เบอร์โทรศัพท Hot Pot สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว
Tel 029371823
บล็อกเพื่อนบ้าน
-
-
สั่งซื้อสินค้า|สั่งซื้อของจากต่างประเทศ|สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ |รับ ฝาก ซื้อ|ประมูลสินค้า|อีเบย์|shipping|International Shipping|Auction|ebay|BMW|KTM|touratech-usa - *|สั่งซื้อสินค้า|สั่งซื้อของจากต่างประเทศ|สั่งซื้อสินค้าออนไลน์|รับ ฝาก ซื้อ ของ|ฝาก ซื้อ ของจากต่างประเทศ|ประมูลสินค้า|อีเบย์|* *|shipping|International S...11 ปีที่ผ่านมา
-
[rael-science] Mediterranean Diet Protects Against Cardiovascular Disease And Stroke - ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ The Raelian Movement for those who are not afraid of the future : http://www.rael.org ~~...11 ปีที่ผ่านมา
-
Youtube Chanel ช่องรายการทีวี - บทความด้านการเงินการลงทุน http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/TopTen/Top_health.html บทความด้านการเงิน รายงานวิจัย http://www.bot.or.th/Thai/Pages/BOTDe...12 ปีที่ผ่านมา
-
-
Fa La La ft. Boyz II Men Justin Bieber rylics - เพลง Fa La La ft. Boyz II Men ศิลปิน Justin Bieber เนื้อเพลง Fa La La ft. Boyz II Men Justin Bieber is it time, i hear you can give it, give it, give it, ...12 ปีที่ผ่านมา
-
-
-
-
# KonClip.com : ดู ละคร ย้อนหลัง,ช่อง 3, ช่อง 5, ช่อง 9, ช่อง 11, TPBS, TV Online, คลิปผี
เบอร์โทรศัพท Hot Pot สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว
วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 24, 2554เขียนโดย Admin ที่ 6:07:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
เชื้อราเต็มบ้านหลังน้ำลด ...จะกำจัดอย่างไร? ขั้นตอนง่ายๆทำลายเชื้อรา 6 ขั้นตอน
วันเสาร์, พฤศจิกายน 19, 2554
เชื้อราเต็มบ้านหลังน้ำลด ...จะกำจัดอย่างไร? ขั้นตอนง่ายๆทำลายเชื้อรา 6 ขั้นตอน http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R11327649/R11327649.html !!! เชื้อราเต็มบ้านหลังน้ำลด ...จะกำจัดอย่างไรครับ ราแพ้ คลอรีนครับ คนก็แพ้คลอรีนเช่นกัน Mr. Muscle มันมีรุ่นขจัดรา จริงๆมันก็คือ คลอรีน นั่นแหละ แต่ถ้าไม่กล้าเอามาผสมเอง และจุดที่จะเช็ดไม่เยอะมาก ซื้อสำเร็จมาฉีด น่าจะง่ายกว่า http://www.vcharkarn.com/vblog/115186 น้ำลด ราผุด (เรียบเรียง by Nattawut Boonyuen ใน http://www.vcharkarn.com/my/154/blog ) วัสดุที่เปียกที่ถูกน้ำท่วมมักจะมีความชื้นสูงและมีอากาศไม่ถ่ายเท ซึ่งสภาพแวดล้อมดังกล่าวเหมาะต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราบางชนิดได้ ซึ่งบางคนอาจมีความไวต่อการเชื้อราดังกล่าว เมื่อหายใจเอาสปอร์ของเชื้อราเข้าไป อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจได้ โดยเชื้อราอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ต่างๆได้ เช่น เกิดอาการคัดจมูก หอบหืด ไอ หายใจไม่ออก บางคนได้รับสปอร์ของเชื้อราเข้าไปนานๆและปริมาณมาก ก็อาจทำให้เนื้อเยื่อปอดผิดปกติได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยอาจมีความเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวมากที่สุด [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246363.jpg] ภาพประกอบจาก http://www.thaigoodview.com/node/48236 เชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทจุลินทรีย์ จัดเป็นเซลล์ยูคาริโอต อยู่ในอาณาจักรรา เชื้อรามีระบบสืบพันธุ์ที่เรียกว่าสปอร์ทั้งอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ ซึ่งมีทั้งชนิดที่ก่อให้เกิดโรค และชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดโรค เชื้อราที่พบในบ้านหลังน้ำท่วมส่วนใหญ่มักจะพบบนวัสดุที่เปียกชื้นและมีปัจจัยสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโต เช่นเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกน้ำท่วมมีองค์ประกอบของไม้และน้ำตาลเชิงไม่ซับซ้อนอาจเป็นอาหารอย่างดีของเชื้อรา ซึ่งนำไปสู่การเสื่อมสภาพและสร้างความเสียหายต่อ เฟอร์นิเจอร์ ยิ่งไปกว่าน้ำถ้าเป็นราที่ก่อให้เกิดโรคนำไปสู่ผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246362.jpg] ภาพจาก http://teerawatsri.multiply.com/journal/item/472 บ้านและเครื่องเรือนที่ถูกน้ำท่วมอาจสามารถมองเห็นโคโลนีของเชื้อราบนพื้นผิวของวัสดุได้ด้วยตาเปล่า โคโลนีของเชื้อรามักมีมีรอยจุด สีต่างๆ เช่นสีดำ (เป็นสีที่พบมากที่สุด) สีน้ำตาล สีเขียว สีแดง สีเหลือง สีขาว เป็นดวงและมีกลิ่นอับ ๆ นั่นคือสัญญาณบอกให้รู้ว่าเชื้อราได้เข้าโจมตีบ้านและวัสดุที่เปียกเข้าให้แล้ว [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246375.jpg] ภาพจาก http://ldthealthsolutions.com/ldtrxtest/FacilityDesign.aspx สีโคโลนีของเชื้อราดังกล่าวคือกลุ่มสปอร์ขนาดเล็กจำนวนมาก ขึ้นอยู่กับสกุลและสายพันธุ์เชื้อรา มีการรายงานการปนเปื้อนของเชื้อราบางสกุลหรือ จีนัสมักพบกับ วัสดุ เช่น หนังสือ เฟอร์นิเจอร์ที่เปียกชื้น เช่นจีนัส Aspergillus จีนัส Cladosporium จีนัส Chaetomium จีนัส Trichoderma จีนัส Stachybotrys และเชื้อราในสกุล Epicoccum เชื้อราดังกล่าวมักถูกพบอยู่บ่อยครั้ง [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246359.jpg] รูปจาก http://news.mthai.com/general-news/138740.html ขั้นตอนง่ายๆทำลายเชื้อรา 6 ขั้นตอน ดัดแปลงจากคู่มือ “A Brief Guide to Mold, Moisture and Your Home” [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246377.jpg] 1. สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย โดยเฉพาะคนที่มีความไวต่อสปอร์เชื้อรา ควรสวมหน้ากากป้องกัน หรือ เครื่องช่วยหายใจที่รับการจัดอันดับ (N - 95 หรือสูงกว่า) หน้ากากป้องกันบางชนิดอาจมีวาล์วเพื่อให้ง่ายต่อการหายใจ ควรสวมถุงมือ รองเท้าบู๊ทยาง และสวมใส่แว่นป้องกันตา เพื่อป้องกันการสัมผัสทางผิวหนังโดยตรง ในระหว่างการทำความสะอาด [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246360.jpg] ภาพจาก http://www.navy34.com/index.php/khowledge-general-navy34?start=12 2. แยกพื้นที่ทำงานและระบายอากาศ โคโลนีของเชื้อราในระหว่างการทำความสะอาดสามารถปล่อยสปอร์จำนวนมากไปในอากาศได้ ควรเปิดประตู หน้าต่าง ม่าน ให้อากาศถ่ายเทในห้อง ให้มีแดดส่องถึง และไม่ควรใช้ระบบระบายอากาศภายในบ้าน หรือเปิดแอร์ และพัดลมในระหว่างการทำความสะอาดป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อรา [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246361.jpg] ภาพจาก http://www.decorreport.com 3. เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่างๆที่พบเชื้อรา โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากวัสดุที่มีลักษณะเป็นรูพรุนซึ่งไม่สามารถชำระล้างและทำให้แห้งได้ รวมทั้งที่ปูพรม เบาะผ้าและที่นอน ฟูก วอลเปเปอร์ ฝ้าผนัง แผ่นยิปซั่ม ผลิตภัณฑ์ไม้แผ่นฝ้า ไม้เนื้ออ่อน ผลิตภัณฑ์กระดาษ หนังสือและเครื่องเรือนที่เป็นวัสดุที่มีลักษณะเป็นรูพรุน เพื่อลดการแพร่กระจายของสปอร์ราและทำลายแหล่งเพาะเชื้อรา อุปกรณ์ต่างๆ ควรทิ้งใส่ในถุงพลาสติกและมัดอย่างดี กันแพร่กระจายของเชื้อราสู่อากาศ ทั้งนี้โดยให้พิจารณาว่าสิ่งของใดก็ตามและอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องที่ไม่สามารถกำจัดเชื้อราได้หมดหลังจากทำความสะอาดฆ่าเชื้อและไม่สามารถทำให้แห้งได้ ไม่ควรเก็บไว้ อย่าเสียดาย ให้ทิ้งไปให้หมด [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246364.jpg] ภาพจาก http://www.cartoonstock.com/directory/b/bedroom_furniture.asp 4. ทำความสะอาดและการทำลายเชื้อรา ทำความสะอาดโดยการขัดล้างให้เร็วที่สุด ภายใน 24 ถึง 48 ชั่วโมงหลังน้ำท่วมลดลง พวกวัสดุที่ไม่มีลักษณะเป็นรูพรุนรวมทั้ง อุปกรณ์ต่างๆบางประเภทที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ไม่ต้องทิ้ง เช่นพลาสติก คอนกรีต กระจก กระเบื้องเซรามิก โลหะ และไม้เนื้อแข็ง (เชื้อราไม่สามารถเจาะไม้เนื้อแข็งได้) อย่าลืมเปิดประตูและหน้าต่างเพื่อระบายอากาศตามวิธีที่กล่าวมาแล้วข้อ 2 และสวมถุงมือยางทุกครั้ง ถ้ามีพื้นที่ด้านนอก ให้ขยับอุปกรณ์ต่างๆออกมาพึ่งอากาศที่โปร่งโล่ง กลางแจ้ง หรือที่มีแดดส่องถึง ประมาณ สอง ถึงสามวัน ก็ยิ่งดี [Yell][{#emotions_dlg.q3}]***ส่วนการทำลายเชื้อรา เริ่มแรกควรล้างด้วยน้ำและสบู่หรือผงซักฟอกเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกก่อน แล้วตามด้วยการขัดล้างด้วยน้ำยาโซเดียมไฮโปคลอไรด์ 0.5 เปอร์เซนต์ (NaOCl) หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าขาว ที่มีส่วนผสมของ โซเดียมไฮโปคลอไรด์ ที่มีชื่อทางการค้าว่า “ไฮเตอร์” นำน้ำยาซักผ้าขาวชนิดนี้ ผสมกับน้ำ โดยมีอัตราส่วน 3-5 ต่อ 1 เพื่อฆ่าเชื้อราได้ (น้ำยาซักผ้าขาว ชนิดนี้มีส่วนผสมของสารละลาย คลอรอกซ์ โดยทั่วไปจะเรียกว่าคลอรีนน้ำ มีสมบัติในการฟอกจางสี กัดกร่อนอย่างรุนแรง และทำลายจุลินทรีย์ได้ดี นิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อทำความ สะอาด ดังนั้นเวลาใช้ต้องเจือจางก่อน) หรือ หาซื้อผลิตชื่อทางการค้าอื่นๆที่มีสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ผสมอยู่ เราสามารถดูข้างฉลากว่ามีสารเคมีที่สามารถฆ่าเชื้อราได้ สามารถหาซี้อได้ตามท้องตลาด และ ซุปเปอร์มาเกตทั่วไป [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246365.gif] ภาพจาก http://www.chem1.com/CQ/oxyscams.html @ ถ้าเป็นการการขัดผนังปูนหรือพื้นผิวที่หยาบควรขัดด้วยแปรงชนิดแข็ง ถ้าไม่สามารถหาซื้อได้ให้ อาจผสมน้ำยาใช้เองโดยใช้ผงฟอกขาวที่มีใช้อยู่ตามบ้านและตามท้องตลาดผสมกับน้ำ โดยมีอัตราส่วน 1 ต่อ 1 เช่นใช้ ปริมาณ 1 ถ้วยตวงของผงฟอกขาว ผสมกับน้ำ 1 แกลลอน (ประมาณ 3. 8 ลิตร) [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246371.jpg] ภาพจาก http://www.safemoldsolutions.com/basement_mold_removal.php @หากพบเชื้อราขึ้นเป็นจุด ๆดวงๆ บน วอลเปเปอร์ และ ผนัง อาจใช้ เช็ดแอลกอฮอล์ล้างแผล 70 เปอร์เซนต์ ผสม กับ กรดซาลิไซลิก โดยมีอัตราส่วน 5 ต่อ 1 หรือหากพบว่ามีเชื้อราเป็นจำนวนมาก เกินกว่าจะกำจัดไหว ก็ควรเปลี่ยนวอลเปเปอร์และ ผนังเสียใหม่ดีกว่า [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246369.jpg] ภาพจาก http://www.yourblackmoldguide.com/black-mold-pictures/ @หากพบเชื้อราขึ้นบน หนังสือ และ เครื่องเรือนประเภทไม้ อย่าใช้ผ้าชุบน้ำ เช็ด เพราะ น้ำ ทำให้เกิดการสะสมความชื้นอีก และทำให้เกิดเชื้อรามากขึ้น ในการทำความสะอาดผลิตเครื่องเรือนประเภทไม้ อาจใช้ผ้าชุป แอลกอฮอล์ 70 ปอร์เซนต์ หรือ ฟอร์มาลีนเจือจางเช็ด และแล้วปล่อยให้แห้งเอง หากมีเชื้อราขึ้นมากเกินการกำจัด ก็ควรเปลี่ยนไม้ดีกว่าและทิ้งไปเลย ถึงแม้ว่าได้ทาแลกเกอร์เคลือบผิวก็ตาม [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246368.jpg] ภาพจาก http://www.moldbacteriaconsulting.com/mold-on-books.html @หากพบเชื้อราขึ้นบนเครื่องเรือนและอุปกรณ์ประเภทเครื่องหนังให้ใช้น้ำส้มสายชู เช็ดถู หลาย ๆ ครั้ง เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีสภาพเป็นกรดสามารถทำลายเชื้อราได้ หลังจากแห้งแล้วเราสามารถเช็ดทำความสะอาดโดยวิธีอื่นๆเพิ่ม เช่น ใช้น้ำยาทำความสะอาดอีกครั้ง บางกรณีอาจใช้ครีมเช็ดรองเท้ามาเช็ดถูปิดท้าย [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246370.jpg] ภาพจาก http://www.alibaba.com/buyofferdetail/103369457/Buying_Mold_leather_Furniture.html @หากพบเชื้อราขึ้นบนเครื่องเรือนและอุปกรณ์ประเภทที่ทำจาก ผ้า เช่น เสื้อผ้า ปอกหมอน ม่านและเครื่อนนอนต่างๆ ให้ต้มน้ำร้อนเดือดฆ่าเชื้อรา ทั้งนี้สามารถใช้วิธีอื่นๆร่วมด้วยเช่น ใช้น้ำยาซักผ้าขาว ที่มีส่วนผสมของ โซเดียมไฮโปคลอไรด์แช่ไว้ก่อน หากมีเชื้อราขึ้นมากเกินกำจัด ก็ควรเปลี่ยนและทิ้งไปเลย [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246367.jpg] ภาพจาก http://www.moneypit.com/question-and-answer/cleaning-mold-furniture @นอกจากนี้หากพบเชื้อราฝังตัวอย่างแน่นหนาตามเครื่องเรือนประเภทไม้ ผนัง วอลเปเปอร์ ที่ไม่สามารถกำจัดออกได้ โดยการขัดล้าง ทำความสะอาด โดยเฉพาะการฝังซ่อนตัวภายในชั้นวัสดุแทรกภายใน ซึ่งไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ ไม่ควรทาสีกลบทับเพราะไม่สามารถทำลายสปอร์ที่เหลือได้และอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราขึ้นได้ภายหลัง [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246372.jpg] ภาพจาก http://www.inspectapedia.com/sickhouse/Green_Mold_Pictures.htm [http://www.vcharkarn.com/shareimages/smilies/alarm.gif]ข้อควรระวัง ควรศึกษาคู่มือการใช้ยาฆ่าเชื้อราที่ผสมในผลิตสำเร็จรูปบางยี้ห้อโดยให้ปฏิบัติตามป้ายและคำเตือนในการใช้อย่างระมัดระวัง 5. การทำให้แห้ง หลังจากทำความสะอาดและฆ่าเชื้อราในบ้านแล้ว ให้ใช้พัดลมเป่าในบ้านและอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง ยิ่งไปกว่านั้นควรเปิดหน้าต่าง เปิดประตู เพื่อดึงสปอร์ราที่อยู่ในอากาศในบ้านออกไปนอกตัวบ้านหรืออาคารให้มากที่สุด โดยใช้เวลา พึ่งลมประมาณ 1 ชัวโมง หรือ มั่นใจว่า บ้าน และอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องแห้งสนิทแล้ว หากบ้านไหนมีเครื่องลดความชื้นก็อาจใช้ร่วมด่วย บางกรณีอาจเลือกการทำให้แห้งของอุปกรณ์ต่างๆที่มีขนาดเล็กสามารถใช้เครื่องเปล่าผมไฟฟ้าซึ่งเป็นความร้อนแห้ง ช่วยทำให้แห้งไวขึ้น [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246373.jpg] ภาพจาก http://ldthealthsolutions.com/ldtrxtest/FacilityDesign.aspx 6. ตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้ง ภายหลังจากความสะอาดแล้วผ่านไป 2 ถึง 3 วัน แล้ว ให้ มองหาสังเกตการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซึ่งเชื้อราอาจถูกพบและเจริญเติบโตซ้ำได้ ถ้าวัสดุ เครื่องเรือน ดังกล่าวยังไม่แห้งดีพอ ซึ่งมีความชื้นอยู่ ถ้ายังพบเชื้อราอีกให้ทำความสะอาดซ้ำโดยวิธีที่กล่าวด้านบน ข้อ 1-ข้อ 5 โดยเฉพาะบ้านที่ใช้เครื่องปรับอากาศ อาจมีความบกพร่องของเครื่องปรับอากาศ ในการดึงความชื้นออกจากอากาศภายในห้องได้ไม่ดีเท่าที่ควรอาจเป็นสาเหตุหนึ่งในการกลับมาของเชื้อราดังกล่าว ควรเรียกช่างแอร์ทำการแก้ไขโดยด่วน กรณีการตรวจสอบปัจจัยต่างๆโดยละเอียด ถ้ายังพบเชื้อราอีกอาจจะต้องตรวจสอบระบบการระบายอากาศ ระบบแอร์ทั้งหมด ระดับความชื้นภายในอาคารด้วย ระดับอุณหภูมิ และสิ่งแวดล้อมทื่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจต้องมีการนำเครื่องมือเฉพาะทางมาตรวจสอบเชื้อรา [http://www.vcharkarn.com/uploads/246/246374.jpg] ภาพจาก http://ldthealthsolutions.com/ldtrxtest/FacilityDesign.aspx หมายเหตุ การเก็บตัวอย่างเชื้อรามาตรวจสอบด้วยละเอียดเพื่อกรณีระบุว่าเชื้อราดังกล่าวเป็นตัวทำให้เกิดภูมิแพ้ เช่น เชื้อรา แอสเปอร์จิลลัส ฟูมิกาตัส (Aspergillus fumigatus) เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคระบบทางเดินหายใจ สามารถส่งบริการทั้งต่างประเทศและภายในประเทศ ซึ่งในประเทศไทยการระบุชนิดของเชื้อราและการตรวจเชื้อราทางห้องปฏิบัติการ โดยดูรูปลักษณะสัณฐานวิทยาและใช้เทคนิคเชิงโมเลกุลมาช่วยจำแนก สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านราวิทยาโดยตรง เช่น การบริการการจำแนกเชื้อรา ในมหาวิทยาลัยรัฐบางแห่ง สถาบันวิจัยของภาครัฐบางแห่ง หน่วยงานในกำกับของกระทรวงของภาครัฐบางแห่ง เอกสารและข้อมูลอ้างอิง @ ห้องปฏิบัติการราวิทยา หน่วยวิจัยการเทคโนโลยีทรัพยากรชีวภาพ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)http://www.biotec.or.th/mycology/ @อ้างอิงบางส่วนจาก คู่มือ “A Brief Guide to Mold, Moisture and Your Home” ของhttp://www.epa.gov/mold/moldguide.html @อ้างอิงบางส่วนจาก www.epa.gov/mold/pdfs/moldguide.pdf<http://www.epa.gov/mold/pdfs/moldguide.pdf> @อ้างอิงบางส่วนจาก “Mold Removal Guidelines For Your Flooded Home” ของ Louisiana State University Agricultural Center @อ้างอิงบางส่วนจาก http://www.vcharkarn.com/my/154/blog @อ้างอิงบางส่วนจาก http://inspectapedia.com/sickhouse/mold.htm @อ้างอิงบางส่วนจาก www.vcharkarn.com/vcafe/134208<http://www.vcharkarn.com/vcafe/134208> @อ้างอิงบางส่วนจาก www.vcharkarn.com/vcafe/66372<http://www.vcharkarn.com/vcafe/66372> @อ้างอิงบางส่วนจาก www.vcharkarn.com/vblog/114955/1/30<http://www.vcharkarn.com/vblog/114955/1/30>
เขียนโดย Admin ที่ 11:49:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
คู่มือการตรวจสอบและซ่อมแซมอาคารบ้านเรืองหลังน้ำท่วม
คู่มือการตรวจสอบและซ่อมแซมอาคารบ้านเรืองหลังน้ำท่วม ตามเอกสารแนบ แบ่งเป็นหัวข้อ ดังนี้ 1. โครงสร้าง 2. งานสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน และงานจัดสวน 3. ระบบสุขาภิบาล 4. ระบบไฟฟ้า 5. เครื่องกล อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนะวิธีตรวจสอบระบบไฟฟ้า-โครงสร้างอาคาร หลังน้ำลด เพื่อป้องกันความเสียหายของชีวิตและทรัพย์สิน นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยว่า การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและโครงสร้างอาคารหลังจากน้ำลด ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันความเสียหายของชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งการตรวจสอบระบบไฟฟ้า เมื่อกลับเข้าบ้านให้เปิดคัทเอ้าท์ เพื่อให้มีกระแสไฟฟ้าเข้า หากจุดใดในระบบยังเปียกชื้นอยู่คัทเอ้าท์จะตัดไฟ ให้เปลี่ยนฟิวส์แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน เพื่อให้ความชื้นระเหยออกไป และให้ลองเปิดสวิตซ์ไฟฟ้าทีละจุด ตรวจเช็คการทำงานของทุกจุด จากนั้นให้ลองดับไฟทุกจุดในบ้าน ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทั้งหมด แต่เปิดคัทเอ้าท์ทิ้งไว้ แล้วให้ตรวจเช็คมิเตอร์ไฟฟ้าว่าหมุนหรือไม่ หากไม่เคลื่อนไหวแสดงว่าไฟฟ้าในบ้านเป็นปกติ หากมิเตอร์หมุนแสดงว่าอาจเกิดไฟฟ้ารั่วภายในบ้าน ให้ตามช่างไฟมาตรวจเช็ค และหากต้องการป้องกันระบบไฟฟ้าจากภาวะน้ำท่วมในอนาคต ให้ปรับตำแหน่งปลั๊กไฟทั้งหมดภายในบ้านไปอยู่ที่ระดับประมาณ 1.10 เมตรจากพื้นบ้าน หรือแยกวงจรไฟฟ้าออกเป็น 2-3 วงจร เพื่อความสะดวกต่อการควบคุมการเปิด-ปิดและซ่อมแซมบำรุงรักษาวงจรไฟฟ้าในบ้าน ส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วม เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า อย่าเพิ่งเปิดใช้โดยเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ควรนำช่างมาตรวจเช็คให้แน่ใจก่อน ส่วนโครงสร้างอาคาร ที่จมน้ำอยู่เป็นเวลานาน เช่น ฝ้าเพดาน รั้วคอนกรีต ประตู-หน้าต่างที่ทำจากไม้ อาจก่อให้เกิดการบวม หรือเปื่อยยุ่ย หากฝ้าเพดานเปื่อยยุ่ยให้เลาะออกและติดตั้งใหม่ เพื่อป้องกันฝ้าเพดานร่วงหล่นลงมา หากประตู-หน้าต่างไม้ที่เกิดการบวมและบิดตัว ควรปล่อยให้แห้งสนิทก่อน จึงค่อยทาสีใหม่ หากโครงสร้างเป็นเหล็กและเกิดสนิม ให้ใช้กระดาษทรายขัดสนิมออกให้หมดก่อนทาสีใหม่พร้อมยากันสนิม แล้วค่อยทาสีใหม่ ที่มา : tpbs
1. โครงสร้าง
โครงสร้างถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในด้านความปลอดภัย จึงควร
รีบตรวจสอบโดยสังเกตอาการและแนวทางการแก้ไขดังต่อไปนี้
• รั้วบ้านเอียง ถ้าเอียงมากจนออกนอกแนวศูนย์ถ่วง รั้วอาจล้มลงได้
ให้รีบซ่อมแซมกลับมาให้ได้แนวตรงเหมือนเดิม ถ้าถูกน้ำเซาะจน
ฐานรากโผล่หรือเห็นลอยตั้งอยู่บนเสาเข็ม ให้เอาดินถมกลับคืนไปมิฉะนั้น
เสาเข็มอาจหักทำให้รั้วพังลงมาได้ ส่วนรั้วทรุดตัวไม่เท่ากัน ต้องให้
ช่างผู้ชำนาญมาทำการเสริมฐานรากยกกลับขึ้นมาให้อยู่ในระดับเดิม
• อาคารทรุดเอียง จะต้องดีดยกอาคารและเสริมฐานรากโดยต้อง
ปรึกษาวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ
• ฐานรากถูกน้ำเซาะ ถ้าฐานรากถูกน้ำเซาะจนดินที่ห่อหุ้มฐานราก
หายไป เมื่อตรวจดูแล้วพบว่าฐานรากยังตั้งตรงอยู่ในสภาพปกติไม่ทรุด
ไม่แตกร้าว ก็ให้ถมดินกลับคืนไป แต่ถ้าฐานรากเกิดเอียง หรือทรุดตัวลง
หรือแตกร้าว อันนี้คงแก้ไขเองไม่ได้ ต้องให้วิศวกรมาตรวจสอบเพื่อ
แก้ไขซ่อมแซมต่อไป
2. งานสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายในและงานจัดสวนอาคารวางบนดินอาคารยกใต้ถุนสูงเหนือระดับดิน4อาคารที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เมื่อระดับน้ำลดลงแล้วมีข้อแนะนำดังนี้1. ถ้าพื้นอาคารวางบนดิน ใต้พื้นอาคารจะยังคงมีความชื้นสะสมอยู่มากถ้ารอบอาคารน้ำยังลดไม่หมดควรทำคันกั้นน้ำ โดยใช้กระสอบทรายเป็นเขื่อนก็ได้พื้นภายในจะได้แห้งเร็วขึ้น ส่วนช่องว่างที่มีดินโคลนทับถมอยู่ให้ล้างทำความสะอาดก่อนโดยเร็วก่อนโคลนแข็งตัว2. ถ้าอาคารยกใต้ถุนสูงเหนือระดับดิน อย่าให้น้ำขังสะสมใต้ถุนอาคารแก้ไขโดยถ้าใต้ถุนอับทึบระบายอากาศไม่ดีให้ทุบผนังและให้ทำผนังเปิดให้มีการระบายอากาศให้มากที่สุดอาคารทั้ง 2 ประเภทนี้ จะมีส่วนพื้นและผนังอาคารได้รับความเสียหายมากกว่าอาคารที่สูง 2 ชั้นขึ้นไป โดยหลักการคือ ให้อาคารระดับชั้นล่างมีการระบายความชื้นออกให้หมด ถ้าพื้นเสียหายมากก็ให้เอาวัสดุที่ปูไว้สกัดออกก่อน และควรเปิดหน้าต่างทิ้งไว้เพื่อไล่ความชื้นออก และภายในมีการถ่ายเทอากาศห้องน้ำชั้นล่างก็ให้สำรวจตำแหน่งบ่อเกรอะบ่อซึม แก้ไขรอบบริเวณอย่าให้มีน้ำขังต้องให้แห้งและห้องน้ำชั้นล่างควรระงับการใช้งานไว้ก่อน ส่วนความเสียหายของวัสดุต่าง ๆ มีข้อแนะนำ ดังนี้5รั้วบ้านรั้วเหล็ก เป็นสนิมให้ขัดสนิมออกก่อนทาสีใหม่รั้วไม้ ผุ หรือ หัก ให้ถอดเปลี่ยนรั้วคอนกรีตโดยปกติแล้วจะไม่เสียหายเพียงแต่อาจสกปรกให้ล้างทำความสะอาดปล่อยให้แห้งก่อนทาสีใหม่6ประตูเหล็กขึ้นสนิม ต้องขัดสนิมออกเช็ดให้แห้ง ทาสีใหม่ประตูเอียงหรือตกประตูไม้เมื่อแช่น้ำนาน ๆ จะอมน้ำทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น บานพับรับน้ำหนักไม่ไหว ตัววงกบเปื่อยยุ่ย น๊อตหรือตะปูยึดได้ไม่แน่น แก้ไขโดยใช้ลิ่มไม้หรือเหล็กสอดรับน้ำหนักของบานให้ตั้งตรงไว้ก่อน รอจนความชื้นระเหยออกไป น๊อตหรือตะปูก็จะยึดได้แน่นขึ้นสามารถเอาลิ่มออกได้ แต่ถ้าวางกบผุพังก็จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ ถ้าเป็นห้องน้ำจะเปลี่ยนเป็นวงกบและประตู พี.วี.ซี ก็ได้จะได้ไม้เกิดปัญหาขึ้นอีก7ผนังผนังที่เป็นไม้ปล่อยให้แห้งก็เพียงพอ แต่ถ้าผนังบางจุดที่แช่น้ำขึ้นน้ำลงอาจผุได้ ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดปล่อยให้แห้งสนิทก่อนทาสีหรือแลคเกอร์ผนังที่เป็นปูน โดยทั่วไปแล้วจะไม่เสียหาย เมื่อน้ำลดลงแล้วใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดปล่อยให้แห้งสนิทก่อนทาสี การทาสีถ้าให้ได้ผลดีจะต้องทาสีรองพื้นปูนเก่าก่อนทาสีจริงผนังที่เป็นยิบซั่มบอร์ด เมื่อถูกน้ำท่วมยิบซั่มบอร์ดจะเสียหาย เพราะทำด้วยผงปูนยิบซั่มหุ้มด้วยกระดาษ ให้เลาะออกแล้วบุเข้าไปใหม่ซึ่งจะต้องปล่อยให้โครงเคร่าและด้านในผนังแห้งก่อนบุเข้าไปใหม่ มิฉะนั้นความชื้นจะถูกกักอยู่ข้างใน8สีเมื่อเกิดน้ำท่วมขัง สีจะได้รับความเสียหาย หลุดร่อน ขึ้นรา พุพอง ก่อนจะทาใหม่ จะต้องทำความสะอาดหรือลอกสีเดิมออกก่อน เพราะถ้าหากทับไปเลยจะอยู่ได้ไม่นานก็จะเกิดการหลุดร่อนออกมาอีกถ้าพวกเหล็กจะต้องขัดสนิมออกให้หมดก่อนทาสีน้ำมันสีที่เหมาะสมสำหรับทาปูนหรือกระเบื้องแผ่นเรียบหรือยิบซั่มบอร์ด คือสีพลาสติก สีที่เหมาะสมสำหรับทาโลหะหรือไม้คือ สีน้ำมัน9ปาเก้ปาเก้ลอย หลุดร่อน เปิดหน้าต่างประตูให้อากาศถ่ายเทความชื้นออกไปอย่าพึ่งทายูริเทนพื้นปาเก้จนกว่าจะแห้งสนิท ให้เลาะเอาปาเก้ที่บิดงอออกใส่ปาเก้แผ่นใหม่เข้าไปแทน ยึดติดพื้นโดยใช้กาวลาเท็กซ์ ขัดปาเก้ใหม่ให้สูงเสมอกับปาเก้เดิมก่อนทายูริเทน หากจะเลาะปาเก้เก่าออกเปลี่ยนพื้นโดยใช้วัสดุใหม่ขอให้คำนึงถึงน้ำหนักด้วย เช่น การปูกระเบื้องหรือหินอ่อนหรือหินแกรนิต ก่อนทากาวลาเท็กซ์เพื่อติดปาเก้กับพื้น ต้องรอให้คอนกรีตแห้งสนิทก่อนมิเช่นนั้นแล้วปาเก้จะร่อนออกมา10เฟอร์นิเจอร์โต๊ะเตียง เก้าอี้ ตู้โชว์ ตู้เสื้อผ้า การแก้ไขหลังน้ำลด1) พยายามเอาความชื้นออกจากเฟอร์นิเจอร์ให้เร็วที่สุด2) เฟอร์นิเจอร์ที่อมน้ำมาก เช่น โซฟานวม ที่นอน หมอน หากไม่จำเป็นไม่ควรนำกลับมาใช้อีกเพราะตอนน้ำท่วมจะพาเชื้อโรคเข้าไปอยู่ภายใน แม้ตากแดดแห้งแล้วเชื้อโรคอาจยังอยู่ เป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวได้113) เฟอร์นิเจอร์ประเภทติดกับที่ (Built-In) ต้องตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง สายไฟที่ฝังอยู่ในตู้ รูกุญแจ ทำการซ่อมแซมโครงสร้างให้อยู่ในสภาพเดิมหรือใกล้เคียงของเดิม4) เฟอร์นิเจอร์ที่ทำด้วยไม้ไม่ควรนำไปตากแดดให้แห้ง เพราะจะทำให้แตกเสียหายได้ และเมื่อจะทาสีทับลงไปจะต้องรอให้ไม้แห้งสนิทก่อน12พรมพรมถูกน้ำท่วมให้รีบรื้อพรมออกให้หมดโดยเร็วเพื่อไม่ให้พรมเน่าส่งกลิ่นเหม็น แล้วนำพรมไปซักและตากแห้งก่อนนำกลับมาปูใหม่ แต่ ก่อนปูควรจะให้แน่ใจว่าพื้นคอนกรีตแห้งสนิทแล้ว (แต่ทางที่ดี หากรู้ว่า จะถูกน้ำท่วมพรมแน่ควรรื้อพรมออกมาก่อนที่น้ำจะท่วมขึ้นมาถึง การซักและตากอาจจะไม่สะอาดและดีเหมือนเดิม)13ฝ้าเพดานฝ้าเพดานถูกน้ำท่วม ถ้าเป็นยิบซั่มบอร์ดหรือกระดาษอัดคงจะต้องเลาะออกแล้วเปลี่ยนใหม่ เพราะกระดาษจะเปื่อยยุ่ย เมื่อน้ำ ลดแล้วให้ตรวจดูว่าสายไฟฟ้าดวงโคมที่ติดอยู่มีอะไรเสียหายหรือไม่ ต้องซ่อมแซมเปลี่ยนใหม่หรือไม่ มีแมลงหรือสัตว์เลื้อยคลานเข้าไปหลบอยู่ในฝ้าเพดานหรือไม่ ถ้ามีต้องไล่หรือจับออกไปก่อนบุฝ้าใหม่ผ้าม่านเป็นคราบสกปรก ให้ถอดจากราวออกมาซักวอลล์เปเปอร์วอลล์เปเปอร์ลอก ร่อน ให้ลอกออกก่อนเพื่อให้ความชื้นระเหยออกมาได้ เมื่อผนังแห้งจึงให้ช่างมาลอกออกให้หมดก่อนปูใหม่14กระเบื้อง หินอ่อนโดยปกติแล้วจะไม่เสียหาย เพียงขัดทำความสะอาดก็จะกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมหินขัด หินแกรนิตพื้นหินอ่อนและหินขัดอาจต้องใช้เวลาขัดมากหน่อย ถ้าจะให้สวยงามเหมือนเดิมต้องจ้างช่างใช้เครื่องมาขัด15ต้นไม้อย่าพึ่งให้ปุ๋ย ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์หรือปุ๋ยคอก เพราะน้ำท่วมรากต้นไม้อ่อนแอ ต้องใช้เวลาพักฟื้น ขุดหลุมขนาดเล็กลึก 50 ซม.ถึง 1 เมตร ไว้ข้าง ๆ ต้นไม้ เพื่อให้น้ำที่ขังอยู่บริเวณรากไหลลงสู่หลุมที่ขุดไว้ แล้วค่อยดูดหรือตักน้ำออกจากหลุม ทำให้น้ำที่ท่วมรากอยู่ลดลงเร็วยิ่งขึ้น อย่าให้ดินอัดลงไปที่โคนต้นไม้ให้แน่น ควรใช้วิธีดามหรือค้ำยันลำต้นไว้ไม่ให้ล้ม ตัดแต่งกิ่งที่ตาย พรวนดินรอบโคนต้นเพื่อให้รากของพืชหายใจได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้แสงแดดฆ่าเชื้อโรค และเพื่อให้น้ำที่ขังอยู่ระเหยออกได้เร็วขึ้น บำบัดรักษาให้ยาฆ่าแมลง และโรคที่เกิดแก่ต้นไม้ เปลี่ยนต้นไม้ที่ตายหรือไม่เจริญเติบโตสนามหญ้าเมื่อเกิดน้ำ ท่วมขังนานหญ้าจะตายหมด ต้องปูใหม่ ถ้ามีตะกอนดินเหนียวถูกน้ำพัดพามาทับถมที่สนามหญ้าจะต้องปรับพื้นที่ให้ได้ระดับก่อนลงทราย ขี้เป็ดแล้วค่อยปูหญ้าใหม่
ส้วมเหม็น ส้วมเต็ม ราดน้ำไม่ลง ก่อนจะแก้ปัญหานี้เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ส้วมแบบโบราณ ของเราคือส้วมซึม บ่อบำบัดที่ใช้กันมาก็คือบ่อเกรอะบ่อซึม ถ้าสร้าง ในพื้นที่ที่มีน้ำในดินมาก ๆ เช่น กรุงเทพ อยุธยา หรือพื้นที่ใกล้ สระน้ำ แม่น้ำลำคลอง บ่อเกรอะบ่อซึมก็จะทำงานได้ไม่ดีนักอยู่แล้ว เพราะอาศัย การซึมลงดิน ถ้าน้ำในดินมากก็จะซึมได้ไม่ดี ยิ่งถ้าน้ำท่วมแล้วยิ่งไม่ซึมเอา เลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าน้ำลดแล้วหากพอมีเงินอยู่บ้างก็ควรเปลี่ยนเป็นบ่อบำบัด สำเร็จรูป ที่มีขายทั่วไปในท้องตลาด แต่หากยังไม่พร้อมอยากจะทำ อย่างพอเพียงไปก่อน ก็ให้รถสูบส้วมมาสูบดินโคลนทิ้งไปก่อน และ บ่อเกรอะบ่อซึมก็จะใช้งานได้อีกครั้งหนึ่ง 18
4. ระบบไฟฟ้า 4.1 แผงสวิตช์ไฟฟ้า (แผงคัทเอาท์, แผงสวิตช์ตัดตอนอัตโนมัติ) เป็น แผงควบคุมไฟฟ้าภายในบ้านที่ต่อจากมิเตอร์ของการไฟฟ้าฯ 4.1.1 คัทเอาท์ ปัจจุบันใช้น้อยลงมาก ประกอบด้วย ฐานคัทเอาท์ ทำด้วยกระเบื้อง มีสะพานไฟเป็นทองแดงพร้อมคันโยกกระเบื้อง สำหรับยกขึ้นเพื่อตัดและต่อไฟจากการไฟฟ้าฯ หลังสะพานไฟที่มีคันโยก มี ฟิวส์ตะกั่วต่ออยู่เพื่อป้องกันกระแสเกิน บางบ้านอาจมีฟิวส์ลูกถ้วยต่อ อยู่ด้วย ภายหลังน้ำลดให้สำรวจตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านทั้งหมด หากพบว่าอุปกรณ์อยู่ในสภาพแห้งพร้อมใช้งานไม่มีส่วนใดแช่น้ำอยู่ ให้ทดลองยกสะพานไฟของคัทเอาท์ขึ้น ถ้าฟิวส์ไม่ขาดแสดงว่าระบบไฟฟ้าใช้ได้อยู่ ถ้าฟิวส์ขาดต้องตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป ฟิวส์30A 600Vฟิ600V30A 600Vคัทเอาท์ฟิวส์ 30A 600V30A ฟิวส์ลูกถ้วย ฟิวส์ลูกถ้วย ฟิวส์ตะกั่ว 30A 600Vคัทเอาท์ฟิวส์ 600V30A ฟิวส์ลูกถ้วย 22 4.1.2 แผงสวิตช์อัตโนมัติ สังเกตุได้ว่าจะเป็นตู้เหล็ก หรือ ตู้พลาสติกที่ต่อรับไฟฟ้าจากมิเตอร์ของการไฟฟ้าฯ เช่นเดียวกับคัทเอาท์ ปัจจุบันมีใช้มากขึ้นกับบ้านรุ่นใหม่ ๆ และจะแบ่งวงจรไฟฟ้าง่ายๆ เป็นชั้นบนกับชั้นล่างและยังแบ่งออกไปอีกเป็นวงจรปลั๊ก วงจรโคมไฟ วงจรแอร์ วงจรเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งควบคุมด้วยสวิตช์อัตโนมัติของแต่ละวงจรการตรวจสอบ แผงสวิตช์อัตโนมัติ ให้ใช้ดึงคันโยกของสวิตช์อัตโนมัติเมนและย่อยแต่ละตัวลงก่อน แล้วทดลองยกคันโยกของสวิตช์ ตัวเมนขึ้น แล้วค่อยยกคันโยกสวิตช์ย่อยขึ้นทีละตัว ถ้าตัวไหนตกลงมาแสดงว่าวงจรนั้นมีปัญหา หรือเมื่อยกตัวสวิตช์ย่อยขึ้นทำให้ตัวเมน ตกลงมาวงจรย่อยนั้นมีปัญหาที่จะต้องตรวจสอบต่อไป สำหรับตัวสวิตช์ย่อยที่ยกขึ้นแล้วไม่ตกลงมาสามารถใช้งานได้ตามปกติ NLGNหลักสายดินคันโยกแผงสวิตช์อัตโนมัติเส้นไฟ 23 4.2 ปลั๊กและสวิตช์ไฟฟ้าขณะน้ำท่วมไม่มีการใช้งาน ให้ถอดออกมา ทำความสะอาดและทำให้แห้งก่อนต่อกลับที่เดิม ควรมีความรู้ด้านเทคนิค พอสมควรและทดลองใช้งาน ทั้งนี้ก่อนทำต้องดึงคัทเอ้าท์หรือสวิตช์อัตโนมัติลงก่อนแล้วใช้ไขควงสำหรับเช็คไฟฟ้า หรือ เครื่องวัดไฟฟ้า วัดดูก่อนว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมาที่สวิตช์หรือปลั๊กเมื่อทดลอง ใช้งานปลั๊กกับสวิตช์แล้วใช้ไม่ได้ให้เปลี่ยนเป็นจุดๆ ไป สวิตช์ ปลั๊ก 24 4.3 ปลั๊กไฟฟ้าที่น้ำท่วมถึงควรยกตำแหน่งให้สูงขึ้น จะสังเกตจากคราบน้ำท่วม และควรแยกวงจรปลั๊กไฟฟ้าจะสะดวกในการใช้งาน ในอนาคต และควรให้ช่างไฟฟ้าดำเนินการ พื้นชั้น 1.พื้นชั้น 2.คราบน้ำท่วมเดิม จมน้ำใหม่ ย้ายให้สูงขึ้น~~ 25 4.4 การตรวจไฟฟ้ารั่วเบื้องต้น ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทั้งหมด จากนั้นให้สังเกตการหมุนของมิเตอร์ หากมิเตอร์ยังหมุนอยู่แสดงว่ามีไฟรั่ว ให้ปิดคัทเอาท์ลง จากนั้นไปตามช่างของการไฟฟ้าฯ หรือช่างผู้มีความรู้ ด้านไฟฟ้ามาตรวจสอบ อย่าพยายามแก้ไขเอง เนื่องจากอาจถูกไฟดูดเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ สายต่อหลักดิน มิเตอร์ 5(15) ตัวนำประธานระบบสายอากาศ A ปิดการใช้ไฟฟ้าแล้ว มิเตอร์หมุน แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่ว 26 4.5 เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องซักผ้าหรือมอเตอร์ปั้มน้ำ ถ้ายกหนีน้ำท่วมไม่ทันหรือแช่น้ำอยู่ โดยทั่วไปจะ เสียหายจะใช้งานไม่ได้ทันที แม้จะแห้งแล้วก็ตามควรให้ช่างผู้ชำนาญ เป็นผู้ดำเนินการตรวจเช็ค หรือซ่อมเสียก่อน ถึงจะต่อไฟฟ้าใช้งานต่อไป 0123 ตู้เย็น พัดลม เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า 27 4.6 น้ำท่วมทำให้ไฟฟ้าเสียหายมาก แนะนำให้ติดตั้งใหม่ ใช้แผงสวิตช์อัตโนมัติแยกวงจรเป็นชั้นบน ชั้นล่าง และแต่ละชั้นแยกเป็นวงจรโคมไฟ และวงจรปลั๊กไฟฟ้า NLหลักสายดินพื้นชั้น 2.พื้นชั้น 1.GN โคมไฟ สวิตช์ไฟ ปลั๊กไฟฟ้า โคมไฟ สวิตช์ไฟ ปลั๊กไฟฟ้า
5. ระบบเครื่องกล 5.1 เครื่องปรับอากาศ (AIR CONDITIONING) ในปัจจุบัน เครื่องปรับอากาศที่ใช้ตามบ้านโดยทั่วไป เป็นแบบ ระบบแยกส่วนระบายความร้อนด้วยลม (AIR-COOLED SPLIT SYSTEM) ส่วนที่อยู่ภายในอาคารที่เป็นเครื่องส่งลมเย็นเรียกว่า แฟนคอยล์ยูนิต (FAN-COIL UNIT) หรือ คอยล์เย็น ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ค่อยน่าจะได้รับความ เสียหายจากปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากส่วนมากติดตั้งอยู่บนตำแหน่งที่ น้ำท่วมไม่ถึง คอยล์เย็น (FAN-COIL UNIT) ส่วนที่อยู่ภายนอกอาคารเป็นส่วนที่ใช้ระบายความร้อน เรียกว่า คอนเด็นซิ่งยูนิต (CONDENSING UNIT) หรือ คอยล์ร้อน ซึ่งมักเป็น ส่วนที่จะจมน้ำ เพราะส่วนมากติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่น้ำท่วมถึง 29 คอยล์ร้อน (CONDENSING UNIT) การตรวจดูสภาพและแก้ไขปัญหาเบื้องต้นของเครื่องปรับอากาศ จากปัญหาน้ำท่วม การตรวจสอบโดยทั่วไป - ตรวจดูสภาพของฐานที่รองรับคอนเด็นซิ่งยูนิตว่าได้รับความ เสียหายหรือไม่ ภาพแสดงฐานที่รองรับคอนเด็นซิ่งยูนิต ถ้าอยู่ในสภาพที่ใช้งานไม่ได้ ให้ทำการซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ - ตรวจดูว่ามีกระแสไฟเข้าเครื่องหรือไม่ โดยตรวจเช็คจุดต่อ สายไฟภายในระบบ สภาพขั้วสายไฟว่าขันแน่นหนาหรือไม่ ตรวจดู สภาพปลั๊กเสียบว่าแน่นดีหรือไม่ ถ้าเสียหายให้ทำการซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ 30 - ตรวจดูสายไฟฟ้าว่ามีการขาดตอนหรือไม่ ถ้ามีให้ทำการซ่อม สายไฟฟ้าใหม่ - ตรวจวัดความดันของระบบน้ำยาเช็คกำลังอัดของคอมเพรสเซอร์ การทำความสะอาด เมื่อเกิดน้ำท่วม คอนเด็นซิ่งยูนิต ที่จมอยู่ในน้ำ อาจมีคราบสิ่งสกปรก เช่น ขี้ดิน ขี้โคลน ที่มากับน้ำติดเข้าไป อุปกรณ์ของชุดคอนเด็นซิ่งยูนิต เช่น ใบพัดลมระบายความร้อน แผงครีบของคอยล์ร้อน ดังนั้นเราจึงต้อง มีการล้างทำความสะอาด ด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูงและ Blower เป่าให้แห้ง ตรวจดูสภาพของคอนเด็นซิ่งยูนิต ที่ตั้งอยู่ภายนอกอาคาร สำหรับเครื่องปรับอากาศที่คอนเด็นซิ่งยูนิต ติดตั้งอยู่ภายนอกอาคาร และอยู่ในบริเวณที่น้ำท่วมถึง ประสบปัญหาการจมน้ำและแช่น้ำอยู่เป็น เวลานาน จำเป็นที่จะต้องทำการตรวจสภาพเป็นอย่างยิ่ง ว่ายังสามารถ ใช้งานได้อยู่หรือไม่ โดยผู้ที่จะทำการตรวจสภาพจะต้องทำการปิดสวิทซ์ ไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศ ก่อนลงมือทำการตรวจทุกครั้ง เพื่อความ ปลอดภัยของผู้ตรวจ โดยมีสิ่งสำคัญที่จะต้องตรวจดูสำหรับคอนเด็นซิ่งยูนิต ที่จมน้ำ ดังนี้ 31 คอมเพรสเซอร์ในคอนเด็นซิ่งยูนิต เมื่อจมน้ำมอเตอร์อาจจะยังใช้ได้อยู่ ต้องลองทำการตรวจสอบดู สำหรับเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กจะเป็น มอเตอร์กระแสสลับเฟสเดียว ส่วนในขนาดใหญ่มักจะเป็นมอเตอร์ กระแสสลับ 3 เฟส มอเตอร์ สิ่งที่จะต้องตรวจดูคือ การวัดความต้านทานขดลวดภายในมอเตอร์ ต้องวัดได้ค่าตามค่ามาตรฐาน และตรวจเช็คสภาพของส่วนที่อยู่กับที่ หรือ สเตเตอร์ (Stator) และตัวหมุน (Rotor) ว่ามันขึ้นสนิมหรือไม่ สเตเตอร์ (STATOR) โรเตอร์ ( ROTOR ) 32 ตรวจวัดดูความต้านทานของ คาปาซิเตอร์สตาร์ท (Capacitor Start) และคาปาซิเตอร์รัน (Capacitor Run) ว่าเสียหรือไม่ ถ้าเสียก็ให้ทำการ เปลี่ยนใหม่ คาปาซิเตอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญในคอนเด็นซิ่งยูนิตที่สมควรจะต้องเปลี่ยน ใหม่ เนื่องจากไม่น่าจะสามารถใช้งานได้เหมือนเดิมเมื่อจมน้ำ เพื่อความ ปลอดภัยในการใช้เครื่องปรับอากาศต่อไป มีดังนี้ - ชุดป้องกันของมอเตอร์ แมกเนติกคอนแทคเตอร์ (Magnetic Contactor) และ โอเวอร์โหลดรีเลย์ (Over Load Relay) ซึ่งจะทำหน้าที่ ปิด/เปิดวงจรไฟฟ้าให้กับมอเตอร์และป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าไหลเกิน เกณฑ์ แมกเนติกคอนแทคเตอร์ โอเวอร์โหลดรีเลย์ 33 - รีเลย์หน่วงเวลา (Timer Relay) - เคอร์เร้นรีเลย์ (Current Relay) - มอเตอร์ของพัดลมระบายความร้อน โดยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะต้องกระทำโดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อความ ปลอดภัยและความถูกต้องในการปฏิบัติงาน 34 5.2 ลิฟต์ (LIFT) การสำรวจเพื่อที่จะซ่อมแซมระบบลิฟต์หลังจากโดนน้ำท่วม ก่อนที่ จะเข้าทำการสำรวจระบบลิฟต์นั้นจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ที่ จะเข้าทำการสำรวจ โดยช่างผู้ที่ดูแลอาคารหรือผู้ที่มีความรู้ด้านนี้มา ทำการสำรวจอุปกรณ์บริเวณที่ถูกน้ำท่วมเบื้องต้นนั้นจะต้องทำอะไรบ้าง ดังนี้ - ก่อนที่จะเข้าสำรวจจะต้องมั่นใจว่าได้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าที่ จ่ายให้กับระบบลิฟต์เสียก่อนเพื่อความปลอดภัย โดยให้ปิดเบรคเกอร์ เมนที่จ่ายให้กับลิฟต์ที่ห้องเครื่องลิฟต์ หรือตู้เมนห้องเครื่องไฟฟ้า 35 เบรคเกอร์ (BREAKER) - เมื่อมั่นใจแล้วว่าได้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าแล้ว ให้เปิดประตู ชานพักชั้นล่างเพื่อเข้าทำการสำรวจบ่อลิฟต์ ถ้าตู้โดยสารจอดอยู่ชั้นล่าง ถูกน้ำท่วมถึงด้วย ให้ขึ้นไปยังห้องเครื่องลิฟต์เพื่อปลดเบรค เพื่อหมุนให้ ตู้โดยสารเลื่อนขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้สามารถเข้าสำรวจบ่อลิฟต์ได้ ชุดมอเตอร์ขับลิฟต์ 36 - สำรวจดูว่าบ่อลิฟต์ยังมีน้ำขังอยู่อีกหรือไม่ ถ้ามีให้สูบน้ำออกให้ หมด แล้วทำความสะอาดอุปกรณ์ก้นบ่อลิฟต์ให้สะอาด เช่น อุปกรณ์ ลดแรงกระแทก (Buffer), สวิทซ์หยุดลิฟต์ในบ่อลิฟต์ (Limit Switch) , ชุดสลิงควบคุมอัตราเร็วของลิฟต์ (Governor), ไฟฟ้าแสงสว่างภายใน บ่อลิฟต์, ข้อต่อสายไฟต่างๆ แล้วปล่อยให้แห้งรอช่างผู้ชำนาญมา ตรวจสอบให้ละเอียดก่อนการเปิดใช้งานปกติต่อไป บ่อลิฟต์ - ถ้าลิฟต์เป็นชนิดแบบไม่มีห้องเครื่องลิฟต์ ชนิดที่ชุดมอเตอร์ ขับลิฟต์อยู่ในบ่อลิฟต์ ให้ทำความสะอาดอุปกรณ์ทั้งหมดที่โดนน้ำท่วมถึง แล้วปล่อยให้แห้ง รอช่างผู้ชำนาญมาตรวจเช็คให้ละเอียดก่อนการเปิดใช้ งานปกติต่อไป - ให้ตรวจสอบประตูลิฟต์ การเปิด-ปิด ตามร่องประตูว่ามีเศษวัสดุ เข้าไปกีดขวางหรือไม่ ให้ทำความสะอาดให้เรียบร้อย 37 ก่อนการเปิดใช้งานตามปกติ หลังจากทำความสะอาดลิฟต์ที่ โดน น้ำท่วมแล้วจะต้องให้ช่างที่มีความรู้ความชำนาญด้าน นี้ หรือเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เข้ามาตรวจเช็คให้ละเอียดอีก ครั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน 5.3 ปั๊มน้ำ (Water Pump) จากเหตุการณ์น้ำท่วม ปั๊มน้ำที่ใช้ตามอาคารบ้านเรือนหลายเครื่อง ต้องแช่อยู่ในน้ำ เพราะเคลื่อนย้ายไม่ทัน พอน้ำลดก็พบว่าไม่สามารถ ใช้งานได้ดังเดิมอีกแล้ว คงจะเป็นปัญหาหนักอกหนักใจให้กับผู้ประสบภัย น้ำท่วม อีกปัญหาหนึ่ง ความเสียหาย ชำรุด ที่เกิดขึ้นกับปั๊มน้ำหลัง น้ำท่วมนั้น พิจารณาได้จากชนิดของปั๊ม โดยจะจำแนกปั๊มออกเป็น สองประเภทคือ ปั๊มน้ำที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับ และปั๊มน้ำที่มี เครื่องยนต์เป็นตัวขับ ปั๊มน้ำทั้งสองแบบนี้ โดยทั่วไปหากประชาชนทั่วไปจะซ่อมหรือ แก้ไขเอง คงจะเป็นสิ่งที่ยากสักนิด อีกทั้งยังจะอันตรายต่อผู้ซ่อม และ ผู้ใช้งานด้วยหากผู้ซ่อมไม่มีความรู้ความชำนาญพอ จึงควรจะนำส่งให้ ช่างเป็นผู้ซ่อมแซมจะดีกว่า ซึ่งปั๊มน้ำถึงน้ำจะท่วมจนใช้งานไม่ได้ แต่ก็ 38 ยังสามารถซ่อมและนำกลับมาใช้งานใหม่ได้อีก ไม่ถึงขั้นต้องทิ้งไปเสียเลย เพื่อเป็นแนวทางในการส่งซ่อมปั๊มน้ำ จากสาเหตุน้ำท่วมควรจะทราบถึง อุปกรณ์ประกอบในตัวปั๊มน้ำที่จะชำรุดจากเหตุการณ์น้ำท่วมนี้ ดังนี้ - ปั๊มน้ำ มีมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับ อุปกรณ์ที่ได้รับความเสียหายหลักๆ ของปั๊มชนิดนี้ คือ มอเตอร์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ควบคุมการทำงานของปั้ม (ถังแรงดันลม) จะเห็นว่าอุปกรณ์ ทั้งคู่นี้ มีอุปกรณ์ทางไฟฟ้าอิเลคทรอนิกส์ประกอบอยู่ ซึ่งจะเสียหายมาก จากน้ำและฝุ่นตะกอนที่เกาะอุปกรณ์เหล่านี้ จนไม่สามารถใช้งานได้ ควร ได้รับการซ่อมแซมจากช่างเป็นพิเศษ ในส่วนอุปกรณ์อื่นๆของปั้มชนิดนี้ ทางด้านกลไกทางกล หากตรวจสอบแล้วอยู่ในสภาพที่ดี ไม่ผุกร่อน ก็ เพียงแต่ทำความสะอาดคราบตะกัน,ฝุ่นผง และอัดน้ำมันหล่อลื่นลงไปก็ จะพร้อมประกอบใช้งานต่อไป 39 - ปั๊มน้ำที่มีเครื่องยนต์เป็นตัวขับ ปั๊มน้ำชนิดนี้จะมีเครื่องยนต์เป็นตัวขับปั๊มให้ทำงาน ความเสียหาย จากน้ำท่วมจะแยกเป็นสองส่วนคือ ส่วนของเครื่องยนต์ขับปั๊ม อีกส่วน เป็นตัวปั๊ม หากเครื่องยนต์ไม่ทำงานสตาร์ทไม่ติดก็ต้องส่งซ่อมในส่วนนี้ ส่วนตัวปั๊มน้ำคงไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากนักเพียงแต่ตรวจสอบ สภาพและทำความสะอาดและอัดน้ำมันหล่อลื่นลงไป การซ่อมอุปกรณ์ เหล่านี้ควรซ่อมโดยผู้มีความรู้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน 40
เขียนโดย Admin ที่ 11:45:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
คลิป วุ้ดดี้ เกิดมาคุย เก่ง การุณ โหสกุล สส เขต ดอนเมือง วันที่ 20 พ ย 2554
รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย อาทิตย์ที่ 20 พ.ย.นี้ ได้เชิญ นายการุณ โหสกุล ส.ส.เขตดอนเมือง พรรรคเพื่อไทย ร่วมรายการ สัมภาษณ์ในประเด็นร้อนท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วม หลังตกเป็นข่าวทะเลาะกับประชาชนจนปากแตกต้องเย็บถึงห้าเข็ม ทำให้วู้ดดี้ พิีธีกร ต้องขอทำทำสัญญาใจก่อนบันทึกเทป 3 ข้อ คือ 1.จะไม่ต่อยวู้ดดี้ 2.จะไม่ทำร้ายร่างกายวู้ดดี้ 3.จะไม่ควักปืนมายิงวู้ดดี้ และสัญญาว่าทุกคำตอบจะเป็นความจริง เพราะ 10 กว่าคำถามในการสนทนาครั้งนี้ คือคำถามที่มาจากประชาชน ที่ส่งมาถามคนที่ต้องรับใช้ประชาชน
ตอนหนึ่งของบทสนทนา นายการุณ กล่าวว่า
"ที่ผมตัดสินใจมานั่งคุยกับคุณวู้ดดี้ เพราะผมต้องการให้ความจริงปรากฏ ทุกคำตอบในวันนี้จะเป็นความจริง เพราะชีวิตผมเดินตามความจริงเสมอ ไม่ได้มานั่งแก้ตัวหรืออะไร ผมทำงาน ผมรักและเกิดที่ดอนเมือง คนที่นี่มีบุญคุณกับผม ผมกล้าท้า สส.ทั่วประเทศเลยว่าถ้าเรื่องเจอประชาชน ไหว้ประชาชน เก่ง การุณไหว้ประชาชนมากที่สุดในประเทศ เรื่องที่ถูกทำร้ายร่างกายจนปากฉีกเย็บถึง 5 เข็ม มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดและไม่ควรจะเกิดขึ้น เรือล้มผมต้องการเข้าไปช่วยเขาแนะนำตัวกับเขาแต่ไม่มีคำตอบเจอทั้งหมัดทั้งพาย ผมแจ้งความเพราะต้องการให้เขาได้รับบทเรียน และเตือนสติในวันข้างหน้า"
ด้าน วู้ดดี้ยิงคำถามอีกว่า มีคนตั้งประเด็นในเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ว่ามั่นใจว่าคนไทย 1 ล้านคนอยากถีบเก่ง การุณ คุณรู้สึกอย่างไร
ปรากฎว่านายการุณ ตอบว่า "เป็นเรื่องปกติ ผมเชื่อว่ามี เพราะผมทำอะไรผมเป็นคนเอาจริงเอาจัง ในขณะเดียวกัน ผมขอถามกลับบ้างว่า ขอเอ่ยชื่อนะครับ ถ้ามีคนตั้งประเด็นว่าอยากมีคนถีบ คุณอภิสิทธิ์ กับคุณสุเทพ ผมก็เชื่อว่าต้องมี... ชีวิตผมเป็นลูกแม่ค้าส้มตำ ลำบากต่อสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก เห็นน้ำตาแม่มาโดยตลอด ผมจะไม่ทำให้แม่เสียใจ แม่สอนเรื่องความกตัญญูต่อคน
นายการุณ กล่าวว่า เติบโตมาได้เพราะคนดอนเมือง ไม่มีทางจะหักหลังคนดอนเมือง มั่นใจทุกย่างก้าวที่เดินมา และยินดียอมรับการกระทำทุกอย่าง
"ถ้าผมเลวผมคงเลวไปนานแล้วไม่ได้ อย่าตัดสินผมด้วยการกระทำเพียงชั่วครั้งชั่วคราว อยากให้มารู้จักตัวผมจริงๆ เหมือนที่คนดอนเมืองรู้จักผม ไม่ได้ใฝ่ฝันอยากเป็นใหญ่เป็นโต ไม่ได้ยึดติดกับปัจจุบันที่เป็นอยู่ และผมเชื่อว่าไม่มีใครรักคนดอนเมืองเท่าเก่ง การุณ ถ้ามีคนที่ดีกว่าผม ผมยินดีถอยเพื่อคนดอนเมือง "
การสนทนาครั้งนี้ วู้ดดี้ยังสอบถามถึงเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับการรื้อบิ๊กแบ็กจนน้ำท่วมดอนเมืองอีกครั้ง ปัญหาของบริจาคติดชื่อ ฉายาสส. นักเลง และคำถามทำไมคนไทยส่วนใหญ่เกลียดเก่งการุณ ฯลฯ
ทั้งนี้รายการวูดดี้เกิดมาคุยเทปดังกล่าว จะแพร่ภาพออกอากาศทางโมเดรินไนน์ทีวี(ช่อง 9) ในวันอาทิตย์ 20 พ.ย.นี้ เวลา 22.30 น.
ชื่อว่า “รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย” เชื่อได้เลยแขกรับเชิญของรายการนี้ต้องพิเศษสุดจริง ๆ และในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน นี้ก็เช่นกัน เพราะก่อนจะสัมภาษณ์แขกรับเชิญพิเศษ “วู้ดดี้” ถึงกับต้องขอทำสัญญา 3 ข้อว่า “จะไม่ต่อยวู้ดดี้”, “จะไม่ทำร้ายร่างกายวู้ดดี้” และ “จะไม่ควักปืนมายิงวู้ดดี้” พร้อมกับขอให้ตอบความจริงทุกคำ เริ่มต้นก็แรงขนาดนี้แล้ว ไปรู้จักกับแขกรับเชิญคนนี้กันดีกว่า และเขาก็คือนักการเมืองไฟแรงที่เป็นที่รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมืองในยามนี้…เก่ง การุณ โหสกุล
เริ่มต้นการสนทนา เก่ง การุณ ส.ส.ดอนเมือง พรรคเพื่อไทย ยอมเปิดใจว่า ที่ยอมมานั่งให้วู้ดดี้ให้สัมภาษณ์ เพราะต้องการทำความจริงให้ปรากฏถึงข่าวในแง่ลบมากมายที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า ทุกคำตอบเป็นความจริง เนื่องจากที่ผ่านมาเขาดำเนินชีวิตตามความจริงเสมอ และไม่เคยมาตามแก้ตัว
“ผมทำงาน ผมรักและเกิดที่ดอนเมือง คนที่นี่มีบุญคุณกับผม ผมกล้าท้า ส.ส.ทั่วประเทศเลยว่าถ้าเรื่องเจอประชาชน ไหว้ประชาชนเก่ง การุณ ไหว้ประชาชนมากที่สุดในประเทศ” ส.ส.หนุ่มยืนยัน
เก่ง การุณ เล่าว่า ชีวิตของเขาเกิดมาเป็นลูกแม่ค้าส้มตำ ต่อสู้ชีวิตอย่างยากลำบากมาตั้งแต่เด็ก เห็นน้ำตาแม่มาโดยตลอด และที่ผ่านมา แม่จะสอนเน้นเรื่องของความกตัญญู ดังนั้น ในเมื่อเขาเติบโตมาได้เพราะคนดอนเมือง เขาจะไม่มีทางหักหลังคนดอนเมืองเด็ดขาด พร้อมกับยืนยันว่ามั่นใจทุกย่างก้าวที่เดินมา และยินดียอมรับการกระทำทุกอย่าง
แต่ทว่าเพราะข่าวที่ไม่ค่อยดีของ เก่ง การุณ โหสกุล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องทะเลาะวิวาททั้งในสภา และนอกสภาปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ก็ทำให้หลายคนที่ได้รับฟังข่าวรู้สึกไม่ค่อยดีกับเขา กระทั่งชาวเฟซบุ๊กที่แอบหมั่นไส้ ส.ส.ดอนเมืองคนนี้ ได้ร่วมกันก่อตั้งกลุ่ม “มั่นใจว่าคนไทย 1 ล้านคนอยากถีบเก่ง การุณ” เลยทีเดียว ซึ่ง เก่ง การุณ ก็ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะมี เนื่องจากเขาเป็นคนทำอะไรเอาจริงเอาจัง พร้อมกับย้อนกลับว่า ถ้ามีคนตั้งประเด็นว่าอยากมีคนถีบคุณอภิสิทธิ์ กับคุณสุเทพ เขาก็เชื่อว่ามีเหมือนกัน
แล้วกับประเด็นล่าสุดที่มีข่าวว่า เก่ง การุณ ถูกชกจนปากฉีกต้องเย็บถึง 5 เข็มล่ะ ความจริงเป็นเช่นไร เจ้าตัวรีบชี้แจงทันทีว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน โดยวันนั้น เรือของผู้ประสบภัยล่ม เขาจึงเข้าไปแนะนำตัวและเข้าไปช่วย แต่กลับไม่มีคำตอบใด ๆ นอกจากเจอทั้งหมัด และพายปะทะเข้ามา เขาจึงต้องเข้าไปแจ้งความ เพื่อต้องการให้คนกระทำได้รับบทเรียนจะได้เตือนสติในวันข้างหน้าเท่านั้น
“ถ้าผมเลวผมคงเลวไปนานแล้วไม่ได้ อย่าตัดสินผมด้วยการกระทำเพียงชั่วครั้งชั่วคราว อยากให้มารู้จักตัวผมจริง ๆ เหมือนที่คนดอนเมืองรู้จักผม ไม่ได้ใฝ่ฝันอยากเป็นใหญ่เป็นโต ไม่ได้ยึดติดกับปัจจุบันที่เป็นอยู่ และผมเชื่อว่าไม่มีใครรักคนดอนเมืองเท่าเก่ง การุณ ถ้ามีคนที่ดีกว่าผม ผมยินดีถอยเพื่อคนดอนเมือง” เก่ง การุณ กล่าวอย่างมั่นใจ
แค่เริ่มต้นการสนทนาไม่กี่คำถาม ดูท่าว่าอุณหภูมิจะเริ่มร้อนระอุเสียแล้ว แต่หนุ่มวู้ดดี้เกิดมาคุย ก็ยังเตรียมคำถามอีกมากมายเพื่อเจาะลึกความจริงจากปากของ เก่ง การุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรื้อบิ๊กแบ็ก การติดชื่อที่ของบริจาค และทำไมคนไทยส่วนใหญ่ถึงเกลียดเก่ง การุณ โหสกุล มาร่วมกันฟังคำตอบที่รับรองว่าอึ้ง! จากปากของเจ้าตัวเองกันได้ในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา 22.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คลิปที่เกี่ยวข้อง การุณ โหสกุล
เขียนโดย Admin ที่ 9:22:00 ก่อนเที่ยง 1 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: เก่ง การุณ โหสกุล, รื้อ บิ๊กแบ็ก, วุ้ดดี้ เกิดมาคุย, วู้ดดี้, สส ดอนเมือง
ทองใบ คำสี , คำทำนายประเทศไทย 2555 - 2557
วันอังคาร, พฤศจิกายน 15, 2554
คำบอกเล่าถึงภัยพิบัติของเด็กชายปลาบู่ ระลึกชาติ
-------------------------------------------------
บ้านเลขที่ 234/2 หมู่ 1 บ้านตามูล
ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว
จังหวัดจันทบุรี 2 2 1 8 0
สวัสดีครับ ผู้ที่รักผืนแผ่นดินไทย ทุกท่าน
กระผมชื่อนายทอง ใบคำสี เกิดวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2481 อายุ 73 ปี เป็นชาวอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี กระผมมีลูกทั้งหมด 5 คน เป็นผู้หญิง 4 คน ผู้ชาย 1 คน บุตรชายของผมคนเดียวชื่อ “ปลาบู่” ซึ่งได้เสียชีวิตมาแล้ว 37 ปี ตอนเขามีอายุได้ 5 ปี 8 เดือน กับอีก 15 วัน
ก่อนตายบุตรชาย บอกกับผมว่า อีก 15 วันหนูจะตายแล้ว หนูอยากคุยกับพ่อ และให้ผมไปซื้อเทปมาบันทึกเสียงเขา แต่ผมไม่ได้ทำตาม เพราะไม่เชื่อว่าเขาจะตายจริง ๆ
กระผมได้ฟังหลาย ๆ เรื่อง แต่เขียนเพียงบางตอนที่บุตรชายได้เล่าเมื่อ วันที่ 23-25 มิถุนายน พ.ศ.2517 เป็นเวลา 37 ปีมาแล้ว เรื่องสำคัญ ๆ ที่เขาเล่าคือ เรื่องอดีตชาติของเขา และบุคคลสำคัญ ๆ เรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยและโลกในอนาคต เรื่องราวในอนาคตของประเทศไทย เรื่องสงครามโลกครั้งที่ 3 เรื่องดวงอาทิตย์ โลก จักรวาล ธาตุ เหล็กไหล มีความเป็นมาอย่างไร เรื่องขุมทรัพย์ในแผ่นดินที่พระแม่ธรณีเก็บเอาไว้หลาย ๆ แห่ง ฯลฯ
รวมถึงต้องการให้พ่อเป็น"ทูต" หรือ "สื่อ"ให้มีการเตรียมการป้องกันเขื่อนที่จะพังจากแรงแผ่นดินไหว การวางท่อใหญ่ ๆ เพื่อระบายน้ำจากตัวเขื่อนลงทะเลเพราะน้ำเมื่ออยู่ในท่อจะสามารถควบคุมได้ และเรื่องการขุดคลองลัดคอคอดลูกน้ำเต้าเพื่อระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้ ไหลเร็วขึ้น (ปัจจุบันเป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว)
ในเรื่องอดีตชาติของเขา เขาบอกว่า หนูระลึกชาติได้จริง ๆ เป็นปู่ของปู่ทวด เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้มั้ย ตาเป็นทิพย์ หูเป็นทิพย์ หมดทั้งตัวเป็นไพฑูรณ์ เมื่อชาติก่อนโน้นหนูเคยเกิดเป็นพระชื่อ “อชิตะ” ตอนพระพุทธเจ้ายังมีชีวิตได้บอกว่าหนูจะได้เป็น “พระศรีอาริยเมตไตรย” ไง ไม่ต้องมีตำรา ไม่ต้องมีคัมภีร์ก็เทศน์ได้
เคยเกิดเป็นพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตหลายพระองค์จนถึงพระมหากษัตริย์ในสมัย กรุงรัตนโกสินทร์คือ สมเด็จพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธเจ้าหลวง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ตายแล้วเกิดเป็นหนู ตามหาพ่อมาเกิด อยากให้พ่อช่วยเป็นทูตทางวิญญาณบอกให้ท่านทราบ จะได้ป้องกันไว้ก่อนที่เขื่อนจะพังเพราะแรงแผ่นดินไหว "แผ่นดินแยก เขื่อนแตกขาด" เขื่อนกักเก็บน้ำที่จังหวัดตาก (เขื่อนภูมิพล) จะพังเสียก่อนจะแก้ไขไม่ได้ โดยการเอาเหล็กรางรถไฟไปหุ้มให้แข็งแรงเป็นเขื่อนเหล็ก จะได้พังไม่มาก จากหนักจะได้เป็นเบา
"หนูมองเห็นความเสียหาย มีคนตายมากมาย อำเภอสามเงา ตากนครสวรรค์ อโยธยา ปทุมธานี นนทบุรี โรงพยาบาลศิริราช ท่าเรือคลองเตย เครื่องบินโดยสารไอพ่นจมน้ำด้วย"
เขาถามผมว่า " รถไฟลอยฟ้ามันเหาะได้มั้ยพ่อ?" " รถไฟใต้ดินมันมุดน้ำได้มั้ยพ่อ?" (ปี พ.ศ.2517 ยังไม่มีรถไฟลอยฟ้าและรถไฟใต้ดิน) ใต้กรุงเทพฯ- ธนบุรีไม่มีลูกรัง-หิน มีแต่ทรายทับถมโคลนตมอยู่ลึกๆ คนโบราณก่อสร้างเมืองไม่ต้องตอกเสาเข็ม เอาซุงมาทำแพบก จึงทำได้มั่นคงแข็งแรง
แม่น้ำเจ้าพระยาถูกขุดลอกให้ลึก ๆ เป็นอันตรายมาก ๆ เพราะทรายทับถมตมเลนเหลือบางมาก ๆ ทำให้ตมเลนปูดทะลักขึ้นมาในแม่น้ำเจ้าพระยา ตึกรามบ้านช่องสิ่งก่อสร้างที่มีน้ำหนักมาก ๆ จมดินยังไม่พอ เพราะเสาเข็มยังจมยังไม่ถึงดินดาน รถไฟยังวิ่งสะเทือนเขย่าเม็ดทรายที่หุ้มเสาเข็ม ทำให้เสาเข็มทรุดตัว
หนูอยากให้รัฐบาลทำเขื่อนใต้น้ำ ดักทรายเป็นระยะเพื่อให้แม่น้ำเจ้าพระยาตื้นขึ้นเหมือนเดิม เพราะเมื่อขุดแม่น้ำเจ้าพระยาลึก ๆ ก้นแม่น้ำก็จะมีแต่ตมเลนน้ำหนักของสิ่งก่อสร้างริมแม่น้ำจะกดตมเลนในแม่น้ำ ให้ปูดขึ้นมา ทำให้เกิดการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้างริมแม่น้ำ
ตึกรามบ้านช่อง สิ่งก่อสร้างต่างๆ จะพังเพราะแรงแผ่นดินไหว น้ำในตัวเขื่อนที่พังยังไหลมาท่วมซ้ำเติม ทุกข์ยาก ลำบากมาก ๆ การสร้างเขื่อนใหญ่อยู่เหนือพระนคร เป็นอันตราย เพราะแรงแผ่นดินไหวแรงมาก เหมือนเมื่อก่อน ครั้งนาน ๆ โน้น ที่ไดโนเสาร์ตายหมด !!
เขียนถึงตรงนี้เด็กอายุเพียง 5 ขวบ 8 เดือน 15วัน บ่นว่า เขื่อนที่สร้างเสร็จแล้วยังไม่สมบูรณ์ เพราะไม่ได้วางท่อใหญ่ ๆ เพื่อเอาน้ำออกสู่ทะเล ไม่มีท่อปล่อยน้ำออกจากเขื่อน เพราะถ้าระดับน้ำในเขื่อนเต็มขึ้นมา ก็จะมีการปล่อยน้ำออกจากตัวเขื่อน น้ำก็จะท่วมบ้านเรือนที่อยู่ใต้ตัวเขื่อน แต่ถ้ามีการวางท่อใหญ่ ๆ จากตัวเขื่อนลงสู่ทะเลเลย น้ำก็จะระบายลงท่อไปสู่ทะเล ไม่ท่วมบ้านเรือนและแผ่นดินที่อยู่ข้างบน น้ำเมื่ออยู่ในท่อจะสามารถควบคุมได้ และจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ในระยะยาว
ปลาบู่ถามผมว่าอีก 27 ปี พ.ศ.อะไร ? (2544) จะมีเครื่องบินชนตึก อีก 30 ปี พ.ศ.อะไร ? (2547) จะเกิดคลื่นยักษ์คนจะตายกันมาก อีก 35 ปี พ.ศ.อะไร? (2552) จะเกิดแผ่นดินไหวในต่างประเทศ แต่อีก 38 ปี (2555) จะเกิดอาเพศรุนแรง แผ่นดินไหวรุนแรงเกือบทั่วโลก จะโดนทั้งไทย พม่า ฯลฯ กรุงเทพฯจมดินจมน้ำ เขื่อนที่จังหวัดตากก็พัง "ในเวลายามสองในคืนปีใหม่ คนไทยฉลองกันสนุกสนาน เกิดแผ่นดินไหวมีคนตายมากมาย" (ยามสอง คือประมาณเวลา 22.00 –24.00 น.)
กระผมได้ฟังหลาย ๆ เรื่อง แต่เขียนเพียงบางตอน ตามเรื่องที่ปลาบู่เล่าเป็นเวลา 37 ปีมาแล้ว ปัจจุบันนี้กระผมอายุ 73 ปีแล้ว เป็นห่วงประเทศชาติ เชื่อว่าต้องเป็นความจริงตามที่ปลาบู่เล่า เพราะที่ผ่านมาเกิดขึ้นมาหมดแล้ว เหลือแต่ที่ยังไม่ถึง
ปลาบู่บอกว่า พ่อครับที่ดินแปลงนี้ยกให้หนูนะ (ที่สวนศรีมหาโพธิ์ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ได้ปลูกต้นโพธิ์ตามที่ลูกชายขอไว้กว่า 200 ต้น เป็นเวลา 36 ปีแล้ว) และให้ทำถนนให้รอบเหมือนกับสนามหลวง ให้ปลูกต้นโพธิ์ให้ด้วย หากหนูตายไปแล้วพ่อจะรู้เอง.. ให้จำปานของหนูไว้ให้ดี.. หนูจะกลับมาเกิดอีกครั้งเป็นลูกของ...... ตัวโตเท่านี้จะบวชเณร ออกธุดงค์มาช่วยพ่อสร้างวัด “สุทัศน์เทพไพฑูรย์” (สวนศรีมหาโพธิ์) พร้อมกับแม่ใหม่ จะมาทำปาฏิหารย์เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา (ลูกชายบอกว่าต่อไปประเทศไทยจะเป็นตัวอย่างแก่ประเทศอื่น ๆ ต่างประเทศจะมาพึ่งพาประเทศไทย และพระพุทธศาสนาจะเป็นอันดับหนึ่งของโลก ขณะที่ประเทศอื่น ๆ จะเสียหายเพราะภัยพิบัติและการสู้รบจากสงคราม) จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ในปีที่ 40 หลังจากเสียชีวิต (ตรงกับ พ.ศ. 2557)
ที่สวนศรีมหาโพธิ์จะเป็นสถานปฏิบัติธรรมของผู้หญิง และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและคนชรา (ในยุคที่เกิดความทุกข์ยากเพราะภัยพิบัติ) บนเขาลับแล(โครงการจัดตั้งฯ วัดป่าร่มโพธิ์ศรีฯ) จะเป็นวัดที่อยู่ของพระภิกษุและสามเณร จะมีพระองค์หนึ่งมีบุญบารมีมาก จะมาช่วยพ่อสร้างวัด จะมีคนมาถวายให้สร้างโน่นสร้างนี่จนสร้างไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งในปัจจุบันผมได้สร้างรอลูกชายตามที่สัญญาไว้ว่าจะมาหาทั้งสองที่ และได้เฝ้ารอคอยการกลับมาของบุตรชายในชาติใหม่มาเป็นเวลา 37 ปีแล้ว
กระผมขอวิงวอนรัฐบาลและผู้ที่รับผิดชอบช่วยพิจารณาเรื่องการนำรางรถไฟที่ไม่ ใช้แล้วเพราะสับเปลี่ยนเป็นรางใหม่ (ซึ่งปัจจุบันวางกอง ๆ ไว้มากมายตามสถานีรถไฟ) นำไปเสริมตัวเขื่อนภูมิพลที่จังหวัดตาก และเขื่อนเจ้าพระยา ที่จังหวัดชัยนาท เพื่อให้มีความแข็งแรง เพียงพอที่จะรับแรงแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักในการเขียนจดหมายของกระผมในครั้งนี้ และท่านคงทราบดีว่าในปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงในด้านธรณีวิทยาทำให้เกิด แผ่นดินไหวบ่อยครั้ง และสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงทั่วทั้งโลก การป้องกันเตรียมการไว้ก่อน เมื่อเกิดปัญหาจะได้ผ่อนหนักให้เป็นเบา
ขอแสดงความนับถือ
ทองใบ คำสี
*************************************
ป.ล. มีพยานหลักฐานทั้ง พยานบุคคล และสถานที่ (อ.สอยดาว จ.จันทบุรี)
ยินดีต้อนรับท่านที่สนใจทุกเวลา เพื่อเป็นการอุทิศตนให้เป็นประโยชน์ต่อ
เพื่อนมนุษย์ พี่น้องชาวไทย ประเทศชาติ และพระศาสนา ในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่..
บทความที่เกี่ยวข้อง
2012
เขียนโดย Admin ที่ 2:27:00 ก่อนเที่ยง 27 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: 2012, คู่มือเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ พุทธทำนาย พ.ศ. 2555 - 2560, ทองใบ คำสี
ติ๊งโน๊ต ฐิติพงศ์ วโรกร แฟน บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นใคร คือใคร
วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 03, 2554
หลังจากที่มีข่าวว่า บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ดอดควงหนุ่มวัยละอ่อนไปไหนต่อไหนมาพักใหญ่ จนทำให้หลายคนสงสัยว่า หนุ่มน้อยคนนั้นเป็นใคร แล้วเป็นอะไรกับสาวบุ๋ม เพราะเห็นเดินควงคู่กระหนุงกระหนิง ราวกับเป็นหวานใจ ... ทั้งนี้สาวบุ๋มก็ไม่ปล่อยให้ขาเม้าท์สงสัยนาน ในที่สุดก็ได้เฉลยออกมาว่า หนุ่มคนนี้มีชื่อเสียงเรียงนามว่า ติ๊งโน๊ต เป็นแฟนคนใหม่ล่าสุด ที่มีอายุห่างกันตั้ง 13 ปีเชียวแหนะ !!! โว้ว... อยากจะรู้จริง ๆ ว่าหนุ่มน้อยคนนั้นมีดีอะไร ถึงได้ครอบครองหัวใจสาวบุ๋มไปได้ ...
โดยสาวบุ๋มได้เปิดเผยว่า เพิ่งจะเริ่มเรียกหนุ่มติ๊งโน๊ตว่าแฟนเมื่อประมาณ 4 เดือนที่แล้ว พบกันในงานสนามไทยแลนด์เซอร์กิต สามพราน นครปฐม หลายคนอาจจะมองว่าเร็วไป แต่สาวบุ๋มไม่แคร์ บอกว่า บางคนตามจีบมา 7-8 ปี ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ แต่กับหนุ่มคนนี้ ตนมั่นใจ และไม่อยากเสียเวลามาจีบกัน ส่วนความประทับใจที่ตนมีต่อแฟนหนุ่มนั้น ถึงแม้อายุจะห่างกันรอบกว่า แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค หรือมีช่องว่างระหว่างวัยใด ๆ เลย เพราะหนุ่มติ๊งโน๊ต นั้นมีนิสัยที่เป็นผู้ใหญ่มาก มีความรับผิดชอบ และที่สำคัญคอยเทคแคร์สาวบุ๋มแบบเช้าถึงเย็นถึงอีกด้วย อีกทั้งแสดงความจริงใจ ด้วยการพาไปทำความรู้จักกับญาติฝ่ายชายทั้งหมดแล้ว ส่วนสาวบุ๋มก็ได้พาหนุ่มติ๊งโน๊ตไปแนะนำกับลูกสาวสุดเลิฟ อย่างน้อง อันดามัน โดยให้ลูกสาวเรียกแฟนหนุ่มว่า “ป๊า” อีกต่างหาก งานนี้มีข่าวแว่ว ๆ มาว่า ถ้าคุณพ่อของสาวบุ๋มไฟเขียว อาจจะมีวิวาห์รอบสอง ว้าว…!
สำหรับงานถ่ายแบบเซ็กซี่ของสาวบุ๋มนั้น เธอก็ควงหนุ่มติ๊งโน๊ตไปนั่งข้างกอง เพื่อให้เข้าใจและรู้จักระบบการทำงานของตน จะได้ไม่เป็นปัญหาภายหลัง โดยหนุ่มติ๊งโน๊ตก็แอบมีหึง ๆ หวง ๆ บ้างในฐานะแฟนกัน แต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่างานของสาวบุ๋มนั้นสำคัญที่สุด
โดยสาวบุ๋มได้เปิดเผยว่า เพิ่งจะเริ่มเรียกหนุ่มติ๊งโน๊ตว่าแฟนเมื่อประมาณ 4 เดือนที่แล้ว พบกันในงานสนามไทยแลนด์เซอร์กิต สามพราน นครปฐม หลายคนอาจจะมองว่าเร็วไป แต่สาวบุ๋มไม่แคร์ บอกว่า บางคนตามจีบมา 7-8 ปี ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ แต่กับหนุ่มคนนี้ ตนมั่นใจ และไม่อยากเสียเวลามาจีบกัน ส่วนความประทับใจที่ตนมีต่อแฟนหนุ่มนั้น ถึงแม้อายุจะห่างกันรอบกว่า แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค หรือมีช่องว่างระหว่างวัยใด ๆ เลย เพราะหนุ่มติ๊งโน๊ต นั้นมีนิสัยที่เป็นผู้ใหญ่มาก มีความรับผิดชอบ และที่สำคัญคอยเทคแคร์สาวบุ๋มแบบเช้าถึงเย็นถึงอีกด้วย อีกทั้งแสดงความจริงใจ ด้วยการพาไปทำความรู้จักกับญาติฝ่ายชายทั้งหมดแล้ว ส่วนสาวบุ๋มก็ได้พาหนุ่มติ๊งโน๊ตไปแนะนำกับลูกสาวสุดเลิฟ อย่างน้อง อันดามัน โดยให้ลูกสาวเรียกแฟนหนุ่มว่า “ป๊า” อีกต่างหาก งานนี้มีข่าวแว่ว ๆ มาว่า ถ้าคุณพ่อของสาวบุ๋มไฟเขียว อาจจะมีวิวาห์รอบสอง ว้าว…!
สำหรับงานถ่ายแบบเซ็กซี่ของสาวบุ๋มนั้น เธอก็ควงหนุ่มติ๊งโน๊ตไปนั่งข้างกอง เพื่อให้เข้าใจและรู้จักระบบการทำงานของตน จะได้ไม่เป็นปัญหาภายหลัง โดยหนุ่มติ๊งโน๊ตก็แอบมีหึง ๆ หวง ๆ บ้างในฐานะแฟนกัน แต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่างานของสาวบุ๋มนั้นสำคัญที่สุด
ติ๊งโน๊ต ฐิติพงศ์ วโรกร
ติ๊งโน๊ต ฐิติพงศ์ วโรกร
ขณะที่ขาเม้าท์ทั้งหลายเมื่อได้เห็นหน้าค่าตาแฟนหนุ่มป้ายแดงของสาวบุ๋มแล้ว ถึงกับอึ้ง! เพราะนอกจากวัยจะละอ่อนแล้ว ยังหน้าตาธรรมด๊า ธรรมดา ไม่สมกับสาวบุ๋มที่มีดีกรีถึงนางสาวไทย งานนี้สาวบุ๋มได้กล่าวสั้น ๆ ว่า เห็นหน้าติ๊งโน๊ต อย่างนี้ แต่สาวกรี๊ดนะจะบอกให้ พร้อมกล่าวว่า คนจะคบกันคบกันที่นิสัยและจิตใจมากกว่า อีกทั้งมีแฟนเด็กยังทำให้สาวบุ๋มกระชุ่มกระชวยอีกต่างหาก
ติ๊งโน๊ต ฐิติพงศ์ วโรกร
ติ๊งโน๊ต ฐิติพงศ์ วโรกร
สำหรับหนุ่มติ๊งโน๊ต ฐิติพงศ์ วโรกร เป็นผู้คร่ำวอดในวงการแข่งขันมอเตอร์ไซต์ มีดีกรีเป็นแชมป์ประเทศไทยรุ่น 250 ซีซีด้วยวัยเพียง 22 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ หนุ่มติ๊งโน๊ตยังได้กวาดแชมป์ในเวทีอื่น ๆ มานักต่อนัก ซึ่งเป็นที่กล่าวขานกันว่า หนุ่มติ๊งโน๊ตจะเป็นหนุ่มนักบิดดาวรุ่งคนใหม่ที่น่าจับตามองในวงการนี้เลยทีเดียว
เอ้า....เห็นคนมีความรัก กระปุกดอทคอมก็พลอยมีความสุขไปด้วย...ยังไงก็ขออวยพรให้ทั้งคู่รักกันนาน ๆ นะจ๊ะ
ม่ายสาวทรงเครื่อง บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ควงแฟนรุ่นน้อง ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร เปิดตัว! ฟุ้งแม้อายุห่าง 13 ปี ก็ไม่มีปัญหา รับคือ คนที่ใช่ ลุ้นพ่อไฟเขียวให้ แต่งงานรอบ 2 ไม่ปฏิเสธ เข้าชมรมคนกินเด็ก พร้อมปัดย่องจดทะเบียนสมรสแล้ว ด้าน ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ ดีใจ บุ๋ม ปนัดดา เรียกแฟนเต็มปาก เตรียมเร่งทำคะแนนให้พ่อฝ่ายหญิงยอม ใจอ่อนยกลูกสาวให้ สักที
บุ๋ม ปนัดดา ควงแฟนเด็ก ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ เปิดตัวในงาน วันรณรงค์ป้องกันเด็กจมน้ำ ที่สวนสัตว์ดุสิต พร้อมลุ้นพ่อใจอ่อนให้แต่งงานรอบสอง
บุ๋ม - ''วันนี้ไม่ได้เปิดตัวอะไรทั้งสิ้น เขาแอบอยู่หลังเวที พี่มาเปิดสระว่ายน้ำ (หัวเราะ) (ประทับใจเขาตรงไหน?) หลายๆ อย่าง เราชอบอะไรเหมือนกันเยอะมาก เขาเข้าใจตัวเรา ดูแลเราตลอด บุ๋มเชื่อว่าการที่เราจะคบกับใคร เราคบกันที่ใจว่าดีไม่ดียังไง แม้ว่าสังคมจะพูดว่าทำไมคบกับเด็ก จริงๆ เขาไม่ได้มาคบกับเรา เขาไม่รู้หรอกว่าบางทีคนสองคนคุยกันเองรู้ดีที่สุดว่าใช่หรือไม่ใช่ (คนนี้ใช่หรือยัง?) พยักหน้า''
ติ๊งโน้ต - ''วันนี้ผมเป็นคนขับรถครับ เพราะว่าเขางานเยอะเลยอาสาขับรถมาให้ (เรียกแฟนได้ยัง?)แล้วแต่คุณบุ๋มครับผม (ตอนแรกรู้มั้ยว่าเขาเป็นนางงาม?) ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นนางสาวไทย เห็นว่าเขาเป็นดาราคนนึง แต่พอเริ่มสนิทกันถึงรู้ว่าเขาเป็นนางสาวไทย (จีบยากมั้ย?) ก็ยากเหมือนกัน อย่างตอนขอเบอร์ก็มีอะไรนิดนึงกว่าจะได้เบอร์มา''
บุ๋ม - (ดูจริงจังกับความรักครั้งนี้?) พี่ยังเชื่อว่าความรักเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีพลัง ณ ตอนนั้นยังไม่เจอคนที่ใช่ ก็เลยบอกว่าที่เห็นเป็นข่าวยังไม่ใช่ ถ้าตอนไหนบอกว่าคนนี้คือแฟน ก็คือแฟน พี่ไม่ปิดบัง (เข้าชมรมคนรักเด็กไปแล้ว?) ตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่ใช่เหรอที่พี่โดนข้อหาแบบนี้ ก็ไม่เป็นไร ขอให้เป็นเด็กที่เขามีใจที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่งี่เง่าและเขารักเราจริง พี่ขอแค่นี้แหละ สบายใจแล้ว (มีข่าวว่าเตรียมจดทะเบียนสมรสแล้ว?) พี่ยังไม่ได้จด ที่ผ่านมาก็ไม่ได้จด กับคนนี้เดี๋ยวค่อยคุยกัน ให้เขาขอพ่อให้ได้ก่อน แต่มีคุยไว้ แต่พ่อยังไม่ยอม คราวที่แล้วพ่อบอกว่าพลาดไปหน่อย คราวนี้เลยหวงไง แล้วแต่ทางนี้จะสู้ยังไง''
ติ๊งโน้ต - ''จะโดนยิงหรือเปล่า ยังไม่รู้เลย (หัวเราะ) ดูๆ กันก่อน เพราะทางคุณพ่อเขายังโหดอยู่ แต่คงต้องสู้ต่อครับ''
บุ๋ม - ''ตอนนี้ก็คบกันมาประมาณ 4 เดือนแล้ว เรียกแฟนได้แล้ว ถามว่าเร็วไปหรือเปล่า ก็เร็ว บางทีจีบมา 7 ปี 3 ปี บุ๋มไม่เล่นด้วย มันไม่ใช่คือไม่ใช่ บทมันใช่ก็คือใช่ บุ๋มเป็นคนตรงๆ อย่างนี้ และไม่อยากเสียเวลา เพราะตัวเองก็งานเยอะอยู่แล้ว ก็เลยคบเลย (ห่างกันกี่ปี?) 13 ปี รอบกว่าค่ะ (หัวเราะ)''
เขียนโดย Admin ที่ 7:59:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: ติ๊งโน๊ต ฐิติพงศ์ วโรกร, ปนัดดา วงศ์ผู้ดี, แฟนบุ๋ม ปนัดดา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)