนเส้นทางเดิน ทำให้เกิดอุโมงค์ว่างข้างใต้ แผ่นดินจึงยุบลงไปทำให้แผ่นดินไหว บางครั้งพลังงานความร้อนภายในโลก ก็ปล่อยพลังงานขึ้นมาสู่ผิวดิน ทำให้แผ่นโลกเคลื่อนตัวอย่างฉับพลัน บางทีแผ่นดินไหวก็กิดจากการที่ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ
แผ่นดินไหวเกิดจากฝีมือมนุษย์ก็ได้นะครับ การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดินก็ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ ผู้อ่านท่านเคยอ่านข่าวไหมครับ เมื่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่เสร็จใหม่ๆ พื้นที่ใต้อ่างเก็บน้ำต้องรับน้ำหนักจำนวนมากมายมหาศาล ทำให้ยุบตัวลง แผ่นดินไหวก็จึงเกิดขึ้น
เดี๋ยวนี้มีหลายประเทศฝังขยะนิวเคลียร์ไว้ใต้ดิน นิวเคลียร์แผ่กัมมันตภาพรังสีไปโดนเอาหินเข้า ชั้นหินใต้ดินก็แปรสภาพยุ่ยเป็นผุยผง แผ่นดินข้างบนจึงถล่มลงไป แผ่นดินไหวก็จึงกิดขึ้น
แผ่นดินไหว 2 ครั้ง ที่เกิดในปากีสถาน เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ข่าววไปไม่ว่าของไทย หรือของเทศมักจะรายงานว่า ความรุนแรงของแผ่นดินไหววัดได้ 5.7 และ 5.5 ริกเตอร์ตามลำดับ ขออนุญาตเรียนว่า ริกเตอร์ไม่ใช่ใช้วัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวนะครับ แต่ใช้วัดขนาดของแผ่นดินไหว ขนาดของแผ่นดินไหวคือปริมาณของพลังงานที่ปล่อยออกมาจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยวัดความสูงของคลื่นที่ตรวจวัดได้ แล้วคำนวณใช้
สูตรการหาขนาด ซึ่งค้นคิดโดยนักวิทยาศาสตร์อเมริกันที่ชื่อ “ริกเตอร์” เราจึงวัดขนาดองแผ่นดินไหวเป็นริกเตอร์>>
โลกของเราใบนี้นอกจากจะมีสงครามและระเบิดเกิดถี่มากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตก็อาจจะมีผ่นดินไหวเกิดมากและถี่ขึ้นด้วย ผู้อ่านท่านเชื่อไหมครับ เดี๋ยวนี้มีนักอาวุธศาสตร์บ้าบางคนเสนอสร้างแผ่นดินไหวเทียม เพื่อใช้เป็นอาวุธให้เกิดในแผ่นดินของศัตรู โดยอ้างว่าจะได้ผลและแนบเนียนกว่าการใช้เครื่องบินไปทิ้งระเบิด แถมยังมีคนตายเป็นจำนวนมากกว่าด้วย
จะทำได้หรือไม่ได้ แต่แค่ที่มีความคิดจะสร้างอาวุธแผ่นดินไหว ก็[^_^]เป็นเสนียดโลกมากกว่าไอ้คนที่ค้นคิดระเบิดนิวเคลียร์แล้วครับ
นิติภูมิ นวรัตน
[18/2/2547]
ผมอ่าน รายงานข่าวจากสื่อไทยสื่อเทศหลายฉบับ ก่อนเดินทางมาสาธารณรัฐอิสลามากีสถาน ได้การว่าความรุนแรงของแผ่นดินไหว ในภาคเหนือของปากีสถานที่เกิดขึ้นเมื่อ 14 ก.พ 2547 ทั้ง 2 ครั้ง คือ 5.7 และ 5.5 ริกเตอร์ตามลำดับ ขอเรียนรับใช้นะครับว่าความรุนแรงขอ
แผ่นดินไหวหรือ intensity นั้น โลกเรามีตารางวัดเป็นมาตรฐานเมอร์แคลลี Mercalli หรือที่เราเรียกว่า MM Scale ไม่ใช่เป็นริกเตอร์>>
มาตรฐานเมอร์แคลลีจะมีตารางวัดอันดับความสั่นสะเทือนที่แบ่งได้ออกเป็น 12 ระดับ เช่น อันดับ 1 อ่อนมาก อันดับ 2 พอรู้สึกได้เฉพาะคนที่อยู่นิ่งๆ ในอาคารสูง อันดับ 8 สิ่งก่อสร้างที่ออกแบบดีเสียหายเล็กน้อย อันดับ 10 อาคารพัง รางรถบิดงอ อันดับ 11 ผิวโลกอุดนูนเลื่อนไปเป็นคลื่น อันดับสุดท้าย หรืออันดับ 12 ทำลายทุกอย่าง สายตาจะมองเห็นเป็น
คลื่นแล่นไปบนแผ่นดิน>>
ส่วนมาตรฐานริกเตอร์นั้น ใช้วัดขนาดแผ่นดินไหว หรือที่เราเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Magnitude ขนาดของแผ่นดินไหวเป็นปริมาณของพลังงานที่ปล่อยออกมาจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยวัดความสูงของคลื่นที่ตรวจวัดได้ แล้วคำนวณโดยใช้สูตรการหาขนาด ซึ่งคิดโดยนักวิทยาศาสตร์อเมริกัน ที่ชื่อริกเตอร์ C.F. Richter>>
ขนาดของแผ่นดินไหว 6 ริกเตอร์ ก็จะเท่ากับความรุนแรงของแผ่นดินไหวอันดับ 8 คือ สิ่งออกแบบก่อสร้างมาดี เสียหายเล็กน้อย ส่วน 8 ริกเตอร์เท่ากับมาตรฐานเมอร์แคลลี 11 ผิวโลกอุดนูนเลื่อนไปเป็นคลื่น>>
แม้มนุษย์จะมีเครื่องมือและมีเทคโนโลยีล้ำเลิศขนาดไหน ผมว่ายังไงก็ยังสู้สัตว์ไม่ได้ ไม่ใช่สัตว์ประเภทเดียวด้วยนะครับ สัตว์แทบทุกประเภทสามารถรู้ว่าจะมีแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน เมื่อใดก็ตามที่ทั้งวัว ทั้งม้าไม่ยอมเข้าคอก แมลงสาบวิ่งรอกไปมาไม่ยอมหยุด หนู
ผุดแตกตื่นขึ้นมาจากรู ผึ้งกรูกันออกจากรัง เป็ดไก่จังงังไม่กล้าเข้าเล้า หมาเห่ากระโชกโดยไม่มีสาเหตุ ที่น่าสังเกตอีกอย่างก็คือ แม้แต่ปลายังกระโดดขึ้นมาจากน้ำ พวกนี้แสดงว่ากำลังจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นทั้งนั้น>>
ตอนที่มีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในไต้หวัน มีคนตายหลายพัน หลังจากนั้นผมไปนอนตามสถานที่ต่างๆ ก็ยังได้เจอกับอาฟเตอร์ช็อก After shock อาฟเตอร์ช็อกก็คืออาการไหวที่เบาลงมากๆ โดยปกติแล้วแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเป็นห้วงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เป็นเวลาหลายวินาที บางทีก็จะเกิดเป็นระลอกซํ้าหลายๆครั้ง อาการอาฟเตอร์ช็อกนี่แม้ว่าจะเบาบาง แต่ก็มีอันตรายได้นะครับ ครั้งหนึ่งที่รัสเซีย อาฟเตอร์ช็อกทำให้ก๊าซรั่ว คนไม่ได้ตายจากแผ่นดินไหวหรอกครับ แต่ตายจากการที่ก๊าซรั่ว>>
หากแผ่นดินไหวในทะเล พวกที่มีบ้านเรือนอยู่ริมทะเลก็ต้องระวังคลื่นใต้นํ้าขนาดใหญ่ที่เราเรียก ว่าซูนามิ ที่ซัดเข้าหาฝั่งครั้งใดก็จะนำความเสียหายวิปโยคมาสู่มวลมนุษย์เมื่อนั้น >>
นิติภูมิเรียนรับใช้ไปเมื่อวานแล้ว ว่าแผ่นดินไหวที่เกิดอย่างฉับพลันทันทีนั้น จะเกิดบริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่มีทั้งหมดอยู่ 12 แผ่น บางครั้งแผ่นดินไหวก็ยังเกิดจากการเคลื่อนตัวของชั้นหินในรอยเลื่อนที่ยังมี การเคลื่อนตัวอยู่ ถามว่าในเมืองไทย
ของเรายังมีรอยเลื่อนเคลื่อนตัวอยู่ที่ไหนบ้าง ต้องตอบว่า ยังมีอยู่ที่รอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ รอยเลื่อนแม่ทา รอยเลื่อนเมยที่อุทัยธานี รอยเลื่อนเชียงราย รอยเลื่อนเชียงแสน รอยเลื่อนเถิน รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ฯลฯ>>
ขออนุญาตนำเรื่อง อาวุธใหม่: แผ่นดินไหว” มารับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพ ก็เพราะเดี๋ยวนี้มีนักวิทยาศาสตร์บ้าบางคนเสนอรัฐบาลของตนให้ค้นคิดวิธีการ ทำแผ่นดินไหวเทียมเพื่อใช้เป็นอาวุธให้เกิดขึ้นในแผ่นดินของศัตรู โดยอ้างว่าจะได้ผลแนบเนียนมากกว่าใช้เครื่องบินหรือใช้กำลังทหาร แถมยังมีคนตายมากกว่าด้วย>>
ขณะนี้นิติภูมิยังอยู่ที่ปากีสถาน ที่นี่กำลังมีวิกฤตการณ์ที่สหรัฐฯกล่าวหาว่า บิดานิวเคลียร์ของปากีสถานแอบขายเทคโนโลยีนิวเคลียร์ไปให้อิหร่าน ลิเบียและเกาหลีเหนือ พรุ่งนี้ขออนุญาตมารับใช้ถึงภัยของอาวุธที่เป็นโรคระบาดต่างๆ ทั้งที่แพร่ระบาดในคนและสัตว์ครับ>>
>>
นิติภูมิ นวรัตน์>>
[19/2/2547]
อาวุธชีวะ
นิติภูมิ นวรัตน์ 20 กพ.47
ผู้อ่านท่านครับ ถ้าท่านได้รับภารกิจลับให้ไปทำลาย 1. ประเทศ 2. อนุภูมิภาค หรือ 3.ภูมิภาค ท่านจะใช้อะไรเป็นเครื่องมือถึงจะได้ผลดีที่สุด แน่นอน ถ้าท่านเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกฝนจนชำนาญในการทำลายล้างทางลับ ท่านจะต้องนึกถึงอาวุธชีวะเป็นอันดับแรก เพราะอาวุธชีวะองกันได้ยาก ตรวจพบก็ยากมาก ที่สำคัญอาวุธชีวะนี่มีระยะฟักโรคที่แน่นอน สามารถกำหนดได้เลยว่า ประเทศนั้น ภูมิภาคนี้ จะมีอาการเดี้ยงในเวลาใด ระยะไหน หรือจะให้เกิดในห้วงช่วงระหว่างที่มีการทดลองปฏิบัติการทางกำลัง ฆ่าคนเล่น วันละคนสองคน ก็ได้
เอ้า เกิดขึ้นพร้อมๆกัน ดูซิว่าเอ็งที่ว่าเก่งเป็นเทวดาจะแก้ยังไง?โรคภัยไข้เจ็บที่มนุษย์เป็นอยู่ ทุกวันนี้ ประมาณ 80% สามารถติดต่อกันได้ไปมาระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ท่านผู้ได้รับการฝึกฝนจนชำนาญในการทำลายล้างทางลับ ท่านก็คงจะเลือกปล่อยเชื้อโรคบางตัวที่ทำอันตราย
ได้ทั้งคนและทั้งสัตว์ นำทำความเสียหายทางเศรษฐกิจ การก่อการร้ายก็ดำเนินไปได้อย่างแนบเนียน
อาวุธชีวะผลิตได้ง่ายกว่าอาวุธอื่น สร้างขึ้นง่ายกว่าอาวุธเคมีเยอะ นำมาใช้ในจำนวนเพียงไม่ถึงกิโลกรัม ก็ทำให้คนเดี้ยงได้ทั้งประเทศ อานุภาพร้ายแรงกว่าอาวุธจริงๆ และอาวุธเคมีมากหลายเท่า ผู้นำรัฐบาลของประเทศต่างๆที่ยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับศึกอาวุธชีวะ ก็จึงระมัดระวังไม่ไปก่อร่างสร้างศัตรูที่มองไม่เห็น วิธีการที่ดีที่สุดในการรักษาชาติบ้านเมืองให้ปลอดภัยปราศจากภยันตรายใดๆ ก็คือการดำรงนโยบายของประเทศให้เป็นกลาง อยู่อย่างสงบ
มีหลายวิธีที่ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองที่ท่านบริหารอยู่อย่างสงบ ก็เช่น เมื่อมหาอำนาจชาติใหญ่กำลังไล่บี้เหยื่อที่น่าสงสารอย่างอัฟกานิสถาน ถ้าไม่สมเพชเวทนาผู้ที่ด้อยกว่า เราก็ต้องวางตัวเป็นกลาง อย่าไปยกสนามบินอู่ตะเภาให้เครื่องบินอเมริกันใช้ร่อนไปร่อนมาไปเล่นงาน อัฟกานิสถาน แต่ถ้าได้ทำผิดไปแล้ว ก็ให้ผู้นำประเทศออกมายืดอกยอมรับผิด ไม่ใช่อ้อมแอ้มๆๆ แล้วก็ทำความผิดซํ้าซากขึ้นมาอีกด้วยการส่งทหารไปอิรัก นั่นแหละครับ การประกาศสงครามนำภัยมาสู่ประเทศชาติ
อาวุธชีวะที่ใครๆก็มีไว้ในความครอบครองที่น่าสนใจตัวแรก ก็เห็นจะเป็นโรคไข้สันหลังอักเสบ โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส Arbovirus Group A ส่วนใหญ่จะเอาไปปล่อยไว้ในสัตว์ปีกทั้งนก ไก่ เป็ด ฯลฯ เมื่อยุงไปดูดเลือดสัตว์ปีกที่เป็นโรคไข้สันหลังอักเสบ ก็จะมาติดคน หรือไปกัดหมูก็ติดไปสู่หมู เมื่อเชื้อเข้าไปในร่างกายแล้วก็จะมีระยะฟักตัว 24 วัน จากนั้น เหยื่อที่โดนก็จะมีไข้สูง ปวดหัวบ่อย อาเจียน คอและหลังจะแข็ง ชัก เป็นอัมพาต และตายในที่สุด โดนเชื้อนี้เข้าไปส่วนใหญ่จะตายถึงร้อยละ 60 ประเทศเดี้ยงทั้งชีวิตมนุษย์และทั้งเศรษฐกิจ
นอกจากนั้น ยังมีโรคทูลารีเมีย โรคแฮมโมแรจจิค ไข้ผื่น ไข้รากสาดใหญ่ ไข้เหลือง โรคนกแก้ว ฯลฯ โรคแท้งติดต่อนี่ก็ใช่
ครั้งหนึ่งนายนัสเซอร์ อาซัด จากกลุ่มอัลทามิมิ เคยกล่าวคำปราศรัยไว้ว่า หนทางที่จะชนะสงครามศักดิ์สิทธิ์ ก็คือ อาวุธชีวะ
บิน ลาดิน ก็เคยปราศรัยว่า จะเป็นบาปของมุสลิมทุกคนที่ไม่พยายามหาอาวุธชีวะซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้พวกนอกศาสนามาทำร้ายมุสลิมได้
เดี๋ยวนี้การเดินทางไปต่างประเทศเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะต้องเข้าด่านตรวจตามสนามบิน ถ้าใครขืนพกระเบิด พกปืนเข้าไป ยังไงก็ต้องโดนพวกหัววัดโลหะ เครื่องเอกซเรย์ ตรวจพบแน่ แต่ถ้าพกอาวุธชีวะเข้าไปสักเพียงกรัมเดียว รับประกันว่าตรวจยังไงก็ไม่เจอ ไม่ว่าจะด้วยหัววัดโลหะ หรือด้วยเครื่องเอกซเรย์วิธีการป้องกันอาวุธชีวะที่ดีที่สุดของประเทศใด ประเทศหนึ่ง ก็คือ รัฐบาลของประเทศนั้นจะต้องทำให้ประเทศของตนเองเป็นกลางให้มากที่สุด
อย่าประมาทศัตรูที่มองไม่เห็น ผู้ก่อการร้ายสมัยนี้มีสมองที่คิดค้นสารชีวะพันธุวิศวกรรมสายพันธุ์ใหม่ สามารถออกแบบเชื้อโรคเพื่อเอาชนะวิธีการรักษาตามแบบทั่วไปได้แล้ว
สังเกตการใช้อาวุธชีวะของผู้ก่อการร้ายสากลในบางประเทศ นิติภูมิคิดว่าเป็นเพียงการตักเตือนเบาๆเท่านั้น เพราะอาวุธชีวะของแท้นั้น มีอานุภาพมากกว่าอาวุธนิวเคลียร์มากมายหลายเท่านัก
เกี่ยว กับ ธรณีพิบัติ 26 ธันวาคม 2547 มีส่วนมาจาก การกระทำของมนุษย์ โดยเฉพาะ การทดลองบางประการ ที่บางคนเรียกว่า อาวุธสิ่งแวดล้อม แน่นอนว่าเป้าหมายพุ่งไปที่ สหรัฐอเมริกา เป้าหมายถัดไปเป็น อินเดีย และ อินโดนีเซีย อาจจะเพราะมีหลากหลาย เหตุบังเอิญ เริ่มตั้งแต่วันนั้นเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่เกิด แผ่นดินไหวในเมืองบัม อิหร่าน (เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 26 ธันวาคม 2546 ที่มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วประมาณ 30,000 คน) โดยเฉพาะการที่ ฐานทัพเรือสหรัฐบริเวณหมู่เกาะดิเอโก การ์เซีย – มหาสมุทรอินเดีย สามารถ เอาตัวรอดไปได้อย่างไร้รอยขีดข่วน เพราะ ได้รับการแจ้งเตือนทันท่วงที หรือล่าสุดที่มีข่าวในทำนองว่าช่วง 3 - 4 วันก่อนเกิดเหตุ มีเสียงระเบิดขึ้นกลางน่านฟ้าอินโดนีเซีย คล้ายเสียงอุกกาบาต ในลักษณะที่ เรดาร์ตรวจจับวัตถุไม่ได้ และ ฯลฯ ที่คนช่างคิดต่างสรรหามาคุยกันตาม สภากาแฟ ทั้งใน โลกจริง และ โลกเสมือนจริง (คือในแทบทุก เว็บบอร์ด)
..มีสิ่งที่แตกต่างจากสึนามิทั่วไป คือมีสัตว์ใต้ทะเลลึกติดมากับคลื่นจำนวนมาก ทั้ง ๆ หลักการไหลของคลื่นก็คือมวลของน้ำบริเวณใกล้ชายฝั่งเท่านั้นที่สาดขึ้นมาบน ฝั่ง จึงคล้ายกับว่าสัตว์เหล่านั้นหนีสนามแม่เหล็กแรงสูงมากกว่าหนีคลื่นแผ่นดิน ไหว.” ข้อความที่ยกมานี้เขาต้องการสนับสนุนหลักคิดที่ว่ามีความเป็นได้ที่จะเป็น การทดลองอาวุธสิ่งแวดล้อม ที่มีการทำงานโดย ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าควบคุมจากระยะไกล ย้อนไปดูเรื่อง SARS, ไข้หวัดนก ก็เช่นกันที่มีบางสมมติฐานมองว่าอาจจะเป็นผลมาจาก อาวุธชีวภาพ, ไวรัสจากห้องทดลอง ที่มุ่ง สะกดเอเชีย, สะกดจีน
ทีนี้มาดู ปฏิบัติการ – ในนามของการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ต่าง ๆ ของ สหรัฐอเมริกา บ้างว่ามี นัยแฝง อย่างไรบ้างหรือไม่
ประการที่ 1 ส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์หนักขึ้นบกที่ อาเจะห์ อินโดนีเซีย การเคลื่อนกำลังดังกล่าวแม้จะกระทำไปในนาม การบรรเทาสาธารณภัย แต่ในอีกมุมมองหนึ่งก็เป็นไปว่าเสมือนเป็น การยกพลขึ้นบกโดยถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์แฝงเร้น ยึดครองอาเจะห์ อันจะทำให้พื้นที่นี้ในอนาคตกลายเป็นแบบ มินดาเนา ฟิลิปปินส์ ในทางปฏิบัติ (de facto) เป็นการเข้ามา คุมช่องแคบมะละกา กำลังทหารที่เคลื่อนย้ายมานี้มาจาก ฐานทัพโอกินาวา ถึง 15,000 คน แต่เข้าไปใน ทั้งหมด หรือ แบ่งแยกมาไว้ที่ประเทศไทยด้วย สาธุชนพึงไตร่ตรอง
ประการที่ 2 เข้ามาใช้ สนามบินอู่ตะเภา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเคยเป็น ฐานทัพในสงครามเวียดนาม ในนามของ ศูนย์กลางการบรรเทาสาธารณภัย ต้องไม่ลืมว่าฐานทัพแห่งนี้มีรัศมีปฏิบัติการทางตะวันตกไปถึง ตะวันออกกลาง ทางตะวันออกไปถึง เวียดนาม ทางเหนือไปถึง ใกล้กรุงปักกิ่ง (ถ้าเป็น B 52 ก็ต้องกล่าวว่า ถึงกรุงปักกิ่ง) ส่วนทางใต้ลงไปถึง อินโดนีเซีย ประเทศไทยจะไม่ถูกมองและถูกจัดเข้าพวกว่าเป็น สมุนจักรพรรดินิยมอเมริกา เหมือนในอดีตหรอกหรือ คุ้มค่า กันแล้วหรือ บอกกล่าวผลดี-ผลเสียแก่ประชาชน แล้วหรือ
ข้อมูลประกอบการพิจารณาในย่อหน้าก่อนนั้นจำเป็นต้องทบทวนความจริงว่าขณะนี้ มี ต่างชาติ คือ สิงคโปร์ เข้ามา ใช้ประโยชน์บนดินแดนประเทศไทย แล้ว 3 จุด คือ จังหวัดกาญจนบุรี, จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดขอนแก่น ถ้านำไปต่อภาพกับ อู่ตะเภา ที่อภิมหาอำนาจหนึ่งในโลกยุคปัจจุบัน เฝ้ามอง, พยายามขอเข้าใช้ประโยชน์ มาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 – 6 ปี ก็เป็นไปได้ที่ นานาอารยประเทศ เขาจะมองว่าประเทศไทย เลือกข้าง แล้ว
เรื่องที่ จังหวัดอุดรธานี นั้นนอกจากพื้นที่ สนามบินอุดรธานี ที่มาในนาม สิงคโปร์ แล้วยังมีที่ อำเภอบ้านดุง ที่มาในนาม สถานีวิทยุเสียงแห่งอเมริกา เป็นที่รู้กันทั่วไปว่ามีการรวบรวมที่ดินประมาณ 8,000 ไร่ ซึ่ง มากเกินมาตรฐานสถานีวิทยุหลายร้อยเท่า แต่เพียงพอที่จะทำ สนามบิน 3 รันเวย์ พร้อมคลังยุทโธปกรณ์ใต้ดินขนาดย่อม ๆ ได้เลย
(ข้อมูลจาก เซี่ยงเส้าหลง)
HAARP 1/2
Ternado