บล็อกเพื่อนบ้าน
-
-
สั่งซื้อสินค้า|สั่งซื้อของจากต่างประเทศ|สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ |รับ ฝาก ซื้อ|ประมูลสินค้า|อีเบย์|shipping|International Shipping|Auction|ebay|BMW|KTM|touratech-usa - *|สั่งซื้อสินค้า|สั่งซื้อของจากต่างประเทศ|สั่งซื้อสินค้าออนไลน์|รับ ฝาก ซื้อ ของ|ฝาก ซื้อ ของจากต่างประเทศ|ประมูลสินค้า|อีเบย์|* *|shipping|International S...11 ปีที่ผ่านมา
-
[rael-science] Mediterranean Diet Protects Against Cardiovascular Disease And Stroke - ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ The Raelian Movement for those who are not afraid of the future : http://www.rael.org ~~...11 ปีที่ผ่านมา
-
Youtube Chanel ช่องรายการทีวี - บทความด้านการเงินการลงทุน http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/TopTen/Top_health.html บทความด้านการเงิน รายงานวิจัย http://www.bot.or.th/Thai/Pages/BOTDe...12 ปีที่ผ่านมา
-
-
Fa La La ft. Boyz II Men Justin Bieber rylics - เพลง Fa La La ft. Boyz II Men ศิลปิน Justin Bieber เนื้อเพลง Fa La La ft. Boyz II Men Justin Bieber is it time, i hear you can give it, give it, give it, ...12 ปีที่ผ่านมา
-
-
-
-
# KonClip.com : ดู ละคร ย้อนหลัง,ช่อง 3, ช่อง 5, ช่อง 9, ช่อง 11, TPBS, TV Online, คลิปผี
Rael ราเอล เอโลฮิม สาส์นจากมนุษย์ต่างดาว เกี่ยวกับโลกใหม่ พระคัมภีร์ พุทธ คริสต์ อิสลาม ศาสนจักร ศาสนาต่างๆ ที่มา จุดกำเนิดโลก ที่แท้จริง มนุษย์มาจากไหน
วันศุกร์, พฤษภาคม 27, 2554ความจริง!! แห่งปมปริศนาและเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังคัมภีร์ BIBLE
ความจริง!! แห่งกำเนิดมนุษย์ กำเนิดอาดัมและอีฟ
ความจริง!! แห่งพระเจ้าและกิเลสตัณหาของพระเจ้า
ความจริง!! แห่งชนชาติยิวแห่งอิสราเอล และที่มาแห่งความฉลาด
ความจริง!! แห่งเรือโนอาห์และน้ำท่วมโลก
ความจริง!! แห่งอายุขัยของมนุษย์ และที่มาแห่งความโบราณของมนุษย์
ความจริง!! แห่งวิทยาศาสตร์ที่จะทำให้มนุษยชาติก้าวหน้าและเป็นอมตะ
ทุกคนรู้ว่าดวงอาทิตย์แผ่นดินเปิดรอบ วันนี้ทุกคนรู้ว่าชีวิตอยู่ในแผ่นดินเป็นทั้งการสุ่มวิวัฒนาการหรืองานของอภินิหารพระเจ้า หรือมันได้หรือไม่ใน"สารจากออกแบบ"เรเอลเสนอกับเราสามตัวเลือก : ที่ทุกชีวิตในแผ่นดินถูกสร้างโดยนักวิทยาศาสตร์สูงจากอื่นโลก ระหว่างการจานบินพบใน 1973 เขาได้ให้แรกของชุดของข้อความตัวต่อตัวโดยหนึ่งเหล่านี้ออกแบบและบรรดาผู้กล่าวเท็จเดี๋ยวนี้ข้อความภายในหน้าของหนังสือเล่มนี้ -- อิงค์การประทานลงมาสำหรับมนุษย์
Rael สาส์นจากมนุษย์ต่างดาว เกี่ยวกับโลกใหม่ พระคัมภีร์ ศาสนาคริส ศาสนจักร ศาสนาต่างๆ ที่มา จุดกำเนิดโลก ที่แท้จริง มนุษย์มาจากไหน
ไขความลับแห่งจักรวาล จุดกำเนิดที่แท้จริงของมนุษยชาิติ มนุษย์ต่างดาวหรือพระเจ้า ผู้สร้างโลกและแผ่นดินสวรรค์ ดาวน์โหลดที่นี่ E-Book
'เอาล่ะ เห็นจะต้องจากกันแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้เวลาเดียวกัน
ให้กลับมาใหม่ พร้อมด้วยคัมภีร์ไบเบิ้ล อย่าลืมเอาเครื่องไม้เครื่องมือ
มาจดโน้ตด้วย อย่าได้นำวัตถุที่เป็นโลหะติดตัวมาและอย่าเล่าให้ใครฟัง
ถึงการพบปะในวันนี้ มิฉะนั้นเราจะไม่ได้พบกันอีกเลย'
เขาเอาเสื้อโคทมาคืน แล้วพาผมลงบันไดเล็กๆ เมื่อสวมเสื้อโค้ทแล้วผมก็จับมืออำลา
บันไดม้วนกลับขึ้นไป และประตูได้ปิดลงโดยปราศจากเสียงแม้แต่น้อย
จากนั้นจานบินก็ค่อยๆ ลอยสูงขึ้นไปจนถึงระดับประมาณ 400 เมตร
แล้วก็ลับสายตาไปในกลุ่มเมฆหมอก
- - - - - - - - [[ บทที่ 2 ]] - - - - - - - -
- - - - - [ ความจริง ] - - - - -
วันรุ่งขึ้น ผมไปตามนัดหมายพร้อมด้วยสมุดจก ปากกา
และไบเบิ้ล ยานอวกาศมาปรากฏตัวตามเวลา
ชายตัวเล็กเชิญผมเข้าไปนั่งที่เก้าอี้อันแสนสบายตัวนั้นอีก
ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องการพบปะให้ใครฟังเลย
แม้แต่คนที่สนิทที่สุด มนุษย์ต่างดาวพอใจกับความ
ระมัดระวังของผม เขาแนะให้ผมลงมือจด และเริ่มพูด
"กาลนานมาแล้ว บนดวงดาวที่ใกลโพ้น พวกเรา
ได้บรรลุผลถึงระดับวิทยาการและเทคโนโลยี
ที่พวกคุณกำลังก้าวไปถึงในไม่ช้านี้ นักวิทยาศาสตร์
ของเราเริ่มสร้างสิ่งมีชีวิตขั้นต้น นั่นคือ เซลล์ที่มีชีวิต
ในหลอดทดลอง ทุกคนตื่นเต้นมาก พวกเขาได้ปรับปรุงเทคนิคจนสมบูรณ์
และในที่สุดได้สร้างสัตว์ประหลาด
เล็กๆ ขึ้น แต่เสียงประชามติและรัฐบาลได้ยับยั้งการ
ทดลองของนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ เพราะเกรงกลัวว่าจะมีการสร้าง
สัตว์ประหลาดที่เป็นอันตรายต่อสังคม ความจริง
สัตว์ประหลาดที่สร้างขึ้นตัวหนึ่งเคยหนีออกมา และกว่าจะจับได้ก็ทำให้มี
ผู้เสียชีวิตหลายราย ในขณะเดียวกัน การสำรวจดวงดาวและกาแล็กซี่
ก็รุดหน้าไปเช่นกันพวกนักวิทยาศาสตร์จึงตัดสินใจไปหาดวงดาวที่ห่างใกล
ซึ่งประกอบด้วยสภาพแวดล้อมพอที่พวกเขาจะดำรงชีวิตได้เพื่อดำเนินการ
ทดลองต่อไป และพวกเขาได้เลือกโลกที่พวกคุณอยู่นี่เอง
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงให้คุณเอาไบเบิ้ลมาด้วย และคุณจะได้เห็น
ร่องรอยของความเท็จจริง แม้ว่าจะมีการคลาดเคลื่อนไปบ้าง
เนื่องจากผู้บันทึกยังขาดความรู้ทางเทคนิค
จึงพรรณาปรากฏการณ์ต่างๆ เป็นไปในลักษณะลึกลับ
และเหนือธรรมชาติ
ในไบเบิ้ล เฉพาะส่วนที่ผมจะเล่าให้ฟังเท่านั้น
ที่มีความสำคัญ ส่วนอื่นๆ ซึ่งเป็นกาพย์กลอนเสียส่วนใหญ่
เราจะไม่พูดถึง อย่างไรก็ตามจากกฏที่ว่าจากการลอกไบเบิ้ล
ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้แต่เครื่องหมายวรรคตอนเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ความหมายดั้งเดิมจึงได้รับการสงวนไว้
แม้ว่าข้อความซึ่งสะสมมาเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปีจะเต็มไปด้วย
ความลึกลับและประโยคที่ไร้สาระก็ตาม
เอาละ ลองเปิดบทที่ 1 ของ Genesis ดู
"เมื่อเดิม เอโลฮิมได้นฤมิตสร้างฟ้าและดิน"
(Genesis 1:1)
>>ในไบเบิ้ลบางฉบับ แปล เอโลฮิม (Elohim)
ว่าเป็น "พระเจ้า" ซึ่งไม่ถูกต้อง แท้ที่จริงคำว่า
เอโลฮิมในภาษาฮิบรู มีความหมายว่า "ผู้มาจากท้องฟ้า"
และเป็นพหูพจน์ ในที่นี่หมายถึงพวกนักวิทยาศาสตร์ที่มาจากโลกของเราเพื่อสำรวจหา
ดวงดาวที่เหมาะสมกับการทดลองของตน พวกเขาได้ "สร้าง" ซึ่งแท้ที่จริงคือ
การค้นพบโลกและพบว่า แม้ว่าบรรยากาศจะไม่ค่อยเหมือนกับโลกของตน แต่ก็มีองค์ประกอบต่อการสร้างชีวิตเทียมอยู่ครบถ้วน
"และพระวิญญาณของเอโลฮิมได้ปกคลุมอยู่เหนือน้ำนั้น"
(Genesis 1:2)
>>พวกนักวิทยาศาสตร์ได้ลงมือสำรวจ และได้จัดวางดาวเทียมไว้รอบโลก
เพื่อตรวจสอบองค์ประกอบกับ
บรรยากาศในตอนนั้น โลกถูกปกคลุมด้วยน้ำและหมอกทึบ
"เอโลฮิมทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี"
(Genesis 1:4)
>>การที่จะสร้างชีวิตบนโลก จำเป็นต้องตรวจสอบให้รู้ว่า
แสงอาทิตย์เป็นพิษเป็นภัยต่อพื้นผิวโลกหรือไม่
ปรากฏว่าดวงอาทิตย์ให้ความอบอุ่นแก่โลกอย่างเหมาะสม
และไม่แผ่รังสีที่เป็นอันตราย "ความสว่างนั้นดี"
"มีเวลาเย็น และ เวลาเช้า เป็นวันหนึ่ง"
(Genesis 1:5)
>>การสำรวจนี้กินเวลายาวนานมาก "วันหนึ่ง"
ในที่นี้หมายถึง ช่วงระยะเวลาที่ดวงอาทิตย์ของพวกคุณ
ขึ้นในราศีเดียวกัน ในวันที่กลางวันกับกลางคืนเท่ากัน
ในฤดูใบไม้ผลิ หรือ ประมาณ 2,000 ปี
"แล้วได้แยกน้ำที่อยู่ใต้พื้นอากาศออกจากน้ำที่อยู่เหนือพื้นอากาศนั้น"
(Genesis 1:7)
>>หลังจากได้ตรวจสอบแสงคอสมิกเหนือเมฆแล้ว
พวกนักวิทยาศาสตร์ได้ลงไปใต้เมฆ แต่ยังอยู่เหนือน้ำ
กับน้ำส่วนล่างหรือมหาสมุทรที่ครอบคลุมโลกทั้งหมด
"ได้ให้น้ำที่อยู่ใต้ฟ้านั้นรวบรวมเข้าแห่งเดียวกัน ให้ที่แห้งปรากฏขึ้น"
(Genesis 1:9)
>>หลังจากสำรวจพื้นผิวมหาสมุทรแล้ว พวกเขาก็สำรวจ
ก้นสมุทร และรู้ว่าไม่ค่อยลึกเท่าไหร่ อีกทั้งอยู่ในระดับ
ใกล้เคียงกัน ต่อจากนั้นได้ใช้ระเบิดขนาดแรงมาก
ซึ่งทำหน้าที่คล้ายแทรกเตอร์กว้านเอาสสารจากท้องสมุทร
ขึ้นมากองรวมกันกลายเป็นพื้นดินหรือพื้นทวีป
ฉะนั้นเดิมทีโลกมีเพียงทวีปเดียว นักวิทยาศาสตร์ของ
พวกคุณก็ได้ตระหนักดีว่าทวีปทั้งหมดต่างแยกมาจาก
พื้นดินแผ่นเดียวกัน และสามารถประกบกันเป็น
ผืนใหญ่ได้อย่างเหมาะเจาะ
ท่าลี่ 2010-11-01 16:04
"ให้ต้นหญ้าต้นผักที่มีเมล็ดและต้นไม้ที่มีผล ที่มีเมล็ดในผลตามชนิดของมันงอกขึ้นในแผ่นดิน"
(Genesis 1:11)
>>บนสถานทดลองอันยิ่งใหญ่มโหฬารนี้ พวกนักวิทยาศาสตร์ได้สร้างเซลล์พืชโดยใช้เคมีเท่านั้น
และได้พืชพันธุ์หลากหลายชนิดทีเดียว พวกเขาได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมด
ให้กับเป้าหมายที่สำคัญอันหนึ่งคือ การสืบพันธุ์ ใบหญ้าที่พวกเขาสร้างขึ้น
จำต้องแพร่พันธุ์ได้ด้วยตัวมันเอง พวกนักวิทยาศาสตร์ได้จัดกลุ่มแยกกระจาย
ไปทั่วทวีปอันมหึมา และต่างก็ได้สร้างพืชพันธุ์ชนิดต่างๆ ขึ้นตามจินตนาการ
และสภาพภูมิอากาศ พวกเขาได้นัดพบกันเป็นประจำเพื่อเปรียบเทียบ
การค้นคว้าและสิ่งประดิษฐ์ของแต่ละกลุ่มบนดวงดาวที่ใกลโพ้น
ได้มีการจับตาเฝ้าดูความคืบหน้าของพวกเขาด้วยความหวาดหวั่นและเร้าใจ
พวกนักศิลปะชั้นนำได้เข้ามาร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยตกแต่ง
พืชพันธุ์ส่วนหนึ่งให้งดงามขึ้น อาจจะเป็นในแง่รูปพรรรสัณฐาน
หรือในแง่กลิ่นหอม
"ให้มีดวงสว่างบนพื้นฟ้าอากาศ เป็นที่แบ่งวันออกจากคืน ให้ดวงสว่างนั้นเป็นที่กำหนดฤดูวันปี"
(Genesis 1:14)
>>จากการสังเกตดวงดาวกับดวงอาทิตย์ พวกนักวิทยาศาสตร์ก็สามารถวัดความยาวของวัน
เดือน และปีบนโลก สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถปรับชีวิตความเป็นอยู่ให้เข้ากับโลก
ซึ่งแตกต่างไปจากโลกของพวกตนอย่างมากมาย ความยาวของวันและของปีก็ไม่เท่ากัน
จากการค้นคว้าทางดาราศาสตร์ ทำให้ทราบตำแหน่งของพวกตนได้แม่นยำ
และช่วยให้เข้าใจโลกได้ดีขึ้น
"ให้ฝูงสตว์ที่มีชีวิตเกิดพืชพันธุ์ทวีขึ้นบริบูรณ์ในน้ำ และให้มีนกบินไปมาในอากาศเหนือแผ่นดิน"
(Genesis 1:20)
>>ต่อจากนั้นพวกนักวิทยาศาสตร์ได้สร้างสัตว์น้ำ เริ่มจากแพลงค์ตอน และปลาเล็กจนถึงปลาใหญ่
พวกเขายังได้สร้างสาหร่ายให้ปลาเล็กกิน และให้ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ฯลฯ เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้
และอยู่ในลักษณะดุลภาพตามธรรมชาติ ป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งทำลายสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่ง
จนสูญพันธุ์ไป ระบบนี้คือสิ่งที่คุณเรียกว่า นิเวศวิทยา ปรากฏว่าประสบความสำเร็จ
พวกเขาพบปะกันบ่อยครั้งและได้จัดให้มีการประกวดเพื่อตัดสินว่า นักวิทยาศาสตร์ทีมใด
ที่ได้สร้างสัตว์ที่สวยงามและน่าสนใจมากที่สุด
ต่อจากปลา พวกเขาได้สร้างนก และเห็นจะต้องพูดว่าเป็นเพราะพวกนักศิลปะซึ่งรักแต่
จะเสริมแต่งรูปร่างและสีสรรค์ให้สวยงามแปลกประหลาดที่สุด นกบางชนิดจึงต้อง
บินอย่างทุลักทุเล เพราะมีขนประดับจนอุ้ยอ้าย การประกวดก้าวไปใกลกว่านั้นอีก
นอกเหนือจากลักษณะทางกายภาพแล้ว พวกเขายังได้ดัดแปลงพฤติกรรมของสัตว์
ในช่วงผสมพันธุ์ทำให้นกเต้นระบำแปลกๆ ในการเรียกหาคู่ แต่นักวิทยาศาสตร์
บางทีมกลับสร้างสัตว์ประหลาดน่ากลัวขึ้น เช่นพวกมังกรหรือที่พวกคุณเรียกว่าไดโนเสาร์
เป็นต้น สิ่งนี้เท่ากับพิสูจน์ว่าการคัดค้านการทดลองสร้างสิ่งมีชีวิตบนดวงดาว
ของตนเองเป็นเรื่องถูกต้อง
"ให้ฝูงสัตว์มีชีวิตบังเกิดขึ้นที่แผ่นดินตามชนิดของมัน คือ สัตว์ใช้ สัตว์เลื้อยคลาน
และสัตว์ป่าทั้งปวงตามชนิดของมัน : ก็เป็นดังนั้น"
(Genesis 1:24)
>>หลังจากในทะเลและบนท้องฟ้าแล้ว พวกนักวิทยาศาสตร์ก็ได้สร้างสัตว์บก
เนื่องจากบนพื้นทวีป พืชพันธุ์ได้เจริญงอกงามมาก พวกสัตว์กินพืชจึง
ถูกสร้างขึ้นเป็นชนิดแรก ต่อจากนั้นก็สร้างสัตว์กินเนื้อเพื่อรักษาความสมดุลย์
บุคคลที่เข้าร่วมในกิจกรรมเหล่านี้มาจากดวงดาวของเรา และผมเองก็เป็นผู้หนึ่ง
ที่สร้างชีวิตบนโลกนี้
และแล้วคนที่มีความเชี่ยวชาญมากที่สุดในกลุ่มพวกเราก็คิดสร้างมนุษย์เทียม
ที่คล้ายคลึงกับพวกตนขึ้นมา แต่ละทีมเริ่มลงมือทำงาน และไม่ช้าไม่นานก็
สามารถเปรียบเทียบสิ่งประดิษฐ์ของซึ่งกันและกัน แต่ผู้คนบนดวงดาวของ
เราตกใจมากเมื่อทราบว่าพวกเรากำลังสร้าง "เด็กในหลอดทดลอง"
เพราะเกรงว่าวันหนึ่งมนุษย์เหล่านี้จะเดินทางมาคุกคามดวงดาวของตน
และหวั่นเกรงว่าถ้ามนุษย์เกิดมีพลังและความสามารถเหนือกว่าพวกผู้สร้าง
แล้วก็อาจจะเป็นอันตรายได้ พวกเราจึงตกลงกันว่าจะให้มนุษย์อยู่อย่าง
โบร่ำโบราณ ไม่ให้รู้เรื่องวิทยาศาสตร์ และปกปิดการกระทำของเราไว้
เป็นเรื่องลึกลับ จำนวนผู้สร้างมีอยู่กี่ทีม รู้ได้ไม่ยากเพราะมนุษย์แต่ละ
เชื้อชาติขึ้นอยู่กับผู้สร้างแต่ละทีม
"จงให้เราสร้างมนุษย์ตามแบบฉายาของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล
ฝูงนกในอากาศ และฝูงสัตว์ใช้ ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไป และสรรพสัตว์
ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดินทั้งสิ้น"
(Genesis 1:26)
>>ตามแบบฉายาของเรา! คุณเห็นไหมว่าเราคล้ายคลึงกันเพียงไร
ทีนี้ก็เกิดปัญหาขึ้นมา กล่าวคือทีมนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในประเทศ
ซึ่งในปัจจุบันเรียกกันว่าอิสราเอล ซึ่งในขณะนั้นอยู่ไม่ใกลจากกรีก
และตุรกีบนพื้นผิวทวีปเดิมนั้นเป็นกลุ่มที่ฉลาดมาก ในดินแดนนี้
สัตว์สวยงามที่สุด และพืชพันธุ์หอมหวานที่สุด นี่คือบริเวณที่พวกคุณ
เรียกว่า สวนเอเดน และมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้น ณ ที่นี้ก็เฉลียวฉลาด
ที่สุด พวกผู้สร้างจึงต้องระมัดระวังไม่ให้สิ่งที่สร้างขึ้นมีความฉลาดเหนือ
พวกตน พยายามปกปิดความลับทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ให้การศึกษาใน
ระดับหนึ่งเพื่อจะได้วัดความฉลาดของมัน
"บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้เจ้ากินได้ทั้งหมด เว้นแต่ต้นไม้ที่ให้รู้ความดี
และความชั่ว ผลของต้นนั้นเจ้าอย่าได้กินเป็นอันขาด ถ้าเจ้าขืนกินในวันใด
เจ้าจะตายในวันนั้นเป็นแน่"
(Genesis 2:16-17)
>>สิ่งนี้นหมายความว่า : คุณสามารถเรียนรู้ และอ่านทุกสิ่งทุกอย่างจาก
หนังสือทั้งหมดของพวกเรา แต่ถ้าไม่อยากตาย จงอย่าได้แตะต้องกับหนังสือวิทยาศาสตร์
"ยาเวห์เอโลฮิมได้ทรงสร้างบรรดาสัตว์ป่าและนกในอากาศให้เกิดขึ้นแต่ดิน
แล้วจึงพามายังอาดัม เพื่อดูว่าเขาจะเรียกชื่ออย่างไร อาดัมได้เรียกสัตว์
ทั้งปวงที่มีชีวิตชื่อใด ก็นั่นแหละเป็นชื่อสัตว์'
(Genesis 2:19)
>>เพื่อให้เลี้ยงตนเองได้ จึงจำเป็นต้องให้มนุษย์รู้จักพืชและสัตว์ที่อยู่รอบตัว
อุปนิสัยใจคอ และวิธีจัดหามา พวกผู้สร้างได้สอนให้มนุษย์รู้จักชื่อ
และความสามารถของสิ่งมีชีวิตรอบตัว เพราะเห็นว่าวิชาพฤศาสตร์และ
สัตว์ศาสตร์ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อพวกเขา
ลองจินตนาการดูซิว่า นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้จะรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจเพียงใด
ที่มีเด็กชายหญิง 2 คนเที่ยวกระโดดโลดเต้นอยู่รอบๆ และตั้งหน้าตั้งตา
เรียนรู้ทุกสิ่งที่อยากรู้ไปจากพวกเขา
"งู....พูดกับผู้หญิง....ผลไม้ต้นที่อยู่กลางสวนนั้น...เจ้าจะไม่ตายจริงดอก
เพราะเอโลฮิมทรงทราบอยู่ว่า เจ้ากินผลไม้นั้นเข้าไปในวันใด ตาของเจ้า
จะสว่างขึ้นในวันนั้น แล้วเจ้าจะเป็นเหมือนพระ จะรู้จักความดีและชั่ว"
(Genesis 3:1-5)
>>ในนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ บางคนเกิดเอ็นดูรักใคร่เด้กๆ ขึ้นมา
อย่างจับจิตจับใจ อยากให้มีความรอบรู้ เท่าเทียมกับพวกตน พวกเขาได้บอก
วัยรุ่นเหล่านี้ซึ่งกำลังเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวว่า ถ้าศึกษาเล่าเรียนวิทยาศาสตร์แล้ว
ก็จะสามารถเฉลียวฉลาดได้อย่างเดียวกับผู้สร้าง
"(เมื่อทั้งสองกินผลไม้นั้นแล้ว) ตาของเขาทั้งสองก็สว่างขึ้น จึงรู้สึกว่าเปลือยกายอยู่"
(Genesis 3:7)
>>ดังนั้น มนุษย์จึงรู้ว่าพวกเขาก็เป็นผู้สร้างได้เหมือนกัน และพวกเขาโกรธแค้น
พ่อของตนมากที่ห้ามพวกเขาแตะต้องหนังสือวิทยาศาสตร์ โดยมองพวกเขา
ราวกับว่าเป็นสัตว์ร้ายในห้องทดลอง
"ยาเวห์เอโลฮิมจึงตรัสแก่งูว่า : เพราะเหตุที่เจ้ากระทำเช่นนี้ เจ้าก็เป็นที่แช่งสาป
มากกว่าสัตว์ใช้และสัตว์ป่าทั้งปวง จะต้องเลื้อยไปด้วยท้อง จะต้องกินผงคลีดินจนสิ้น
ชีวิต"
(Genesis 3:14)
>>"งู" หรือพวกผู้สร้างกลุ่มน้อยที่ต้องการสอนความจริงให้กับอาดัมกับอีฟได้ถูก
รัฐบาลบนดวงดาวประณามและถูกเนรเทศให้อยู่บนโลก ส่วนผู้สร้างอื่นๆ ได้
ถูกสั่งให้หยุดยั้งการทดลอง และให้ไปพ้นจากโลก
"ยาเวห์เอโลฮิมได้ทรงทำเสื้อด้วยหนังสัตว์ให้อาดัมกับภรรยาสวมปกปิดกายของเขา"
(Genesis 3:21)
>>พวกผู้สร้างได้มอบปัจจัยในการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานให้กับทั้งสองเพื่อจะให้
อยู่รอดต่อไปโดยไม่ต้องติดกับพวกผู้สร้าง ในส่วนนี้ไบเบิ้ลได้สงวนไว้ซึ่งถ้อยความ
จากเอกสารเดิมไว้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์
"แล้วยาเวห์เอโลฮิมตรัสว่า ดูเถิดมนุษย์กลายเป็นเช่นผู้หนึ่งในพวกเราในการที่
รู้จักความดีและความชั่วแล้ว บัดนี้เกรงว่าเขาจะยื่นมือหยิบผลไม้ที่ให้ชีวิตเจริญ
กินเข้าไป ทำให้อายุยืนอยู่เป็นนิตย์"
(Genesis 3:22)
>>ชีวิตของมนุษย์สั้นมาก แต่ก็มีวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่จะยืดชีวิตออกไปได้มาก
ปกตินักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาค้นคว้าตลอดชีวิต จะมีสติปัญญาและความรอบรู้
อย่างลึกซึ้งและมักค้นพบสิ่งน่าสนใจในยามแก่เฒ่า การมีอายุสั้นจึงถ่วงความเจริญ
ก้าวหน้าของมนุษย์ยาวขึ้น 10 เท่า พวกเขาก็จะยกระดับขึ้นมาเท่าเทียมกับพวกเรา
ได้ในไม่ช้า เพราะสมองของพวกเขาดีเด่นเหนือกว่าของพวกเราอยู่เล็กน้อย
พวกเขาไม่ตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง โดยเฉพาะชาวอิสราเอล ซึ่งในการประกวด
ครั้งหนึ่งเคยได้รับเลือกว่าเป็นมนุษย์ที่เฉลียวฉลาดที่สุดของโลก นี่เองที่อธิบายว่า
ทำไมชาวอิสราเอลถึงได้ถือว่าพวกตนเป็น "ชนชาติที่พระเจ้าเลือกสรร" เป็นความจริง
ที่ว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ที่ได้รับเลือกโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ซึ่งมาชุมนุมกันเพื่อตั
ดสินผลงาน
ของพวกตน คุณเองก็คงสังเกตเห็นว่าชนชาตินี้ได้ผลิตอัจฉริยะบุคคลไว้ไม่น้อย
"เมื่อไล่ชายนั้นออกไปแล้ว เอโลฮิมทรงตั้งคะรูบีมไว้ข้างทิศตะวันออกแห่งสวนเอเดน
และตั้งกระบี่เพลิงอันมีเปลวไฟวับวาบไว้รอบทุกทิศ เพื่อที่จะคอยรักษาทางที่จะเข้า
ไปถึงต้นไม้ที่ให้ชีวิตเจริญนั้น"
(Genesis 3:24)
>>กองทหารที่ติดอาวุธปรมาณูได้ถูกจัดวางไว้ ณ ปากทางเข้าสู่ที่พักอาศัยของพวกผู้สร้าง
เพื่อป้องกันไม่ให้มนุษย์มาแย่งชิงความรู้ทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ
- - - - - [ อุทกภัย ] - - - - -
ต่อไป เรื่องก็ข้ามมาถึงบทที่ 4 ของ Genesis
"อยู่มาวันหนึ่ง คายินได้นำผลที่เกิดแต่ไร่นามาบูชาถวายยาเวห์
ส่วนเฮเบลนำเครื่องบูชามาด้วย คือ แกะหัวปีกับมันสัตว์"
(Genesis 4:3-4)
>>พวกนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกเนรเทศและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของทหาร
ได้ให้มนุษย์นำอาหารมาให้ เพื่อเป็นการแสดงให้ผู้ที่มีอำนาจเบื้องบนเห็นว่า
มนุษย์ที่สร้างขึ้นนั้นดี และจะไม่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อพ่อของพวกเขา
เป็นอันขาด ด้วยเหตุนี้ พวกผู้นำของมนุษย์รุ่นแรกจึงได้รับผลประโยชน์จาก
"ต้นไม้ที่ให้ชีวิต" บุคคลเหล่านั้นจึงมีอายุยืนยาวเป็นพิเศษ อาดัมมีชีวิตอยู่ถึง
930 ปี เสท 912 ปี และอาโนช 905 ปี ฯลฯ
"อยู่มาวันหนึ่งเมื่อมนุษย์ทวีมากขึ้นที่แผ่นดิน และมีบุตรสาวบังเกิดขึ้น
บุตรชายของเอโลฮิมเห็นว่าบุตรสาวของมนุษย์สวย ก็รับเขาไว้เป็นภรรยา
ตามใจชอบของตน"
(Genesis 6:1-2)
>>พวกผู้สร้างที่ถูกเนรเทศได้เลือกผู้หญิงที่สวยที่สุดของมนุษย์มาเป็นภรรยาตน
"วิญญาณของเราจะไม่สถิตกับมนุษย์นานเป็นนิตย์ เพราะมนุษย์เป็นแต่เนื้อหนัง
เขาจะดำรงชีวิตอยู่ได้ก็เพียงร้อยยี่สิบปี"
(Genesis 6:3)
>>การมีอายุยืนไม่ได้เป็นกรรมพันธุ์ ลูกหลานมนุษย์จึงไม่ได้รับผลประโยชน์
ต่อเนื่องจาก "ต้นไม้ที่ให้ชีวิต" ผู้มีอำนาจบนดวงดาวอันใกลโพ้นจึงโล่งอก
ฉะนั้นความลึกลับจึงสาปสูญ และความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์ได้ล่าช้าลง
"ทั้งภายหลัง เมื่อบุตรเอโลฮิมได้สมสู่กับบุตรสาวมนุษย์ จึงเกิดมีคนชนิดนั้น
เขาเหล่านั้นเป็นคนเก่งที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในกาลโบราณ"
(Genesis 6:4)
>>ในที่นี้ คุณจะเห็นว่าพวกผู้สร้างสามารถสมสู่กับลูกสาวของมนุษย์ที่ถูกสร้าง
ขึ้นมาคล้ายพวกตน การจับคู่เช่นนี้ก่อให้เกิดเด็กๆ ที่เยี่ยมยอด แต่ในสายตา
ของผู้คนบนดวงดาวอันใกลโพ้นกลับเห็นว่าสิ่งนี้เป็นอันตรายยิ่ง พวกเขาจึง
ได้ตัดสินใจทำลายสิ่งที่ตนเองสร้างขึ้น
"ยาเวห์ทรงเห็นมนุษย์กระทำความชั่วมากทวีขึ้นบนแผ่นดิน และทรงเห็นว่า
ความคิดนึกในใจของเขาล้วนเป็นความชั่วเสมอไป"
(Genesis 6:5)
>>ความชั่วในที่นี้หมายถึงความปรารถนาที่จะมีความเท่าเทียมกับพวกผู้สร้าง
มีความเป็นเอกเทศทางวิทยาศาสตร์ของตนเอง ส่วนความดีในสายตาของพวก
ผู้สร้างก็คือ การที่มนุษย์ดำรงอยู่บนโลกในลักษณะโบร่ำโบราณ ส่วนความชั่วคือ
การที่มนุษย์ใฝ่ฝันความก้าวหน้า และสักวันหนึ่งอาจจะไล่ขึ้นมาเทียมทันกับ
พวกผู้สร้าง
ดังนั้น พวกผู้สร้างบนดวงดาวอันใกลโพ้นจึงตัดสินใจทำลายชีวิตบนโลกทั้งหมด
โดยการยิงด้วยจรวดนิวเคลียร์ แต่พวกผู้สร้างที่ถูกเนรเทศซึ่งตระหนักถึง
แผนการนี้ได้บอกโนอาห์ให้สร้างจรวดซึ่งจะใช้บินโคจรรอบโลกขณะที่เกิด
ภัยพิบัติ ในจรวดจะมีสิ่งมีชีวิตอย่างละคู่เอาไว้เพื่อเป็นการสงวนพันธุ์
อย่าไรก็ตามนี่เป็นการพูดให้เห็นภาพพจน์เท่านั้น ในความเป็นจริงแล้ว
การมีเซลล์ที่มีชีวิตของตัวผู้และตัวเมียเพียงอย่างละเซลล์ก็เพียงพอ
สำหรับการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของพวกคุณ
จะช่วยให้เข้าใจเรื่องนี้ได้ในไม่ช้า
เรื่องนี้มีส่วนคล้ายกับเซลล์แรกที่อยู่ในท้องของแม่ ซึ่งมีองค์ประกอบที่จำเป็นทั้งหมด
ในอันที่จะช่วยให้กลายเป็นมนุษย์ขึ้นในสักวันหนึ่ง ละเอียดลงไปจนถึงเรื่องสีของผมและตา
นี่เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่นัก แต่ก็สร้างเสร็จทันเวลา เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น ชีวิตได้รับ
การสงวนไว้ในระดับหลายพันกิโลเมตรเหนือผิวโลก ส่วนพื้นทวีปต้องจมอยู่ใต้คลื่น
อันมโหฬารซึ่งทำลายล้างทุกชีวิตบนผิวโลก
"หนุนนาวาให้ลอยขึ้นจากพื้นดิน"
(Genesis 7:17)
>>ตรงนี้เห็นได้ชัดว่า มันลอยขึ้นเหนือพื้นดิน ไม่ใช่ลอยขึ้นเหนือน้ำ หลังจากนั้น
ก็ต้องรอจนกว่ากัมมันตรังสีหมดสิ้นไป
"น้ำได้ท่วมแผ่นดินอยู่ถึงร้อยห้าสิบวัน"
(Genesis 7:24)
>>ทวีปจมอยู่ใต้น้ำด้วยคลื่นน้ำขนาดยักษ์ (tsunami) ซึ่งจะทำลายชีวิตต่างๆ ทุกรูปแบบ
ที่อยู่บนพื้นผิว จากนั้นจะต้องรอคอยจนกว่าจะถึงเวลาที่ไม่มีละอองกัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายอีก
"เอโลฮิมทรงระลึกถึงโนอาห์...จึงบันดาลให้ลมพัดมาเหนือพื้นดินและน้ำทั้งปวงก็กล
ับลดลง"
(Genesis 8:1)
>>จรวดซึ่งมี 3 ชั้น ("จงต่อเรือที่มีดาดฟ้า 3 ชั้น") ได้กลับลงมาจอดบนพื้นดิน ภายในนั้น
นอกจากโนอาห์แล้วก็มีชนชาติต่างๆ ของมนุษย์โลกอย่างละคู่
หลังจากที่ได้กำจัดกัมมันตภาพรังสีด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์แล้ว พวกผู้สร้างได้บอกให้
โนอาห์ปล่อยสัตว์ออกมาเพื่อดูว่าพวกมันสามารถทนต่ออากาศได้หรือไม่ พวกสัตว์จึงได้ออกไปสู่
อากาศสดใสภายนอก พวกผู้สร้างได้บอกให้พวกเขาทำงานและแพร่พันธุ์ เพื่อเป็นการแสดงความ
ขอบคุณต่อผู้มีพระคุณที่ได้สร้างและช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ โนอาห์ได้รับผิดชอบจัดสรร
ผลเก็บเกี่ยวและสัตว์เลี้ยงส่วนหนึ่งไว้สำหรับการเป็นอยู่ของพวกผู้สร้าง
"โนอาห์ก็ก่อแท่นบูชายาเวห์ แล้วเลือกสัตว์และนกที่สะอาดทุกอย่างมาเผาถวาย
ที่แท่นบูชานั้น"
(Genesis 8:20)
>>พวกผู้สร้างรู้สึกยินดีที่เห็นว่ามนุษย์ไม่ได้โกรธแค้นพวกตน และได้สัญญาว่า
จะไม่พยายามทำลายล้างมนุษย์ในอนาคต เพราะพวกเขาได้เข้าใจแล้ว
ว่าเป็นธรรมดาที่มนุษย์จะใฝ่หาความก้าวหน้า
"ความคิดในใจของมนุษย์นั้นล้วนแต่ชั่ว"
(Genesis 8:21)
>>เป้าหมายของมนุษย์ คือ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ผู้คนแต่ละชนชาติ
ถูกจัดวางกลับสู่ถิ่นฐานดั้งเดิมที่พวกเขาถูกสร้างขึ้น และสัตว์ทั้งหมดได้ถูกสร้าง
ขึ้นใหม่จากเซลล์ที่เก็บไว้ในเรือ
"และจากคนเหล่านี้ ชาติทั้งปวงในแผ่นดินก็แบ่งแยกออกเป็นส่วนๆ"
(Genesis 10:32)
- - - - - [ หอบาเบล ] - - - - -
ชาวอิสราเอลซึ่งเป็นชนชาติที่ฉลาดที่สุดได้เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
และด้วยความช่วยเหลือของพวกผู้สร้างที่ถูกเนรเทศก็สามารถพิชิต
อวกาศได้ในไม่ช้า พวกผู้สร้างเหล่านี้ต้องการให้มนุษย์เดินทางไปยัง
ดวงดาวอันใกลโพ้นเพื่อขออภัยโทษสำหรับพวกตน โดยการแสดงว่า
มนุษย์นั้นเฉลียวฉลาด มีความคิดที่เป็นแบบวิทยาศาสตร์ ในขณะ
เดียวกันก็มีความกตัญญูและรักสงบด้วย ฉะนั้นพวกเขาจึงได้สร้างจรวด
ขนาดมหึมาขึ้น นั่นคือ หอบาเบล
"เขาลงมือกระทำอย่างนี้ แล้วประเดี๋ยวจะห้ามเขาไม่ให้ทำสิ่งที่เขาคิดจะทำนั้นไม่ได้"
(Genesis 11:6)
>>พวกผู้คนบนดวงดาวของเราตกใจเมื่อรู้เรื่องนี้เข้า พวกเขายังเฝ้าติดตามดูโลกอยู่
และรู้ว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกยังไม่ได้ถูกทำลายสาปสูญ
"ให้เราลงไป ทำให้ภาษาของเขาวุ่นวายต่างกันไป อย่าให้เขาพูดเข้าใจกันได้"
(Genesis 11:17)
>>พวกผู้สร้างได้มาถึง แล้วจับพวกยิวซึ่งมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ดีที่สุดนำไป
ปล่อยกระจัดกระจายทั่วทวีป ในหมู่ชนชาติที่โบร่ำโบราณ หรือในประเทศที่ไม่มีใคร
เข้าใจพวกเขา เพราะภาษาแตกต่างกัน และพวกผู้สร้างได้ทำลายอุปกรณ์วิทยาศาสตร์
ทั้งหมด
- - - - - [ โซดอม และโกโมราห์ ] - - - - -
พวกผู้สร้างที่ถูกเนรเทศได้รับการอภัยโทษ และได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับสู่
ดวงดาวของตน และได้ไปแก้ต่างกับสิ่งที่พวกตนได้สร้างขึ้น อันเป็นผลให้ดวงดาว
ที่ใกลโพ้นต้องจับตามองโลก เพราะเป็นถิ่นอาศัยของสิ่งที่พวกตนสร้างขึ้น
แต่ในกลุ่มมนุษย์ที่ถูกแยกกระจัดกระจาย ส่วนหนึ่งได้คิดแก้แค้น พวกนี้จึงได้
ชุมนุมกันอีกที่เมืองโซดอมกับโกโมราห์ และได้รวบรวมความลับทางวิทยาศาสตร์
ส่วนหนึ่ง พวกเขาได้ตระเตรียมการเดินทางเพื่อไปลงโทษพวกที่พยายามทำลาย
ล้างพวกตน พวกผู้สร้างได้ส่งสายลับ 2 คนลงมาสำรวจความเป็นไป
"ฝ่ายฑูตสวรรค์สององค์นั้นก็มาถึงเมืองโซดอมในเวลาเย็น..."
(Genesis 19:1)
>>พวกมนุษย์ส่วนหนึ่งพยายามจะฆ่าพวกสายลับ แต่ทั้งสองได้ใช้อาวุธปรมาณู
ฉบับกระเป๋าทำให้พวกเขามองไม่เห็น
"แล้วได้บันดาลให้ตาคนเหล่านั้นทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อยที่อยู่ริมประตูเรือนมืดไป"
(Genesis 9:11)
>>พวกเขาได้เตือนมนุษย์ที่รักสงบให้รีบหนีไปจากเมืองเพราะพวกเขากำลัง
จะลงมือทำลายด้วยระเบิดปรมณู
"จงลุกขึ้นออกไปเสียจากที่นี่ ด้วยยาเวห์จะทรงทำลายเมืองนี้"
(Genesis 19:14)
>>พวกมนุษย์ได้เดินทางออกจากเมือง แต่เป็นไปอย่างไม่เร่งร้อน
เพราะไม่รู้ถึงความรุนแรงของระเบิดปรมาณู
"เจ้าจงลุกขึ้นหนีเอาตัวรอดเถอะ อย่าได้เหลียวหลังมาดู อย่าได้คอยอยู่ใน
ที่ราบนี้เลย จงหนีไปที่ภูเขา เกลือกว่าเจ้าจะถึงพินาศ"
(Genesis 19;17)
>>แล้วระเบิดก็ถูกทิ้งลงบนเมืองโซดอมและโกโมราห์
"ยาเวห์จึงทรงบันดาลให้เพลิงกำมะถันมาแต่พระองค์จากฟ้าตกที่เมือง
โซดอมและโกโมราห์ พระองค์ได้ทรงทำลายเมืองเหล่านั้น และแผ่นดินราบ
กับชาวเมืองทั้งปวง และบรรดาสิ่งที่งอกขึ้นจากแผ่นดินให้พินาศเสียหมด
ส่วนภรรยาของโลกนั้น เมื่อเหลียวไปดูข้างหลัง ตัวก็กลายเป็นเสาเกลือ"
(Genesis 19:24-25)
>>ก็อย่างที่พวกคุณรู้แล้วในปัจจุบันว่า การเผาไหม้ที่เกิดจากระเบิดปรมาณู
จะฆ่าคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงและทำให้มีลักษณะคล้ายเสาเกลือ
- - - - - [ การเสียสละของอับราฮัม ] - - - - -
หลังจากนั้น พวกผู้สร้างต้องการทราบว่า ขาวอิสราเอล โดยเฉพาะพวกหัวหน้า
ยังคงมีเจตนาดีต่อพวกตนหรือไม่ เพราะว่าถึงตอนนี้พวกที่เป็น "มันสมอง"
ส่วนใหญ่ได้ล้มตายแล้ว และชาวอิสราเอลได้กลับไปอยู่ในสภาพกึ่งโบราณ
อีกครั้ง เรื่องราวตอนนี้ได้ปรากฏในข้อความที่เกี่ยวกับการเสียสละลูกชายของ
อับราฮัม พวกผู้สร้างได้ทดสอบอับราฮัมว่า ความรู้สึกของเขาต่อพวกตนยังมั่นคง
ดีหรือไม่ ปรากฏว่าการทดลองประสบผลสำเร็จ
"เจ้าจงอย่าทำอันตรายแก่ลูกชายนั้นเลย เพราะเดี๋ยวนี้เรารู้ว่าเจ้าเกรงกลัวเอโลฮิม"
(Genesis 22:12)
'เอาล่ะ จงไปทำความเข้าใจ และบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมพึ่งเล่ามานี้ แล้วพรุ่งนี้
จะเล่าให้ฟังอีก'
ชายตัวเล็กได้อำลาไปอีกครั้ง และจานบินได้ลอยลำขึ้นอย่างช้าๆ เนื่องจากท้องฟ้าวันนี้
ค่อนข้างแจ่มใส ผมจึงสามารถเห็นการลอยตัวของจานบินได้อย่างละเอียด
มันหยุดนิ่งในระดับ 400 เมตรและโดยปราศจากเสียงเลย จานบินได้เปลี่ยนเป็นสีแดง
ราวกับกำลังเร่งเครื่อง แล้วกลายเป็นสีขาวราวกับโลหะที่ร้อนจัดเปลี่ยนเป็นสีขาว
และแล้วก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงอมฟ้าเหมือนกับดอกไม้ไฟดวงมหึมาที่เจิดจ้าจนเพ่งมองไม่ไห
ว
เสร็จแล้วก็หายลับไป
ท่าลี่ 2010-11-01 16:05
##########################
โอย.. เหนื่อย... พิมพ์ให้อ่านทั้งบทเลย
เอาแค่นี้พอนะครับ เพราะแค่นี้ก็ได้รู้ในส่วนสำคัญ
ที่สุดแล้ว นั่นคือกำเนิดมนุษยชาติ ถ้าอยากอ่านแบบเต็มๆ
ก็ไปหาหนังสืออ่านเองนะครับ
บทอื่นๆ ก็เกี่ยวกับความจริงเกี่ยวกับซาตาน พระเยซู
การหักล้างทฤษฎีวิวัฒนาการ ต้นกำเนิดศาสนาทั้งปวง
ระบบการปกครองที่ดีที่สุด เคล็ดลับการมีอายุยืนหลายร้อยปี
การไปเยือนดาวของเอโลฮิม และเรื่องราวปรัชญา
ที่เหมาะสมสำหรับอนาคต สังคมและรัฐบาล
การทำสมาธิ การติดต่อโดยกระแสจิต วันพิพากษา
สมองของมนุษย์
##########################-
อ่านเพิ่มเติม!!! ดาวน์โหลดได้ที่นี่ E-Book
เขียนโดย Admin ที่ 10:16:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
น้องตาล สรัญญา มีธรรม สาวลี โอเกิร์ล แฟน เสนา หอย ประวัติ เป็นใคร คือใคร มาจากไหน
วันอาทิตย์, พฤษภาคม 22, 2554น้องตาล สรัญญา มีธรรม สาวลี โอเกิร์ล ซีซั่น 5 สาวตะกายฝันที่ไม่เคยคิดอยากดังทางลัดด้วยวิธีเต้าไต่ ก็ยอมออกมาสลัดผ้าท้ากล้อง ขอก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว น้องตาล เริ่มเข้าวงการจากการประกวดมิสทีนไทยแลนด์ปี 2004 เข้ารอบสุดท้าย แต่ก็ยังไม่ท้อเดินสายประกวดเรื่อยมาจนเข้ารอบสาวลีโอเกิร์ลซีซั่น 5 ตัวแทนภาคใต้นั่นเอง
สาวเพลย์บอย Playboy Girls Thai Girls
ที่มา
จัดได้ว่าเป็นปฏิทินฉบับแรกของผลิตภัณฑ์กาแฟ สลิมคัพ ฟอร์เมน สูตรพิเศษสำหรับผู้ชาย ที่จับ 3 ดารานางแบบคลื่นลูกใหม่ ''น้องขวัญข้าว'' กานต์พิชชา สถาปิตานนท์, ''น้องตาล'' สรัญญา มีธรรม และ ''น้องอะตอม'' ภัคจิรา วิศววิสุทธิ์ ถ่ายปฏิทินสุดสยิวกิ้ว เพื่อเป็นของขวัญแทนใจให้กับลูกค้า งานนี้หนุ่มๆ มีเฮ เพราะทางกาแฟสลิมคัพแจกฟรีไม่มีจำหน่าย และทางกาแฟสลิมคัพก็จะจัดทำปฏิทินเซ็กซี่แบบนี้ขึ้นเป็นประจำทุกปี ประเดิมปีแรกด้วยความฮอตและฮือฮา ของดาราสาวคลื่นลูกใหม่ใจถึงที่กำลังมาแรงอย่างเต็มพิกัด
ลองมาทำความรู้จักกับ 3 นางแบบสาวเซ็กซี่คลื่นลูกใหม่กับดีกว่า เริ่มที่ ''น้องขวัญข้าว'' กานต์พิชชา สถาปิตานนท์ ที่ฝากผลงานละครไว้หลายเรื่อง อาทิ โรงแรมผี, มาลัย 3 ชาย, ด้วยแรงอธิษฐาน, เงาใจ, เงากามเทพ และล่าสุด สองปรารถนา ทางช่อง 5 ค่ายเอ็กแซ็กท์ ที่ยอมเปลื้องผ้ากระชากเรตติ้งเป็นครั้งแรกในชีวิต
คนที่ 2 ''น้องตาล'' สรัญญา มีธรรม สาวลีโอเกิร์ลซีซั่น 5 สาวตะกายฝันที่ไม่เคยคิดอยากดังทางลัดด้วยวิธีเต้าไต่ ก็ยอมออกมาสลัดผ้าท้ากล้อง ขอก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว ''น้องตาล'' เริ่มเข้าวงการจากการประกวดมิสทีนไทยแลนด์ปี 2004 เข้ารอบสุดท้าย แต่ก็ยังไม่ท้อเดินสายประกวดเรื่อยมาจนเข้ารอบสาวลีโอเกิร์ลซีซั่น 5 ตัวแทนภาคใต้นั่นเอง
คนสุดท้าย ''น้องอะตอม'' ภัคจิรา วิศววิสุทธิ์ เจ้าของฉายา ''อั้ม-พัชราภา 2'' หรือ ''แฝดต่างฝาอั้ม'' เธอเดินสายนางแบบในวงการแฟชั่นอยู่นาน จนมามีข่าวว่าเธอมีใบหน้าละม้ายคล้ายนางเอกชื่อดัง ''อั้ม'' พัชราภา ไชยเชื้อ มากที่สุด บวกกับความเซ็กซี่บาดตา บาดใจ ตรงสเปก ''กาแฟสลิมคัพ ฟอร์ เมน'' จึงได้รับการคัดเลือกมาเป็นนางแบบปฏิทินของปีนี้
แหม...เรียกว่าทำความรู้จักกับ 3 สาว 3 สไตล์นางแบบคลื่นลูกใหม่ของวงการสุดเซ็กซี่อย่างานี้เห็นทีหนุ่มๆ ต่างอยากหาปฏิทินปีใหม่นี้ไว้ครอบครองกันเป็นแถวใช่ไหมล่ะ???
เครดิตจากสยามดารา
เขียนโดย Admin ที่ 1:16:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: น้องตาล สรัญญา มีธรรม สาวลี โอเกิร์ล
สามี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อนุสรณ์ อมรฉัตร ปู ป๊อป เพื่อไทย
“อนุสรณ์ อมรฉัตร” หรือ “ป๊อป” อดีตผู้บริหารในเครือบริษัท ซีพี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
การงาน
เอ็ม ลิงค์ ประกาศปรับโครงสร้างทางธุรกิจ แตกไลน์เพิ่มเติมให้สามารถรองรับลูกค้าในกลุ่มที่หลากหลายได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ ยังเน้นการจับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพื่อเข้าร่วมงานประมูลด้านไอที เทเลคอมที่มีความเชี่ยวชาญ
นายอนุสรณ์ อมรฉัตร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แถลงถึงการปรับโครงสร้างธุรกิจขององค์กร โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ Handset, Digital Trunked Radio, Mobile Application และ System Integration ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของบริษัทฯ ยังคงอยู่ในด้านธุรกิจโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ยาวนาน รวมทั้งประสบความสำเร็จในการทำการตลาดและการขายให้หลายแบรนด์หลักๆ มาโดยตลอด จึงยังคงความสำคัญอยู่ในกลุ่มนี้ ดังนั้น เอ็ม ลิ้งค์ฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่จะดำเนินธุรกิจด้านการขายส่งกับดีลเลอร์กว่า 600 ราย
ส่วน เอ็ม ช็อป (M Shop) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ จะดูแลด้านการขายส่งไปยังร้านแฟรนไชส์ของเอ็ม ช็อป ซึ่งมีทั้งหมด 99 ช็อป รวมทั้งร้านที่สามารถให้บริการหลังการขายอีกถึง 31 แห่ง
ส่วนเทเลแม็กซ์ (Telemax) จะดูแลด้านการขายปลีก โดยปัจจุบันร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือถึง 16 ร้าน และห้างสรรพสินค้า 51 แห่ง รวมทั้งร้านที่สามารถให้บริการหลังการขายอีก 6 แห่ง
ธุรกิจโทรศัพท์มือถือนับว่าเป็นธุรกิจหลัก ซึ่งเป็นตัวทำรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายโทรศัทพ์มือถือคิดเป็น 83.14% จากรายได้ทั้งหมด นอกจากนั้นเป็นรายได้จากการจำหน่ายซิมการ์ดและบัตรเติมเงิน 16.26% และอุปกรณ์เสริม 0.60% ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายมือถือในไตรมาสแรกปีนี้ ได้เพิ่มขึ้นเป็น 86.46% ซิมการ์ดและบัตรเติมเงิน 12.78% และอุปกรณ์เสริม 0.76%
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ นอกเหนือจากธุรกิจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ บริษัทฯ ได้เพิ่มสินค้าที่เป็นเทคโนโลยีไร้สายอื่นๆ ซึ่งบริษัทฯ เล็งเห็นว่ามีศักยภาพ อันเป็นที่มาของกลุ่มธุรกิจที่ 2 คือ วิทยุสื่อสารระบบดิจิตอล (Digital Trunked Radio) โดยมีตลาดรองรับที่มีศักยภาพในการเติบโต เนื่องจากเป็นจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยีจากระบบอนาล็อคแบบเดิม เข้าสู่ช่วงดิจิตอล ที่นอกเหนือจากความคมชัด ก็ยังจะมีระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้น และสามารถเพิ่มการสื่อสารอื่นๆ นอกเหนือจากการสื่อสารด้วยเสียง เช่น การรับ-ส่งข้อมูล ซึ่งบริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท โมโตโรล่า ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทย โดยเน้นการขายให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากกบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ให้เข้ามาดูแลรับผิดชอบโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีมูลค่าเกือบ 300 ล้านบาทสำหรับเฟสแรก
กลุ่มธุรกิจที่สาม เอ็ม โซลูชั่น (M-Solution) จะพัฒนาเนื้อหาและโมบายโซลูชั่นสำหรับลูกค้าองค์กรและสนับสนุนธุรกิจการจัดจำหน่ายและบริการโทรศัพท์มือถือของเอ็ม ลิ้งค์ฯ ด้วย กิจกรรมของกลุ่มธุรกิจนี้ มีตัวอย่างเช่น Ringtone, Wallpaper, Nokia Car Kit และจัดทำเรื่อง Corporate SME ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลให้กับกลุ่มคนครั้งละมากๆ เป็นต้น
กลุ่มธุรกิจสุดท้ายคือ พอร์ทัลเน็ต (Portalnet) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ให้บริการแก่ลูกค้าขนาดใหญ่ ทั้งที่เป็นองค์กรของรัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจ โดยเป็นการนำความเชี่ยวชาญของเอ็ม ลิ้งค์ฯ ไปผนวกกับผู้ให้บริการด้านไอทีเทเลคอมที่มีประสบการณ์และเป็นผู้นำในแต่ละด้าน เพื่อรับประมูลโครงการต่างๆ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่มอบหมายให้ดูแลโครงการเช่าระบบซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับธุรกิจหลัก โดยมีมูลค่าโครงการทั้งสิ้นกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับระยะเวลา 8 ปี
เพื่อเป็นการสร้างฐานทางการเงินให้แข็งแกร่ง และพร้อมที่จะรองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทฯ เอ็ม ลิ้งค์ฯ ตัดสินใจจะเพิ่มทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยแบ่งการเพิ่มทุนเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นการเสนอขายหุ้นแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ จำนวน 270 ล้านหุ้น ที่ราคา 2 บาท คิดเป็น 540 ล้านบาท ในราวเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนที่สอง เป็นการขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement) จำนวน 150 ล้านหุ้น โดยให้อำนาจกรรมการฯ ในการกำหนดเวลาและราคา แต่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของราคาหุ้นถัวเฉลี่ย ณ ขณะนั้น เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนทั้งหมดจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทและรองรับการขยายตัวของธุรกิจใหม่ ทั้ง Digital Trunked Radio และ Application
บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ M LINK ประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่าย (Distributor) อุปกรณ์การสื่อสารและโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพที่สุดในประเทศไทย ในไตรมาสแรกของปี 2547 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,367.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 99.24 จากงวดเดียวกันของปี 2546 มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวมทั้งกับ 670.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.59 จากสิ้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2546
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวสุดสวยของนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร เธอจะเป็น “นารีขี่ม้าขาว” เพื่อกู้ศักดิ์ศรีพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ต้องตามดูการแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทยในวันนี้(16 พ.ค. 54) เวลา 13.00 น. ทางพรรรคเพื่อไทยจะหยั่งเสียงเพื่อขอฉันทามติเลือกผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ทั้งนี้นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ เผยว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว ทางทีมงานISN ได้รวบรวมประวัติของ สาว สวย เท่ห์ CEO ใหญ่แห่ง เอสซี แอสเซท มาทำความรู้จักคุณปู กันเลยค่ะ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (เกิด 21 มิถุนายน พ.ศ. 2510, ชื่อเล่น: ปู) สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เอไอเอส) และกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด โดยการรับช่วงต่อสืบทอดกิจการของครอบครัว หลังจากสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวก้าวเข้าสู่สนามการเมือง เป็นน้องสาวคนสุดท้องของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ชีวิตส่วนบุคคล
ยิ่งลักษณ์ เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 9 คน ของเลิศ และยินดี ชินวัตร จบการศึกษาปริญญาตรี จาก คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2531 และปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเคนทักกีสเตท สหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2533
คุณอนุสรณ์ อมรฉัตร ยิ่งลักษณ์ สมรสโดยไม่ได้จดทะเบียนกับ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร อดีตผู้บริหารในเครือบริษัท ซีพี และกรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอ็ม ลิงก์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวคนที่ 5 ในตระกูลชินวัตรเมื่อ พ.ศ. 2538 โดย มีบุตรชายนอกสมรสหนึ่งคน ชื่อ ด.ช. ศุภเสกข์ หรือ น้องไปป์
การทำงาน
หลังสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้เข้าทำงานที่ บริษัท ชินวัตร ไดเร็กทอรี่ส์ จำกัด ต่อมา ได้รับการแต่งตั้ง เป็นกรรมการผู้อำนวยการ ของเอไอเอส เมื่อ พ.ศ. 2545
หลังจาก ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ขายหุ้นกลุ่มบริษัทชินคอร์ป ให้แก่ เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ของรัฐบาลสิงคโปร์ ยิ่งลักษณ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งในเอไอเอส โดยยังดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด เพียงตำแหน่งเดียว โดยก่อนหน้านั้นเธอได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ในมือทั้งหมด เพื่อทำกำไรออกไปก่อน ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2548 ปัจจุบัน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่ง กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไทยคม
การเมือง
ยิ่งลักษณ์เคยติดตามเลิศ ชินวัตรและเยาวลักษณ์ ชินวัตรลงพื้นที่หลายครั้งเมื่อเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2554 ยิ่งลักษณ์จะลงสมัครส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อเป็นอันดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทย
เขียนโดย Admin ที่ 12:15:00 หลังเที่ยง 14 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, สามี, อนุสรณ์ อมรฉัตร
Sunbeam Electric Blankets Warming Automatic Cheap On Sale Buy King Queen Size Blue Yellow White Sunbeam Electric Blankets Warming Automatic Discount,Sunbeam Fleece Electric Blanket,Sunbeam Dual Control Electric Blanket Deals Heated Fleece Blanket Sunbeam Twin
วันเสาร์, พฤษภาคม 21, 2554Sunbeam Electric Blankets
Sunbeam Electric Blanket
Sunbeam Electric Blankets Warming Automatic Cheap On Sale Buy King Queen Size Blue Yellow White
Sunbeam Electric Blankets Warming Automatic Discount,Sunbeam Fleece Electric Blanket,Sunbeam Dual Control Electric Blanket Deals Heated Fleece Blanket Sunbeam Twin
Thai Bible Online
Hello Kitty Humidifier
Wat Rong Khun
Kindle Tablet
Baby Boutiques
Survival List Blog
Bamboo Spatula
Girls In Thai
Samsung Chromebook
Python Costume Ideas
Char Griller Parts
Dermmatch Review
Sunbeam Electric Blankets
Samsung Chromebooks
Bamboo Spatula
Python Costume Ideas
เขียนโดย Admin ที่ 12:34:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: Sunbeam Electric Blankets
Python Costume Ideas Michael Kors Buy Sale Cheap ,New York Fashion,Lifestyle store opens at Bellevue Square,Python Costume Ideas,Michael Kors,Women Accessories,Bandeau Top,Fixed Triangle Top,Hammered Hardware Solids,Leather Stripe.
วันอาทิตย์, พฤษภาคม 15, 2554http://pythoncostumeideas.blogspot.com
http://astore.amazon.com/pythoncostumeideas-20
Python Costume Ideas Michael Kors
Michael Kors,New York Fashion,Lifestyle store opens at Bellevue Square,Python Costume Ideas,Michael Kors,Women Accessories,Bandeau Top,Fixed Triangle Top,Hammered Hardware Solids,Leather Stripe.Outlet Store.
Deals Discount On Sale
เขียนโดย Admin ที่ 9:07:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: Python Costume Ideas Michael Kors
Google Chromebooks : Samsung ChromeBook Buy Series 5 White Wifi 3G Model Deals Cheap Discount Samsung Chromebook Series 5 White Wifi 3G Model,Netbook,Notebook,Labtop,Buy Samsung Chromebooks Cheap On Sale,Acer Chromebooks.
เขียนโดย Admin ที่ 3:46:00 ก่อนเที่ยง 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: Google Chromebooks Samsung ChromeBook Buy Series 5 White Wifi 3G
Chromebooks : Samsung ChromeBooks Acer ChromeBooks NoteBooks On Sale 1/6
วันเสาร์, พฤษภาคม 14, 2554เขียนโดย Admin ที่ 10:03:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ - ไม่มีตรงกลาง - Project Love Pill จิรากร(official)
วันจันทร์, พฤษภาคม 09, 2554จะบอกอีกทีว่าฉันรักเธอ
จะบอกให้ฟังว่าฉันค้นเจอ
ความหมายของการมีชีวิตอยู่
ก็รู้จากเธอไม่ใช่ใคร
จะบอกอีกทีถ้าไม่เชื่อกัน
จะบอกอีกทีว่าความสำคัญ
เธอนั้นเป็นที่หนึ่ง เหนือผู้ใด
และไม่มีใครนอกจากเธอ
อย่ากลัวกับคนที่เขามานินทา
อย่ากลัวว่าในแววตาฉันมีใคร
เชื่อในรักเรา เชื่อในหัวใจที่ฉันให้เธอได้ไหม
ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา
รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้
จะไม่มีตรงกลางที่เหลือว่างเผื่อใคร
ถ้าใจเรายังผูกกัน
ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน
รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน
เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน
จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ
จับผิดระแวงกันทุกวี่วัน
นั่นมันยิ่งทำให้ความสัมพันธ์
มันเริ่มที่จะจืดจางหายไป
แค่ไว้ใจกันได้ไหมเธอ
อย่ากลัวกับคนที่เขามานินทา
อย่ากลัวว่าในแววตาฉันมีใคร
เชื่อในรักเรา เชื่อในหัวใจที่ฉันให้เธอได้ไหม
ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา
รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้
จะไม่มีตรงกลางที่เหลือว่างเผื่อใคร
ถ้าใจเรายังผูกกัน
ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน
รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน
เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน
จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ
ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา
รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้
ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน
รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน
เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน
จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ
เขียนโดย Admin ที่ 7:32:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ - ไม่มีตรงกลาง Project Love Pill จิรากร
N21 Network Twenty One Thailand คืออะไร Amway กับระบบ N21 เปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย ผ่าแผน ระบบ เครือข่าย Marketing ดีอย่างไร
วันอาทิตย์, พฤษภาคม 08, 2554
เขียนโดย Admin ที่ 2:53:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
วิธีดูทีวีช่อง 7 ,ดูทีวี 7 ยังไง สด ออนไลน์ TV ช่อง 7 HD ดูไม่ได้ มี วิธี ทาง แก้ ปัญหา ทำยังไง มาดูทางนี้เลย ดูทีวีออนไลน์ ทั่วโลก ทุกช่อง ชัดแจ๋ว ความเร็วสูง
วันศุกร์, พฤษภาคม 06, 2554ดูทีวีช่อง 7 ไม่ได้ทำไง วิธีแก้ มาทางนี้เลย ลงโปรแกรมนี้ ก็เรียบร้อย ดูได้หมด แถมดูได้ทั่วโลก
Readon TV Movie Radio Player
เวลาลงโปรแกรมจะมีการอัพเดท ให้อัพไปเรื่อยๆ
สดช่อง 3 HD คมชัดความเร็วสูง
ดูได้ทุกช่อง ทั่วโลก ทุกประเทศ
วิธีดูทีวีช่อง 7 ,ดูทีวี 7 ยังไง สด ออนไลน์ TV ช่อง 7 HD ดูไม่ได้ มี วิธี ทาง แก้ ปัญหา ทำยังไง มาดูทางนี้เลย ดูทีวีออนไลน์ ทั่วโลก ทุกช่อง ชัดแจ๋ว ความเร็วสูง
เขียนโดย Admin ที่ 8:10:00 หลังเที่ยง 3 ความคิดเห็น
Thai Bible Online พระคัมภีร์คืออะไร พระคัมภีร์เก่า คริสตจักร เรียนพระคัมภีร์ ไทยไบเบิลออนไลน์ ข้อพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ online ศึกษาพระคัมภีร์ คัมภีร์ไบเบิล พระคัมภีร์เสียง พระเยซูคริสต์ พระคัมภีร์เดิม พระคัมภีร์ใหม่ โหลดพระคัมภีร์ พระคริสตธรรมคัมภีร์ คริสตจักร ศาสนาคริสต์ Mp3 Download พระเจ้า สำหรับ iPad iPhone BlackBerry Pdf อ่านพระคัมภีร์ออนไลน์ รวบรวมแหล่งศึกษาพระคัมภีร์ออนไลน์
วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 05, 2554Thai Bible Online
พระคัมภีร์คืออะไร พระคัมภีร์เก่า คริสตจักร เรียนพระคัมภีร์ ไทยไบเบิลออนไลน์ ข้อพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ online ศึกษาพระคัมภีร์ คัมภีร์ไบเบิล พระคัมภีร์เสียง พระเยซูคริสต์ พระคัมภีร์เดิม พระคัมภีร์ใหม่ โหลดพระคัมภีร์ พระคริสตธรรมคัมภีร์ คริสตจักร ศาสนาคริสต์ Mp3 Download พระเจ้า สำหรับ iPad iPhone BlackBerry Pdf อ่านพระคัมภีร์ออนไลน์ รวบรวมแหล่งศึกษาพระคัมภีร์ออนไลน์
เขียนโดย Admin ที่ 6:57:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
พุทธพจน์ทำนาย โลกมนุษย์ทำกุศลเพียง 3 ส่วน ทำบาปกรรมถึง 7 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้องค์อินทร์จะสั่ง ลงโทษมนุษย์ผู้ใจบาปถึง 9 ข้อ นับแต่ปีจอถึงปีกุน ดังนี้
วันพุธ, พฤษภาคม 04, 2554พุทธพจน์ทำนาย
คณะธรรมทูตผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระศรีมหาโพธิ์ที่
ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้คัดลอกพระพุทธพจน์ทำนายจากศิลา
จารึก เขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน แปลได้ดังนี้
(หมายเหตุจากผู้เรียบเรียง : ปีพ.ศ.ในพุทธทำนายต่อไปนี้จะต้องบวกด้วย
48 เสียก่อนจึงจะเท่ากับปีพ.ศ.ตามแบบที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ปีพ.ศ.แบบ
ของไทยที่ใช้อยู่นี้เร็วเกินจริง อ่านรายละเอียดเรื่องนี้ที่ส่วนท้ายของเอกสาร
นี้)
สาธุ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกซึ่งเกิด
มาล้วนแต่ลำบากยิ่งนัก ในคราวที่พระองค์ใกล้ถึงพระชนมายุย่างเข้าพระปริ
นิพานตามกาลเวลา จึงตรัสแก่พระอานนท์ผู้ศิษย์อันสนิทพากเพียรพยาบาล
ว่า
ดูกรอานนท์ สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดมาล้วนแต่ลำบาก ทุกชาติ ทุก
ศาสนา ตามธรรมชาติที่หมุนเวียนของโลก โลกหมุนไปใกล้ความแตก
ทำลายจนถึงสมัยที่อาตมานิพพานไปแล้วได้ ๕,๐๐๐ ปี
เมื่อโลกไปใกล้กึ่งจำนวนที่อาตมาทำนายไว้ (๒,๕๐๐ ปี) มนุษย์และ
สัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศเสียครึ่งหนึ่งในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิก
ชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หินถูกสาปให้หลับก็กลับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก
เมื่อใกล้กึ่งศาสนาของอาตมาก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และมนุษย์นอก
ศาสนาก็จะมารบราฆ่าฟัน กันถึงเลือดนองแผ่นดินและแผ่นน้ำ แม้ในอากาศ
ก็มีอำนาจภัยจากฟ้าทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะ
ต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินแผ่นน้ำจะ
เดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลัง
ด้วยกันตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา ซึ่งกำเนิดมาจากสัตว์ป่าอำมหิต
ส่วนศาสนิกชนผู้ขวนขวายในทางบุญตามเดิมวัจนะของอาตมาก็จะ
สามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใดที่เคารพสักการะพระศรีมหาโพธิ์และ
กาสาวพัสตร์ จะได้รับวิบัติเบาบางลงแต่จะหนีธรรมชาติไม่พ้น
เริ่มแต่ศาสนาอาตมาล่วงมาได้ ๒,๔๘๕ ปีเป็นต้นไป ไฟจะลุกมาทาง
ทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ คนบ้าน
จะเข้าป่า สัตว์ป่าจะเข้ากรุง เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้า
เป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำสงครามจะ
ทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอด
อยาก พลูหมากจะหมดเปลือง ปราชญ์เปรื่องจะสิ้นสูญ
ราชตระกูลอำมาตย์ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรมไม่
เคารพหลักธรรมโดยปรวนแปรนิยมเชื่อถือถ้วยคำของคนโกง คนกล่าวคำ
เท็จ คนประจบสอพลอย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต
ผู้ดีมีศีลธรรมประพฤติชอบไม่มีเสียง (อธรรมพูดจ้อ แต่ธรรมเป็นใบ้) จะ
เกิดการจลาจลวุ่นวาย ลูกจะพลัดแม่ แม่จะพลัดจากลูก โคกจะเป็นน้ำ ผี
โขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมืองจะเข้าไพร เทวดาจะเรียกแมลงบี้
เหล็กโกฏิหนึ่ง ผีเสื้อเหล็กแสนหนึ่ง มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ
เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพ
เดินเป็นคลาน ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะ
ถล่มเป็นทะเล ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลก
ดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉา
พยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม และ
ยึดถือคาถาของอาตมาจะพ้นภัยพิบัติให้เจริญภาวนาดังนี้
หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน
ให้ท่องบ่นภาวนาเป็นนิจ ให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้
หน้าบ้าน หัวนอน หรือพันศีรษะไว้ สารพัดภัยพินาศ สันติประสิทธิ์ ดูกร
อานนท์ อาตมาสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้นที่มีอายุขัยอยู่ได้ใกล้ยุคกึ่งยุค
เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๑๒ (ปีจอ) พระจันทร์จะเริ่ม
เปล่งแสงฉายโลก ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี พวก
อธรรมคือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไป
เพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ครุฑจะบิน
กลับถิ่นสถาพร คนที่จรจะกลับเข้ากรุงบำรุงธรรม ธรรมจะชนะ พระจะ
อยู่บ้านเมืองต่อไป การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ซึ่งไม่ต้อง
เบียดเบียนแรงผู้ใด ทุกคนจะสมบูรณ์ด้วยศีลธรรมและชีวิตผาสุก มหา
กษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง จะเกิดภายในความอุปภัมถ์
ของพระมหาเถระโพธิสัตว์ ทั้งสององค์นั้นจะจัดการบำรุงศาสนาของ
อาตมาในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล" พระมหาเถระโพธิสัตว์จะเกิดในสมัยของ
อาตมาล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี
เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ พระมหากษัตริย์ธรรมิกราชจะมาเกิด
ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ
ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์
นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้เที่ยงแท้ สมณชีพราหมณ์จะเสด็จมา
๘๔,๐๐๐ รูป
ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำ
ทำนายของอาตมานี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ
หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไปนับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่าง
สิ้นสุดกันตามกาลเวลา ผู้ใดปรารถนาจะได้เห็นหรือทันมีบุญ ให้รักษาศีลห้า
ประการหนึ่งยำเกรงบิดา มารดา รู้จักบุญคุณท่านผู้มีคุณ หนึ่งให้เจริญ
ภาวนาในพรหมไตรสภาพหนึ่ง คาถาว่าดังนี้
" พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติปารมิตา ติสา อิติ
สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม "
หมายเหตุ : ปี พ.ศ. ที่ระบุตามพุทธทำนายข้างต้นนี้ต้องเอาไปบวกเพิ่มด้วย
48 จึงจะตรงกับปี พ.ศ.ที่เรากำลังใช้อยู่ตอนนี้ หมายความว่าปี พ.ศ. ที่เรา
ใช้ปัจจุบันนี้เร็วเกินกว่าในคำทำนายไป 48 ปี เช่น ถ้าปีในคำทำนายคือ ปี
มะโรง พ.ศ. 2507 จะตรงกับปีในแบบปัจจุบันคือ ปีมะโรง พ.ศ. 2555
(2507 + 48 = 2555)
ปี พ.ศ. ที่ไทยเราใช้อยู่นั้นกับปี พ.ศ. ของบางประเทศนั้นไม่ตรงกัน
ทั้งที่ต่างก็นับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน มีผู้รู้กล่าวว่า พ.ศ. แบบที่เรา
ใช้อยู่ปัจจุบันนี้มีความคลาดเคลื่อนเร็วเกินกว่าความเป็นจริง
มีข้อมูลที่สนับสนุนว่าอาจมีความคลาดเคลื่อนในการนับปีพุทธศักราช
เชิญผู้ที่สนใจลองค้นหาดูจากอินเทอร์เน็ต
ความคลาดเคลื่อนนี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการนับพุทธศักราชที่ใช้กันใน
ปัจจุบันนั้น ประเทศศรีลังกาเป็นผู้จัดทำขึ้นในช่วงประมาณ 1,000 ปีหลัง
พุทธกาล โดยนำข้อมูลเทียบกับระยะเวลาการครองราชย์ของกษัตริย์ลังกา
แต่ละพระองค์ แต่ช่วงหนึ่งลังกาถูกพวกทมิฬจากอินเดียยกทัพบุกยึดเป็น
เมืองขึ้น และเกิดสงครามกลางเมือง ผลของสงครามอาจทำให้การบันทึก
ข้อมูลการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ลังกาในช่วงนั้นคลาดเคลื่อนไป
บางความเห็นก็ว่าความคลาดเคลื่อนนี้อาจเกิดจากวิธีนับรอบปีใหญ่ซึ่ง
เรียกว่า “การนับพฤหัสบดีจักร” ที่นับแตกต่างกันหนึ่งรอบ
เนื่องจากโลกตะวันตกมีการจดบันทึกปีคริสต์ศักราชที่แน่นอน เราจึง
ตรวจสอบเวลาที่คลาดเคลื่อนนี้โดยยึดตามเหตุการณ์สำคัญคือพระเจ้าอโศก
มหาราชทรงขึ้นครองราชย์เมื่อ 267 ปีก่อนคริสตกาล และระยะเวลาในยุค
พระเจ้าอโศกมหาราชห่างจากช่วงที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน 218 ปี
ดังนั้นถ้า ค.ศ. ปัจจุบันคือ ค.ศ. 2010 นำมาบวกด้วย 485 (267 + 218
= 485) จะได้ปี พ.ศ. ที่แท้จริงคือ พ.ศ. 2495 ไม่ใช่ พ.ศ. 2553 ซึ่งมีความ
คลาดเคลื่อนไปถึง 58 ปี
มีความเป็นไปได้ที่มีความคลาดเคลื่อนในการนับปีพุทธศักราช แต่ใน
ไม่แน่ว่าจะคลาดเคลื่อนไป 58 ปี เพราะได้พบหลักฐานสำคัญคือพุทธ
ทำนายจากศิลาจารึกที่ทำให้อาจเชื่อได้ว่า พ.ศ. ตามแบบที่เราใช้ในปัจจุบัน
นั้นคลาดเคลื่อนเร็วเกินจริงไป 48 ปี
ถ้าเรานับตามความเป็นจริงคือเอาปี พ.ศ. แบบที่เราใช้อยู่มาลดจำนวน
ปีลง 48 ปีแล้วนำมาเทียบกับปี พ.ศ. ตามในพุทธทำนายก็จะได้ปีนักษัตรที่
ตรงกับในพุทธทำนายพอดี หรือในทางกลับกันถ้าเรานำปี พ.ศ.ตามพุทธ
ทำนายมาบวกเพิ่มด้วย 48 ก็จะได้ปี พ.ศ. ตามแบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น
ในพุทธทำนายได้กล่าวเอาไว้ว่าปี พ.ศ. 2512 (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด 7
วัน 7 คืน เมื่อเราเอาปี พ.ศ.2512 มาบวกเพิ่ม 48 ปี ก็จะได้เป็นปี พ.ศ.
2560 ซึ่งตรงกับปีระกาตามในพุทธทำนาย
หากเราเอาจำนวนปี พ.ศ. ในคำทำนายมาแปลงเป็นปี พ.ศ.แบบที่เราใช้
ในปัจจุบันจะได้ดังนี้
๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คือประมาณปี พ.ศ. 2555
คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน
๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) คือประมาณปี พ.ศ. 2556
ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล
๒๕๑๒ (ปีระกา) คือประมาณปี พ.ศ. 2560
เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ
๒๕๑๒ (ปีจอ) คือประมาณปี พ.ศ. 2560 (ช่วงต่อปีระกา - ปีจอ)
พระจันทร์เริ่มเปล่งแสงฉายโลก
๒๕๑๓ - ๒๕๑๔ (ช่วงต่อปีจอ - ปีกุน) คือประมาณปี พ.ศ. 2561
พระธรรมมิกราชจะเสด็จมา
๒๕๑๕ (ปีชวด) คือประมาณปี พ.ศ. 2563
พวกอธรรมจะหมดไป (กลับเป็นปกติสุข "ยุคชาววิไล")
เทียบปีนักษัตรสำหรับปี พ.ศ. ในแบบปัจจุบัน
(เพื่อใช้ประกอบการอ่านคำทำนาย)
13 เม.ย. 2555 – 12 เม.ย. 2556 ตรงกับปีมะโรง
13 เม.ย. 2556 – 12 เม.ย. 2557 ตรงกับปีมะเส็ง
13 เม.ย. 2557 – 12 เม.ย. 2558 ตรงกับปีมะเมีย
13 เม.ย. 2558 – 12 เม.ย. 2559 ตรงกับปีมะแม
13 เม.ย. 2559 – 12 เม.ย. 2560 ตรงกับปีวอก
13 เม.ย. 2560 – 12 เม.ย. 2561 ตรงกับปีระกา
13 เม.ย. 2561 – 12 เม.ย. 2562 ตรงกับปีจอ
13 เม.ย. 2562 – 12 เม.ย. 2563 ตรงกับปีกุน
13 เม.ย. 2563 – 12 เม.ย. 2564 ตรงกับปีชวด
- จบ -
ส.ค.ส พระราชทาน
(ภาคผนวก)
ปู่ฤษีมณีรัตน์ (สมเด็จรุ่ง) ค้นพบ
“หนังสืออินทร์ตก-เทพทำนาย” (โดยย่อ)
หนังสือใบลานสี ได้ถูกตกมาในวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอัตตะบือ (ประเทศลาว)
ข้าพเจ้าได้รับรู้จากพระอาจารย์ผู้ทรงศีลองค์หนึ่งเผยแพร่ให้ เลยเกิดความศรัทธาเสียสละ
ทรัพย์พิมพ์แจกจ่ายมายังพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นกุศลและเพื่อพิจารณาญาณด้วย
ตนเองถึงเหตุการณ์มหันตภัยของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ซึ่งจะบังเกิดขึ้นตามพุทธทำนายไว้
ดังนี้
โลชังชม โทโพโส อินโตกรุณา
พระอินทร์ พระพรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดได้รู้แจ้งจงรีบบอกให้คนอื่น
ฟัง หรือพิมพ์แจกตามกำลังศรัทธาจะเกิดมหากุศลช่วยให้ท่านได้หลุดพ้นจาก มหันตภัย
ทั้งปวง ถ้าบุคคลจะลงมาเกิดพร้อมทั้งหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าใครไม่มีไว้ในบ้านเรือน
จะมีภูตผีปีศาจเข้ามาทำลายอย่างถ่องแท้
ในปีจอถึงปีกุน เมื่อคืนเดือนหงายจะมีงูพิษเหนือศีรษะ ฉกกัดให้ถึงตายและผู้คน
ทั้งหลายจะเกิดความเดือดร้อนหลายประการ
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนศึกสงครามบ่แล้ว
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนน้ำและไฟ
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนบ่มีไผสิเบิ่งไผ
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนอึดข้าวปลาอาหาร
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนผัวเมียบ่เห็นหน้ากัน
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนมีคนตายตามทุ่งนา
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนบ่มีผู้เฒ่า
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนไปต่างประเทศบ่สะดวก
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนนอนบ่หลับ
ในปีจอนี้ในเมืองจันทร์จะมีฤาษีองค์ทองดำ สิขาลาเพศออกมาเป็นพ่อค้า ในปีจอ
ขึ้น 8 ค่ำ ห้ามบ่ให้ตักน้ำอาบ น้ำกิน ตามห้วย หนอง คลอง บึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน
(ก่อนค่ำ) พระยายมราชจะนำเอายาพิษพ่นใส่โลกมนุษย์
ในปีจอเมืองกรุงเทพจะแตกพังทลายตอนเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกตหัวเชียงเมี้ยง
ข้าวเม็ดใหญ่จะกลับสู่เวียงจันทร์ นี่คือคาถาของพระอินทร์ พรหม ยมราชได้เขียนไว้บน
ใบลาน จงเก็บรักษาไว้ให้ดีเพื่อช่วยหลุดพ้นจากภัยพิบัติได้ในยามเกิดเหตุการณ์มหันตภัย
พระคาถาเขียนไว้ว่า
ปะโต เมตัง ปะระชีวินัง สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นิพพานัง สุคะโต จุติ
(บางฉบับว่า... ปะโต เมตัง ปะละชิมิมัง สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นินะนัง สุคะโต จุติ)
พระคาถาบทนี้เขียนลงในใบลาน แผ่นทอง หรือแผ่นผ้าก็ดี ติดไว้ที่ประตูบ้านหรือ
ในรถหรือโพกศีรษะ ยามเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้หลุดพ้นจากภัยอันตราย
ในกาลเวลานี้ เทพเจ้าเหล่าเทวดาผู้รักษาคุ้มครองโลกได้กราบทูลต่อพระอินทร์ว่า
โลกมนุษย์ทำกุศลเพียง 3 ส่วน ทำบาปกรรมถึง 7 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้องค์อินทร์จะสั่ง
ลงโทษมนุษย์ผู้ใจบาปถึง 9 ข้อ นับแต่ปีจอถึงปีกุน ดังนี้
1. จะเกิดพายุลมแรง แผ่นดินไหว
2. จะเกิดอัคคีภัย
3. จะเกิดอุทกภัย
4. จะเกิดฟ้าผ่า
5. จะเกิดร้อนเกินไป หนาวเกินไป
6. จะเกิดสารพิษต่างๆ
7. จะเกิดกาฬโรคต่างๆ
8. จะเกิดข้าวยาก หมากแพง
9. จะเกิดอาฆาตพยาบาทเบียดเบียนกันเอง
มหันตภัย 9 อย่างนี้จะหลุดพ้นได้เฉพาะผู้มีบุญ คนที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น หากผู้ใดรู้แล้วจงบอกต่อกันไปให้รีบทำความดีมากๆ ถ้า
เลยปีจอ ปีกุนไปแล้ว ทุกคนพร้อมทั้งลูกหลานจะได้รับความสุขกายสบายใจทุกคนให้ทุก
คนเคร่งครัดในศีล 5
นอกจากหนังสืออินทร์ตก ที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีพระผู้ทรงศีลอีกองค์หนึ่งได้พบ
เห็นคำสอนที่จารึกไว้บนแผ่นศิลา ที่เพิ่งพบในภูเขาแห่งหนึ่งที่พระพุทธเจ้าได้เดินธุดงค์
วิปัสสนากรรมฐานผ่านไป พระผู้ทรงศีลกล่าวว่า พี่น้องทั้งหลายถ้าไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่
ดวงจิต เพราะถึงเวลาแล้วที่สวรรค์จะไม่มีความลับ ถ้าเชื่อก็เป็นกุศล รู้เพียงเทา่ นี้ขา้ พเจ้า
จึงขอบอกเล่าสู่ท่านฟังตามคำกล่าวของพระผู้ทรงศีลรูปนี้ว่า ในแผ่นศิลาเขียนโดยพระ
มหากัสสะปะว่าในปีระกา ปีจอ ปีกุน เดือน 7 - 8 จะเกิดเหตุการณ์ร้ายบนถนนหนทาง
ในเดือน 9 - 10 คนใจบาปจะถูกล้างผลาญให้หมดไป มีบ้านแต่ไม่มีคนอยู่ มีข้าวแต่ไม่
มีคนกิน มีทางแต่ไม่มีคนเดิน
สุดท้าย พระผู้ทรงศีลได้กล่าวย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหนังสืออินทร์ตกเพิ่มเติมว่า
ถ้าท่านเคารพบูชา หรือบนว่าจะบอกแก่ผู้อื่นหรือพิมพ์แจกจ่ายให้สาธุชนทั้งหลายได้รับรู้
แล้วท่านปรารถนาสิ่งใดก็จะได้สมใจ จึงปราศจากภัยพิบัติทั้งปวงตลอดไป
พบพระผู้มี "อภิญญา" มีฤทธิ์มาก
ท่านฝากเตือนมาว่า เวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว (ก่อน พ.ศ. 2560)
คัดข้อมูลบางส่วนจากข้อความของ นางสาว เปรมสุดา (เมย์)
พบพระผู้มีอภิญญาฤทธิ์นามว่า"หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านฝากเตือนมาว่าเวลาของ
โลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว น่าสงสารสัตว์โลก พระผู้มีอภิญญาฤทธิ์ ลูกศิษย์เรียกท่านว่า
"หลวงปู่ประเสริฐ" สำนักสงฆ์ของท่านอยู่ติดกับ "วัดซับปลากั้ง"
"หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านมีอภิญญาสูง มีฤทธิ์มาก เมย์เห็นมากับตาหลายครั้งและ
ลูกศิษย์ก็เห็นมาหลายคน แต่วันนี้เมย์จะไม่เล่าเรื่องอภิญญาของหลวงปู่ แต่เมย์จะเล่า
เรื่องวาระสุดท้ายของโลกมนุษย์ค่ะ หลวงปู่ท่านอายุน่าจะ 80 ปีได้ค่ะ รูปร่างสูงสง่างาม
(น่าจะสูงเกิน 180 ซม.) ดูท่านใจดี ลักษณะการเดินของท่านดูสูงส่งมากค่ะ (เดินสง่างาม
น่าเลื่อมใส อธิบายไม่ถูก) น้ำเสียงที่นุ่มนวล ท่านบอกกับทุกคนว่า "เอาล่ะนะ" ถึงเวลาที่
ฉันจะบอกเรื่องสำคัญล่ะนะ ทุกคนตั้งใจฟังให้ดีๆ แล้วไปเตือนผู้คนและคนอื่นๆ
ท่านก็เริ่มเทศนาว่า.......แท้จริงประเทศไทยและทุกประเทศทั่วโลก น่าจะพบกับ
ความหายนะครั้งใหญ่จากภัยธรรมชาติใหญ่ ซึ่งผู้คนต้องตายเกือบหมดโลกตั้งแต่ พ.ศ.
2545 แต่ที่มันไม่เกิดก็เพราะว่ามีพระผู้ทรงอิทธิฤทธิ์หลายท่าน รวมไปถึงเทวดาผู้รักษา
โลกมนุษย์ช่วยกันอธิษฐานจิตให้เหตุการณ์ผ่านพ้นไปก่อน ซึ่งในความเป็นจริงมันได้แค่
เลื่อนออกไปเท่านั้น ยังไงๆ เหตุการณ์ภัยธรรมชาติใหญ่และความหายนะครั้งใหญ่ต้อง
เกิดขึ้นแน่นอน
นับแต่เวลานี้ พ.ศ. 2552 แรงอธิษฐานมันหมดกำลังลงแล้ว และจะไม่สามารถ
อธิษฐานเลื่อนได้อีกแล้ว ต่อจากนี้ไปภัยธรรมชาติและความหายนะครั้งใหญ่จะค่อยๆ
ปรากฏตัวเพิ่มมากขึ้นๆมากขึ้นๆ โดยเริ่มทีละน้อยจาก พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป จะค่อยๆทวี
ความรุนแรงขึ้นๆ สารพัดภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว, พายุ, ภูเขาไฟระเบิด, น้ำทะเลสูง
ท่วมแผ่นดิน, หมู่เกาะทั้งหมดจะจมใต้ทะเลทั้งหมดและสารพัดอย่างจะประดังเข้ามา ฯลฯ
ทุกอย่างจะจบสิ้นก่อนปี พ.ศ. 2560 มนุษย์ที่ศีลไม่ครบจะถูกภัยธรรมชาติใหญ่
คร่าชีวิตทั้งหมด และมนุษย์ที่รอดชีวิตนั้นมีไม่กี่คนเท่านั้น และคนที่รอดชีวิตส่วนมากจะ
เสียสติไปเลยเพราะตกใจกับเหตุการณ์แบบสุดชีวิต หลวงปู่บอกว่า เอายังงี้แล้วกันนะ คน
จะตายกันเกือบหมดโลกเลย แต่ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุด คือรอดประมาณ 20-30 %
ของประชากรไทย ไปคำนวณกันเอาเอง พูดง่ายๆ ตายเกือบหมดประเทศนั่นแหละ จะ
เหลือแค่คนมีศีลธรรมจริงๆ เท่านั้นเอง
หลังปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป มนุษยชาติจะเข้าสู่ยุคใหม่เรียกว่ายุคศิวิไลซ์เนื่องจาก
คนไทยจะเหลือมากที่สุด (20-30%) ต่อไปประเทศไทยจะได้เป็นมหาอำนาจ และเป็น
ศูนย์กลางของโลก เมื่อเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ผู้คนยุคนั้นจะเปลี่ยนทัศนะคติในการดำเนินชีวิต
ใหม่ทั้งหมด ในยุคนั้นผู้คนจะไม่สนใจเงินทองอีกเลย แต่จะมาแข่งขันในเรื่องของการ
บำเพ็ญบุญ-กุศล
ท่านว่าเวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว เหตุการณ์มันกำลังจะมาถึงแล้วนะ จะ
ทำอะไรก็รีบๆ ทำ เลิกใช้ชีวิตแบบโง่เขลาเบาปัญญาเสียที สิ่งที่จะติดตัวเราไปมีเพียง
บุญ-บาป เท่านั้น จำไปบอกต่อๆ กันด้วยนะลูกหลาน ขอให้เอาชีวิตรอดให้ได้นะ ฉันก็
มีเรื่องจะบอกเท่านี้นะ เจริญพร.......
หมายเหตุจากผู้เรียบเรียง : ปัจจุบันหลวงปู่มรณภาพแล้วแต่กายสังขารยังคงตั้งอยู่ที่วัดให้ผู้ศรัทธา
หลวงปู่ได้ไปกราบไหว้บูชา
พุทธทำนาย พ.ศ. 2555 - 2560
๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คือประมาณปี พ.ศ. 2555
คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน
๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) คือประมาณปี พ.ศ. 2556
ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล
๒๕๑๒ (ปีระกา) คือประมาณปี พ.ศ. 2560
เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ
๒๕๑๒ (ปีจอ) คือประมาณปี พ.ศ. 2560 (ช่วงต่อปีระกา - ปีจอ)
พระจันทร์เริ่มเปล่งแสงฉายโลก
๒๕๑๓ - ๒๕๑๔ (ช่วงต่อปีจอ - ปีกุน) คือประมาณปี พ.ศ. 2561
พระธรรมมิกราชจะเสด็จมา
๒๕๑๕ (ปีชวด) คือประมาณปี พ.ศ. 2563
พวกอธรรมจะหมดไป (กลับเป็นปกติสุข "ยุคชาววิไล")
เขียนโดย Admin ที่ 10:30:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: บทความ2012-2017
เช็ครายการอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพื่อเอาชีวิตรอดในภัยพิบัติ
วันอังคาร, พฤษภาคม 03, 2554เช็ครายการอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพื่อเอาชีวิตรอดในภัยพิบัติ
ให้แบ่งกระเป๋าออกเป็น 3 ใบ ทุกคนควรเตรียมกระเป๋าทั้ง 3 ใบนี้
ไว้ตลอดระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2555 - 2560) เราไม่รู้ว่าอาจจะต้องอพยพ
หรือย้ายที่หลบภัยเมื่อไหร่ แต่ต้องเตรียมพร้อมที่จะขนสัมภาระขึ้นรถ
เดินทางได้ทันทีภายใน 1 - 2 ชั่วโมงหลังจากที่ทราบข่าวว่าจะเกิดภัยพิบัติ
ในเขตที่เราอาศัยอยู่ แต่อาจไม่มีการเตือนภัยก็ได้ เสบียงที่เตรียมไว้และ
อุปกรณ์นั้นไม่แน่ว่าอาจจะได้ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 - 2556 หรืออาจต้อง
ใช้ในช่วงสุดท้ายของภัยพิบัติคือปี พ.ศ. 2560 ทุกคนควรมีกระเป๋า
สัมภาระส่วนตัวไว้เพราะหากผลัดหลงกันกับกลุ่มจะได้ไม่ลำบาก เผื่อทำ
กระเป๋าหายหรือตกน้ำก็ยังพออาศัยของคนที่เหลือในกลุ่มได้บ้าง ตรวจเช็ค
สิ่งที่เตรียมไว้เสมอ หากใกล้หมดอายุให้นำออกมาใช้และหาของใหม่มา
ทดแทน
1. กระเป๋าใบแรก ใบเล็กคาดเอว ติดตัวเสมอยามภัยพิบัติแม้ในเวลานอน
เผื่อกรณีฉุกเฉิน เช่น มีน้ำป่าหลากหรือน้ำท่วมฉับพลันซึ่งมักเกิดขณะนอน
หลับ หรืออาจผลัดตกน้ำขณะเผลอ ถ้าคว้าเป้สัมภาระไม่ทันอย่างน้อยก็ยัง
มีอุปกรณ์ที่จำเป็นติดตัวอยู่บ้าง ควรมีกระเป๋าชุดสำรองอีก 1 ชุดไว้ท้ายรถ
หรือในที่ทำงานด้วยเพราะไม่แน่ว่าอาจไม่มีโอกาสกลับไปเอาที่บ้าน
1.1 มีด มีดเป็นอุปกรณ์สำคัญ ควรมีมีดพับเอนกประสงค์หรือมีดพกที่คม
แข็งแรงไว้ใจได้ มีดพับเอนกประสงค์ใช้ประโยชน์ได้เยอะกว่ามีดธรรมดา
มีดพับเอนกประสงค์ของสวิสหรือที่เรียกว่ามีดสวิส ราคาประมาณ 1 พัน
บาทขึ้นไป ซื้อจากร้านทั่วไปหรือตามเว็บไซต์ถูกกว่าในห้าง มีดพับราคา
ถูกอันละไม่ถึง 100 บาทก็มี แต่ต้องทดสอบคุณภาพและความทนทานให้ดี
มีดพับเอนกประสงค์ควรมีใบเลื่อยด้วย หรือซื้อเลื่อยที่เป็นเส้นลวดต่างหาก
มีขายตามร้านขายอุปกรณ์เดินป่า ลองถามดูหลายๆร้าน ถ้าจะประหยัดก็แค่
มีดทำครัวเล็กๆแบบมีปลอกซ่อนคมสักเล่ม ถ้าเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Cast
Away หรือหนังสารคดี Man vs. Wild จะเห็นเลยว่ามีดเป็นอุปกรณ์ที่
จำเป็นมาก ถ้าไม่มีมีดก็ต้องหาเปลือกหอย กระดูกสัตว์ หรือก้อนหินเอามา
ทุบหรือกะเทาะให้คม
1.2 แท่งหินจุดไฟ ไฟเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แท่งหินจุดไฟดีกว่าไฟแช็คตรงที่
แม้จะตกน้ำก็ยังใช้ได้ ไม่ต้องกลัวน้ำมันหรือแก๊สในไฟแช๊คจะหมดแต่จะ
จุดยากกว่าถ้าไม่เคยใช้งานมาก่อน ลองดูวิดีโอวิธีการใช้แท่งหินจุดไฟใน
สารคดี Man vs. Wild หรือในเว็บไซต์ Youtube ราคาประมาณ 300 บาท
แต่ควรมีไฟแช็คติดกระเป๋าเผื่อไว้ด้วย ไม่แนะนำไม้ขีดไฟเพราะถ้าชื้นหรือ
เปียกน้ำก็ใช้ไม่ได้แล้ว การจุดไฟและเลี้ยงไฟเป็นทักษะพื้นฐานในการอยู่
รอด ไฟให้แสงสว่างและความอบอุ่นในยามที่อากาศหนาวจัดและป้องกัน
สัตว์ร้ายบางชนิดได้ แต่ไฟแย่งออกซิเจนต้องระวังอย่าจุดไฟในที่อากาศไม่
ถ่ายเท ก่อนจุดไฟขอให้แน่ใจว่าไม่มีแก๊ซรั่ว ถ้ามีที่หลบภัยแล้วอย่าลืมนึก
ถึงฟืนหรือเชื้อไฟสำหรับก่อไฟด้วย ลองหาความรู้เกี่ยวกับการก่อไฟแบบ
ต่างๆ เช่น การก่อไฟขณะฝนตก การก่อไฟให้มีควันเยอะๆ เพื่อส่ง
สัญญาณควัน
1.3 กระติกน้ำและหม้อสนาม เป็นอุปกรณ์ที่ทหารและนักเดินป่าใช้ ราคา
ประมาณ 500 บาท หาได้ตามร้านขายอุปกรณ์เดินป่าและตามเว็บไซต์
ในช่วงภัยพิบัตินั้นแหล่งน้ำบนดินตามธรรมชาติอาจปนเปื้อนสารพิษและมี
เชื้อโรคที่ทำให้ท้องร่วงอย่างรุนแรง ควรหาน้ำจากแหล่งน้ำใต้ดินและจาก
พืช ควรกรองและต้มน้ำก่อนดื่มทุกครั้ง
1.4 เครื่องกรองน้ำแบบพกพา เดี๋ยวนี้มีแบบหลอดซึ่งมีขนาดเล็กและเบา
สามารถกรองเชื้อโรคได้ด้วย ลองหาซื้อตามร้านขายอุปกรณ์เดินป่า ราคา
ประมาณ 500 บาทขึ้นไป ควรเป็นอุปกรณ์ที่มีไว้พกติดตัวคู่กับกระติกน้ำ
และหม้อสนาม แต่ถ้าพกไม่สะดวกก็ใส่ไว้ในเป้สะพายหลัง
1.5 เข็มทิศ เอาน้ำหนักเบา แต่ถ้าเล็กเกินไปไม่ดี ต้องเขย่าไล่ฟองอากาศ
ก่อนใช้ เข็มทิศบางรุ่นสามารถบอกอุณหภูมิได้ด้วย แต่ในช่วงภัยพิบัติเข็ม
ทิศอาจใช้ไม่ได้ถ้าสนามแม่เหล็กมีความผิดปกติ อาจต้องหาความรู้เกี่ยวกับ
การหาทิศจากธรรมชาติและการหาดาวเหนือไว้ด้วย
1.6 แผนที่ แผนที่ทางหลวง แผนที่ทั่วประเทศ แผนที่จังหวัดที่อยู่ปัจจุบัน
แผนที่จังหวัดที่วางแผนว่าจะอพยพไป เลือกแผนที่ซึ่งระบุความสูงของ
พื้นที่ด้วย จะได้รู้ว่าที่ไหนเป็นพื้นที่สูงหรือต่ำจากระดับน้ำทะเลมากน้อย
แค่ไหน ราคาประมาณฉบับละ 100 บาท ต้องมีเข็มทิศไว้ใช้ประกอบกัน
1.7 ไฟฉายที่ไม่ต้องใช้ถ่าน เป็นแบบที่ใช้มือหมุนเพื่อชาร์จไฟเก็บไว้ อัน
เล็กพกสะดวกราคาประมาณ 100 บาทขึ้นไป ไฟฉายแบบนี้ดีที่ไม่ต้อง
กังวลว่าถ่านหรือแบตเตอรี่จะหมด แต่แนะนำให้มีไฟฉายแบบที่ใช้ถ่านติด
ไว้ด้วยเผื่อกรณีฉุกเฉินต้องใช้รีบด่วน เช่น ต้องวิ่งหนีน้ำแล้วจะต้องมามัว
นั่งหมุนคงไม่ทันการณ์ เตรียมถ่านสำรองด้วย ควรเลือกถ่านแบบที่หา
เปลี่ยนง่ายๆ ถ่านก้อนจิ๋วอาจหาซื้อยากในต่างจังหวัด ไฟฉายแบบที่คาดหัว
ก็ดีเพราะทำให้มือทั้งสองข้างของเราว่าง หรืออาจดัดแปลงไฟฉายที่มีอยู่ให้
คาดหัวได้ แสงสว่างเป็นเครื่องให้ความอุ่นใจที่ดีในยามที่โลกอาจมืดมิด
ติดต่อกันนานหลายวันหลายเดือน ไฟฉายแบบตั้งโต๊ะเหมาะสำหรับการ
รวมกลุ่ม สภาพจิตอาจไม่ค่อยดีหากต้องอยู่ในที่มืดนานๆ ดังเช่นกรณีคนที่
ติดในเหมืองต้องอยู่ในที่มืดนานกว่า 2 เดือน ไฟฉายแบบอันใหญ่ๆสว่างดี
แต่เทอะทะไม่คล่องตัว ถ้าจะประหยัดก็เอาไฟฉายที่มีอยู่ไม่ต้องซื้อใหม่แต่
เตรียมถ่านสำรองไว้เปลี่ยนด้วย ไฟฉายควรกันน้ำหรือใส่ถุงพลาสติกใสไว้
เพื่อกันน้ำ
1.8 นกหวีด สำหรับเป่าขอความช่วยเหลือ นกหวีดยี่ห้อดีๆอาจมีราคาสูงถึง
ตัวละ 200 กว่าบาท แต่เสียงจะดังไปไกลมาก ใช้แรงเป่าน้อยแต่เสียงดัง
ดีกว่าตะโกน นกหวีดที่ดีจะเป่าให้มีเสียงได้แม้มันเปียกน้ำ
1.9 กระจกเงา สะท้อนแสงเพื่อส่งสัญญาณความช่วยเหลือ สะท้อนแสงให้
เห็นแต่ไกลแม้คนบนเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยกู้ภัย ใช้กระจก
เงาธรรมดาหรือจะซื้อกระจกที่ทำไว้โดยเฉพาะก็ได้ อาจประยุกต์ใช้สิ่งของ
ที่เงาวาวเพื่อสะท้อนแสง เช่น มีด แผ่นซีดี เงาสะท้อนบนบัตร ATM
1.10 ชุดชูชีพ เพื่อการลอยตัวในน้ำแม้ว่าจะว่ายน้ำคล่องก็ต้องมีไว้ เพราะ
อาจต้องลอยคอและรอคอยความช่วยเหลือเป็นเวลานาน ในช่วงวิกฤติอาจ
ต้องใส่นอนเพราะน้ำท่วมฉับพลันอาจเกิดขึ้นในขณะกำลังนอนหลับ ราคา
ประมาณ 400 - 500 บาท ถ้ามีเรือเตรียมไว้ด้วยยิ่งดี ราคาประมาณ 3,000
บาทขึ้นไป ปัญหาเมื่อมีภัยน้ำท่วมคือออกไปขอความช่วยเหลือไม่ได้
1.11 มีดใหญ่ (มีดเดินป่า) และอาวุธป้องกันตัว เช่น หอก ปืน ธนูหน้าไม้
แต่ไม่แนะนำเครื่องช๊อตไฟฟ้า เพราะต้องรู้วิธีช๊อตให้ถูกจุดในร่างกายจึง
ได้ผลและต้องใช้ระยะประชิดตัว ใช้สเปรย์พริกไทยจะดีกว่า อาวุธมีไว้
เพื่อป้องกันไม่ใช่เพื่อขู่ ถ้าใช้ขู่ระวังจะโดนแย่ง ป้องกันตัวแล้วหนีไม่ใช่มี
ไว้ลุยสู้เพื่อฆ่าชีวิตเป็นการเบียดเบียนกัน หากโดนสเปรย์พริกไทยให้ใช้
ของเหลวที่มีไขมัน เช่น นมชนิดไม่พร่องมันเนยล้างหน้า มีดใหญ่มีไว้
ป้องกันภัยและใช้ผ่าฟืน ถ้ามีปืนและลูกกระสุนไว้ป้องกันตัวด้วยจะดีมาก
1.12 ไม้ยาวๆสักอันมีประโยชน์มาก เช่น ใช้เอาไว้ไล่งู ขู่หมา ผูกกับมีดก็
จะกลายเป็นหอก ใช้พยุงตัว ทำคานหามสัมภาระ แขวนหม้อสนามเวลาหุง
ข้าว ทำราวตากผ้า ใช้เกาะแทนเชือกได้ในบางกรณี เวลาช่วยคนจมน้ำต้อง
ใช้อุปกรณ์ เช่น โยนเชือกให้หรือยื่นไม้ให้เขาจับ อย่าเอาตัวเราเข้าไปให้จับ
เพราะเป็นอันตรายถึงชีวิต ใช้ไม้หยั่งพื้นเวลาลุยน้ำดูว่าน้ำตื้นหรือลึก ใต้น้ำ
อาจมีหลุมหรือท่อ บางครั้งพื้นดินที่อยู่ใต้น้ำอาจทรุดตัวลงเป็นหลุม
1.13 กล้องส่องทางไกล อาจไม่จำเป็นแต่ถ้ามีจะดีมากเพราะช่วยให้เราได้รู้
สถานการณ์รอบๆที่หลบภัยและในพื้นที่ไกลๆว่าทางข้างหน้ามีอันตรายจาก
ภัยธรรมชาติหรือภัยจากคนร้ายที่ดักซุ่มรอปล้นชิงหรือไม่ ราคาประมาณ
2,000 บาทขึ้นไป
1.14 พระเครื่องหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นกำลังใจ พระเครื่องนำมาแช่ในน้ำ
สวดมนต์ขอพึ่งบารมีพระพุทธเจ้าเพื่อทำน้ำมนต์ขับไล่โรคภัยความเจ็บป่วย
และสิ่งชั่วร้าย แนะนำพระที่สร้างโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำหรือตามที่เชื่อถือ
ศรัทธา ในพุทธทำนายให้เขียนอักษรพระคาถาลงบนผ้าขาวว่า " หิตะชิรา
ทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน " ใช้ติด
ไว้ที่หน้าบ้าน หัวนอน พันศีรษะ ในยามคับขันคนที่รอดมักเป็นคนที่มีสติ
และมีกำลังใจดี ในเรื่องพระมหาชนกท่านมีสติ ไม่ร้องไห้ ไม่คร่ำครวญ
ท่านมีความเพียรและทรงสมาทานศีล 8 ในวันพระ แม้ในขณะว่ายน้ำอยู่
ในมหาสมุทร จนกระทั่งเทพธิดาชื่อมณีเมขลามาช่วยไว้ แสดงให้เห็นว่าผู้
มีความเพียร มีศีล มีกำลังใจ มีสติอาจรอดพ้นจากภัยพิบัติ พุทธทำนาย
ยังระบุด้วยว่าคนที่มีศีลครบบริสุทธิ์ จิตใจมีเมตตากรุณาไม่ประทุษร้ายผู้อื่น
จึงจะรอดพ้นภัยพิบัติ จึงให้หมั่นสวดมนต์ อาราธนาศีล 5 หรือศีล 8 มี
ความเคารพในพระรัตนตรัย
1.15 หนังสือสวดมนต์เล่มเล็กๆหรือเป็นแผ่นพับเล็กๆ คาถาพาหุงมหากา
ชินบัญชร อุปปะสันติ หนังสือรวมบทสวดพระสูตรและพระปริตรต่างๆที่มี
พุทธคุณต่างกัน เช่น รัตนสูตรใช้ทำน้ำมนต์ ขันธปริตรช่วยป้องกันงูและ
สัตว์มีพิษ เป็นต้น การสวดมนต์ในครอบครัวยามมีภัยพิบัติคืออาจล้อมวง
กันแล้วสวดมนต์ไปพร้อมๆกัน บทอิติปิโสภะคะวา สวดง่ายและศักดิ์สิทธิ์
แต่อย่าคิดว่าสวดมนต์แล้วอยู่เฉยๆจะปลอดภัย ถ้าภัยมาก็ต้องแก้ไขด้วยสติ
และความเพียรเช่นพระมหาชนกเป็นตัวอย่าง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมช่วยผู้ที่คิด
จะช่วยเหลือตัวเองก่อน การสวดมนต์ช่วยให้มีสติป้องกันจิตไม่ให้ฟุ้งซ่าน
หรือเสียสติเวลาที่พบกับสถานการณ์ที่บีบคั้น จิตคนเราที่ฟุ้งซ่านจะเป็นบ้า
ได้ง่ายๆ ดังเช่นเหยื่อที่รอดชีวิตจากภัยสึนามิและคนงานในเหมืองที่ชิลี ยัง
มีพุทธทำนายว่าให้ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมและยึดถือคาถาของอาตมาจะ
พ้นภัยพิบัติให้เจริญภาวนาดังนี้ " หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละ
สา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน "
1.16 อุปกรณ์ของใช้อื่นๆ ที่จำเป็น เช่น หน้ากากปิดจมูกป้องกันเขม่าควัน
แว่นตาว่ายน้ำใช้ป้องกันควันไฟ ลมแรงพัดฝุ่นละอองเข้าตา หรือเวลาต้อง
ลอยคออยู่ในน้ำนานๆ ยาแก้โรคประจำตัว แว่นสายตา นาฬิกากันน้ำแบบ
เข็มไม่ใช่แบบดิจิตอลเพราะอาจเสียได้จากพายุสุริยะ ช้อนกินข้าว พลั่ว
สนามขนาดเล็ก กระดาษทิชชู่ ผ้าอ้อม ของใช้สำหรับเด็ก ผ้าสามเหลี่ยม
แบบที่ลูกเสือใช้ ผ้าสารพัดประโยชน์ที่สุดคือผ้าขาวม้า มีผู้แนะนำให้
เตรียมที่อุดหูกันเสียงเพราะอาจมีเสียงดังมากเกิดขึ้นทำให้เสียงขวัญหรือเสีย
สติ อาจเป็นเสียงของระเบิดหรือเสียงธรรมชาติเตือนก่อนเกิดแผ่นดินไหว
ครั้งใหญ่
1.17 เงินสดและทองคำ ถอนเงินจากธนาคารแล้วแปลงเป็นเสบียงอาหาร
หรือทองคำ มีแนวโน้มว่าเงินอาจจะมีค่าน้อยลงหรือกลายเป็นเศษกระดาษ
ควรขายหุ้นและแชร์ ควรมีเงินสดไว้บ้างเผื่อจำเป็นต้องใช้ระหว่างเดินทาง
เพื่อซื้อของใช้ เสบียงอาหาร เติมน้ำมัน ส่วนบัตรเครดิตและ ATM อาจ
หมดประโยชน์
อุปกรณ์ที่อาจเสียหายเมื่อโดนน้ำให้เก็บในถุงพลาสติกใสกันน้ำ เช่น
ถุงแบบ Zip Lock หรือใส่ถุงแล้วมัดหนังยางกันน้ำเข้าก่อนใส่ในกระเป๋า
สัมภาระ ควรเก็บของให้เป็นหมวดหมู่และเลือกใช้ถุงพลาสติกใสเก็บของ
เพื่อสะดวกเวลามองหาสิ่งของที่เก็บไว้ได้ง่ายเวลาต้องรีบหยิบใช้ หลีกเลี่ยง
การลุยน้ำและตากฝนเพราะจะมีสารเคมีและเชื้อโรค ถ้าต้องเดินลุยน้ำต้อง
ใช้ถุงพลาสติกใส่เป็นถุงเท้าก่อนจะใส่รองเท้าเพื่อป้องกันโรค เช่น โรคน้ำ
กัดเท้าและโรคร้ายแรงอื่นๆ หลังจากนั้นให้ใช้ด่างทับทิมชำระล้างร่างกาย
ทุกครั้ง ในการเดินให้ใช้ไม้หยั่งดูพื้นใต้น้ำว่าปลอดภัยหรือไม่ พื้นอาจมี
หลุมมีบ่อมีท่อหรือพื้นทรุดตัว ต้องระวังงู ตะขาบ สัตว์มีพิษ รวมถึง
จระเข้ที่อาจหลุดออกมาจากฟาร์มด้วย
หากเป็นไปได้ควรมีอุปกรณ์ที่จำเป็นและมีขนาดเล็ก เช่น มีดพับ
เอนกประสงค์ แท่งหินจุดไฟหรือไฟแช๊ค ไฟฉาย เข็มทิศ แผนที่
นกหวีด กระจก ควรมีไว้ติดตัวเสมอ ส่วนกระติกน้ำ หม้อสนามและ
อื่นๆควรใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ติดท้ายรถหรือมีเก็บไว้ในที่ทำงาน เพราะไม่
แน่ว่าเราอาจไม่มีเวลาหรือไม่มีโอกาสกลับไปเอาสัมภาระที่เตรียมไว้ที่บ้าน
ถ้ามีอุปกรณ์แต่ไม่มีความรู้ในการประยุกต์ อุปกรณ์ก็อาจไร้ประโยชน์
แนะนำให้ดูสารคดี Man vs. Wild (มีขายในอินเทอร์เน็ต) จะเห็นว่าสิ่งที่
ผู้เชี่ยวชาญในรายการต้องมีติดตัวเสมอขาดไม่ได้เลยคือ มีดพับ แท่งหินจุด
ไฟ กระติกน้ำและหม้อสนาม (แต่สำหรับคนธรรมดาอย่างพวกเราอาจต้อง
ขอเพิ่มไฟแช๊ค ไฟฉาย เครื่องกรองน้ำ ยาฆ่าเชื้อโรคในน้ำและอื่นๆ)
เทคนิคที่สำคัญคือการขึ้นที่สูงเช่นต้นไม้หรือภูเขาเพื่อสำรวจสภาพโดยรอบ
ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและควรไปทางไหน ควรไปในที่มีแหล่งน้ำ ที่ไหนมีน้ำ
ที่นั่นคือโอกาสรอดเพราะจะมีแหล่งชุมชน ทักษะที่สำคัญคือการจุดไฟ
หาอาหาร หาแหล่งน้ำ อย่าทำอะไรเสี่ยงๆ ให้หลบในที่มั่นคงอบอุ่นและ
ปลอดภัยเพื่อมีชีวิตรอดให้นานที่สุดจนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือ เช่น
ในหนังเรื่อง The Day After Tomorrow อย่าลืมส่งสัญญาณขอความ
ช่วยเหลือด้วย สัญญาณควันไฟ สัญญาณแสง สัญญาณเสียง แต่ใน
ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับภัยพิบัติมักแสดงให้เห็นว่าการเจอกับคนก็อาจไม่โชคดี
เสมอไป เขาอาจมาช่วยเหลือหรืออาจมาซ้ำเติมก็ได้ ความอดอยากอาจทำ
ให้คนบางคนกลายเป็นโจรปล้นชิงในยามที่บ้านเมืองกำลังวุ่นวาย
การเลือกอุปกรณ์มีหลักดังนี้คือ เรามีเงินพอที่จะซื้อ (อันนี้สำคัญที่สุด)
อุปกรณ์เล็กเบากะทัดรัดแต่เชื่อถือได้ว่าทนทานพอควร สามารถใช้งานได้
จริงควรทดสอบใช้ดูก่อน ไม่ใช่ซื้อมาแล้วไม่เคยทดสอบเลยหรือใช้ไม่เป็น
หลีกเลี่ยงอุปกรณ์ที่เป็นดิจิตอล อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ที่ต้องชาร์จ
ไฟ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ถ่านแบตเตอรี่ อุปกรณ์ดังกล่าวเหล่านี้อาจมีไว้ใช้แต่
ไม่ควรคาดหวังว่าจะมีโอกาสได้ใช้ไปตลอด เพราะเรายังไม่รู้ว่าหนทาง
ข้างหน้าจะมีไฟฟ้าหรือมีถ่านแบตเตอรี่เปลี่ยนหรือเปล่า ระบบไฟฟ้าและ
ระบบการสื่อสารในเขตภัยพิบัติมักใช้การไม่ได้ ไม่ควรหวังว่าจะได้ชาร์จ
ไฟจากรถยนต์เพราะอาจต้องจอดรถทิ้งไว้
รถยนต์ที่มีอาจต้องจอดทิ้งไว้เพราะการจราจรอาจติดขัดมากจนบางคน
จอดรถทิ้งขวางทางไว้ จนในที่สุดทุกคนก็อาจต้องจอดรถทิ้งไว้เหมือนกัน
หมด เสาไฟฟ้าหรือต้นไม้อาจล้มขวางทาง ถนนหนทางก็อาจเสียหายหรือ
น้ำท่วมจนใช้การไม่ได้ สภาพอากาศอาจแย่มากจนมองไม่เห็นหรือถนน
ลื่นจนเกิดอุบัติเหตุกีดขวางถนน รถที่ใช้ได้ดีน่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์แต่ต้อง
เตรียมน้ำมันสำรองและต้องพยายามวิ่งเลี่ยงฝูงชน เพราะอาจโดนทำร้าย
เพื่อชิงรถได้ เห็นได้จากภาพยนตร์เรื่อง War of the World ควรเตรียมสิ่ง
ต่างๆให้พร้อมแต่ไม่ควรทำให้โดดเด่นล่อตาพวกโจร นอกจากนี้ยังอาจ
ต้องเตรียมเรือไว้เป็นยานพาหนะช่วยให้ปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้าที่รั่วจาก
สายไฟที่ขาดตกลงไปในน้ำ
ระวังอุปกรณ์ที่เป็นแบบสารพัดประโยชน์ในเครื่องเดียว ตัวอย่างเช่น
อุปกรณ์ที่เป็นทั้งไฟฉาย ไฟฉุกเฉิน มีด วิทยุ เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ ข้อดี
คือเอนกประสงค์แต่ข้อเสียคือ ถ้าหากพังหรือสูญหายก็หมายความว่ามันจะ
เสียหายใช้การไม่ได้เกือบทั้งหมด ดังนั้นอุปกรณ์ใดที่คิดว่ามีความจำเป็น
มากๆ ควรมีชุดสำรองแยกเก็บไว้ในที่ปลอดภัยใส่ในถุงพลาสติกใสกันน้ำ
2. กระเป๋าใบที่สอง เป้แบบสะพายหลัง เป็นเป้สัมภาระที่ใช้สะพายหลัง
เพื่อที่มือทั้งสองข้างจะได้ว่างเอาไว้ปีนป่ายหรือยึดเกาะสิ่งต่างๆ เป้ใบนี้ใช้
เพื่อบรรทุกอุปกรณ์ที่มีความสำคัญรองลงมา หรือของสำคัญที่ใหญ่เกินกว่า
จะใส่กระเป๋าคาดเอวใบแรกได้ กระเป๋าใบนี้อาจมีความจำเป็นต้องสละทิ้ง
หรือเอาของบางอย่างทิ้งในยามคับขันเพื่อให้คล่องตัว ของทุกอย่างควร
แยกใส่ถุงพลาสติกใสกันน้ำ แบ่งเป็นหมวดหมู่เพื่อความรวดเร็วในการ
หยิบมาใช้ หรือเพื่อสะดวกในการหยิบทิ้งเมื่อต้องการความคล่องตัว ต้อง
แน่ใจว่ากระเป๋าเป้รับน้ำหนักสัมภาระไหว กระเป๋าเป้ขาดเป็นเรื่องยุ่งยาก
ในการเดินทาง
2.1 เครื่องกรองน้ำแบบพกพา ถ้าเอามาใส่ในเป้สะพายหลัง ควรมีกล่อง
เหล็กหรือกล่องพลาสติกกันแตกหักจากการถูกกระแทกในระหว่างหลบภัย
2.2 ชุดอุปกรณ์สำรองเผื่อชำรุดสูญหาย ได้แก่อุปกรณ์สำคัญคือ มีดพับ
แท่งหินจุดไฟหรือไฟแช๊ค ไฟฉาย นกหวีด กระจก เข็มทิศและอื่นๆของ
พวกนี้เล็กจึงอาจโดนยืมหรือหล่นหายง่ายๆ แต่เนื่องจากมันเล็กและเบา
ดังนั้นถ้าจะมีชุดสำรองอีกสักหนึ่งชุดก็คงไม่เป็นภาระและให้ความอุ่นใจ
2.3 กระเป๋ายา กระเป๋าเล็กที่บรรจุสิ่งที่เกี่ยวกับสุขภาพและการปฐมพยาบาล
เบื้องต้น เช่น ยาแก้ท้องร่วง เกลือแร่ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาใส่แผลสด
ผ้าพันแผล สำลี พลาสเตอร์ปิดแผล กรรไกร ถุงมือยางกันติดเชื้อ ยาฆ่า
เชื้อโรคในน้ำสำหรับดื่ม ยาหยอดตาแก้โรคตาแดง ยาแก้เท้าเปื่อยน้ำกัดเท้า
ยาแก้แมลงสัตว์กัดต่อย ยาทากันยุง ยาเส้นหรือยาฉุนช่วยห้ามเลือดได้ ถ้า
ใช้ผสมน้ำทาตัวช่วยไล่ยุง แมลงและทาก เมื่อน้ำท่วมยุงจะชุมและดุ งูและ
สัตว์มีพิษจะหนีน้ำออกมา ควรมีอาหารเสริมประเภทวิตามินรวม สาหร่าย
น้ำมันรำข้าว ของทั้งหมดอย่าลืมใส่ในถุงพลาสติกใสกันน้ำ ครีมทาผิว
ป้องกันผิวแห้งแตกจากอากาศหนาว (ผิวแตกแล้วมีอาการคันและเจ็บตาม
ผิวหนัง) ด่างทับทิมและคาราไมล์ควรมีไว้เป็นจำนวนมาก มีคำแนะนำว่า
ในช่วงที่มีภัยพิบัติให้ใช้ด่างทับทิมล้างผักผลไม้ก่อนทานทุกครั้ง ส่วนคา
ราไมล์จะช่วยรักษาโรคทางผิวหนังที่เกิดในช่วงภัยพิบัติได้อย่างมหัศจรรย์
2.4 เสื้อกันฝนและเสื้อกันหนาวแบบหนาที่สุด แบบที่นักปีนภูเขาหิมะหรือ
นักเล่นสกีหิมะใช้ หรืออาจเตรียมเสื้อผ้าเนื้อหนาหลายตัว อากาศตอนนั้น
อาจจะหนาวจนใกล้ติดลบ เริ่มหนาวมากเมื่อไหร่ก็เอาออกมาใส่ ช่วงนั้น
ต้องระวังโดนปล้นชิงเสื้อกันหนาวด้วย เคยดูในภาพยนตร์เรื่อง The Road
อย่าทอดทิ้งวางไว้ เก็บซ่อนให้ดีเมื่อจำเป็นจึงนำมาใช้ ควรใส่ถุงพลาสติก
ใสกันเปียกน้ำไว้ เพราะถ้าทำเป้ตกน้ำหรือทั้งคนทั้งเป้ตกน้ำล่ะเรื่องใหญ่
แน่เพราะมันจะอุ้มน้ำและหนักสุดๆ
2.5 ผ้าห่มอวกาศหรือ Space Blanket ราคาไม่กี่ร้อยบาทแต่อาจหาซื้อยาก
ต้องสั่งซื้อจากทางอินเทอร์เน็ตเพราะในเมืองไทยไม่ค่อยนิยม ข้อดีคือมี
น้ำหนักเบาและเก็บความร้อนของร่างกายดีมากๆ สะดวกดีที่น้ำหนักเบา
เพราะเสื้อกันหนาวที่หนาจะมีน้ำหนักมาก ถ้าเปียกน้ำจะต้องตากหลายวัน
กว่าจะแห้งจึงควรมีผ้าห่มอวกาศติดไว้ด้วย ตามร้านประเภทที่ขายของทุก
ชิ้นในร้าน 60 บาทก็มีขายแต่อาจใช้ไม่ค่อยทน ถ้าหาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
ให้ใช้เทคนิคจากในภาพยนตร์เรื่อง The Day After Tomorrow เอาถุงขนม
ประเภทมันฝรั่ง ถุงดำใส่ขยะหรือกระดาษมายัดไว้ในเสื้อเป็นชนวนรักษา
ความร้อนของร่างกายได้เช่นกัน
2.6 ถุงนอนหรือเต๊นท์ ดีกันไปคนละแบบ ลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต
มีเอาไว้ในกรณีต้องย้ายออกจากที่หลบภัย เมื่อพบว่ามันอาจไม่ปลอดภัยอีก
ต่อไป ที่สำคัญคือพยายามเลือกแบบที่อบอุ่นและเล็กมีน้ำหนักเบา จำไว้
เสมอว่าอุปกรณ์ทุกชนิดต่อให้ดีเลิศขนาดไหน แต่ถ้ามันหนักหรือเกะกะ
เกินไปก็อาจทำให้เราต้องจำใจทิ้งไป เพราะมันจะเป็นตัวถ่วงในการเอาชีวิต
รอด ของที่ดีคือของที่เรามีโอกาสได้ใช้ ไม่ใช่ของที่เราต้องกองทิ้งไว้
2.7 ผ้าใบหรือฟลายชีต ใช้ทำที่พักชั่วคราว ทำหลังคาบังลมกันฝนกันแดด
เผื่อแผ่คนอื่นได้ดีกว่าถุงนอนและเต๊นท์ ใช้ปูพื้นรองนอนได้ด้วย การปูพื้น
ก่อนนอนนั้นมีความจำเป็น เนื่องจากร่างกายจะสูญเสียความร้อนออกไป
มากถ้าเรานอนบนพื้นเย็นๆที่ไม่ได้ปูผ้ารอง ถ้าไม่มีอย่างน้อยก็ต้องหาเศษ
หญ้าหรือใบไม้แห้งมาปูทำเป็นชนวนรักษาความร้อนในร่างกาย
2.8 แพยาง ห่วงยางเป่าลม มีไว้สำรองแทนชุดชูชีพ มีไว้ไม่หนักกระเป๋า
เวลาจะใช้ก็ค่อยเป่าลมเข้าไป เผื่อได้ช่วยเหลือคนอื่นด้วย อันนี้ใช้ในกรณี
ไม่ฉุกเฉิน เรายังคงต้องมีชุดชูชีพติดตัวไว้ด้วย
2.9 พลุสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่เวลาจุดแล้วไม่ควรถือไว้เพราะอาจมี
อันตราย ของจีนแดงมีประกายไฟหรืออาจระเบิดได้ ให้ปักไว้ที่พื้น
2.10 อาหารและน้ำดื่ม กะปริมาณเท่าที่พอจะแบกได้ อาจจะเตรียมสำหรับ
7 วันหรืออย่างน้อยคือเพียงพอสำหรับ 3 วัน เพื่อรอความช่วยเหลือ แบก
หนักมากไปก็ไม่ดีมันจะถ่วงเดินลำบาก เดินไม่ไกล วิ่งไม่ไหว และปวด
เมื่อยตัว อาหารที่เราเก็บตุนไว้แต่แบกไม่ไหวนั้นเราจะแบ่งเอาไปใส่ใน
กระเป๋าใบที่ 3 ซึ่งมีล้อเลื่อน ถ้าน้ำท่วมก็ยกเอากระเป๋าวางบนสิ่งของที่
ลอยน้ำได้ หรือใช้แพยาง ห่วงยางเป่าลมที่เราเตรียมไว้
2.11 รองเท้าแตะ น้ำหนักเบาแบบใส่สบาย เผื่อกรณีรองเท้าหลักที่เราใช้
เดินทางเกิดขาดหรือทรยศกัดเท้าเราขึ้นมา สุขภาพเท้าเป็นสิ่งสำคัญมากใน
การเดินทางไกล เลือกรองเท้าชนิดที่ทนทานจริงๆ ควรเลือกแบบสวม
มากกว่าแบบหนีบ เพราะแบบหนีบนั้นถ้าเดินนานๆอาจเจ็บง่ามนิ้ว แบบที่
สวมแล้วมีที่ล๊อคส้นช่วยให้ไม่หลุดลอยไปกับน้ำ รองเท้าหลักที่ใช้ควรเป็น
รองเท้าเดินป่าหรือรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ เพื่อป้องกันอันตรายและสัตว์มีพิษ
รองเท้าดอกยางเล็กเหมาะกับในเมืองแต่จะลื่นง่าย เวลาเดินป่าหรือขึ้นเขา
ควรเลือกดอกยางใหญ่หน่อย และควรเอาออกมาใช้บ่อยๆจนเชื่อมั่นว่าจะ
สามารถใช้เดินทางได้จริงโดยไม่ทรยศมากัดเท้าเราจนเป็นอุปสรรค สิ่งของ
ที่ลอยมากับน้ำท่วม เช่น รองเท้า อาจนำมาใช้ได้แต่ต้องฆ่าเชื้อเสียก่อน
2.12 ของใช้ส่วนตัว เช่น แปรงสีฟัน แชมพู สบู่ ที่โกนหนวด กรรไกรตัด
ผม ชุดชั้นใน ถ้าเตรียมไว้มากเกินไปก็หนัก แต่ถ้าไม่มีเลยก็ลำบาก ของ
จำเป็นสำหรับผู้หญิงคือผ้าอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอดจะสะดวกคล่องตัว
ผ้าอนามัยแบบปกติใช้ซับห้ามเลือดได้ ถุงยางอนามัยก็อาจจะดัดแปลงใช้
ประโยชน์ได้ เช่น ใส่น้ำ ผูกมัดสิ่งของ ทำแพ
2.13 เชือกเส้นใหญ่ ความยาวประมาณ 10 - 20 เมตร ต่อคน สามารถใช้
ช่วยคนตกน้ำหรือผูกสิ่งของไม่ให้ลอยไปกับน้ำ มัดของที่ลอยน้ำเพื่อทำแพ
ชั่วคราว ลองทบทวนวิธีการผูกเงื่อนต่างๆไว้บ้างก็ดี
2.14 เชือกเส้นเล็ก ใช้มัดมีดติดกับไม้ยาวๆทำเป็นหอกป้องกันตัวหรือสอย
เก็บผลไม้ อาจใช้ขึงผ้าใบทำเต๊นท์ชั่วคราว ใช้ทำห่วงจับงู มัดเหนือแผลที่
โดนงูกัด ต้องระวังงูและสัตว์มีพิษที่หนีน้ำท่วม ไหมขัดฟันนอกจากใช้ขัด
ฟันแล้วยังเป็นเชือกที่เหนียวดีทีเดียว
2.15 วิทยุสื่อสาร (ว. แบบที่ใช้ในหน่วยกู้ภัยหรือ รปภ.) มีไว้ติดตามข่าว
ก่อนเกิดเหตุและขอความช่วยเหลือ จะใช้ได้ในช่วงที่ภัยพิบัติยังไม่รุนแรง
แต่ปัญหาคือเมื่อไฟดับก็จะไม่มีที่ชาร์จแบต ราคาประมาณ 3,000 บาทขึ้น
ไป ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยต้องมีวิทยุ AM/FM แบบที่ใช้ถ่านหรือ
แบตเตอรี่เพื่อฟังข่าวการเตือนภัยและข่าวการให้ความช่วยเหลือ
2.16 เครื่องเล่น MP3 และวิทยุ AM/FM เอาไว้ฟังธรรมะและข่าวสารจาก
ทางราชการหรือจากวิทยุท้องถิ่น อย่างในภาพยนตร์เรื่อง I Am Legend ที่
ประกาศตามหาผู้รอดชีวิตผ่านทางคลื่นวิทยุ
2.17 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือแบบใช้มือหมุนเป็นแบบไดนาโม
ราคาประมาณ 200 บาทขึ้นไป เอาไว้ชาร์จไฟอุปกรณ์ เช่น วิทยุและเครื่อง
เล่น MP3 ที่เราบันทึกเสียงธรรมะเสียงสวดมนต์ไว้ฟัง ถึงแม้ระบบสื่อสาร
โทรศัพท์มือถืออาจจะล่มใช้การไม่ได้ แต่ก็อาจชาร์จไฟไว้เพื่อเล่นเกมส์แก้
เซ็ง แต่อันที่จริงไม่แนะนำให้เล่นเกมส์เพราะช่วงนั้นเราควรตื่นตัวระวังภัย
ตลอดเวลา ถ้าฟุ้งซ่านควรสวดมนต์ ทำจิตใจให้เป็นกุศล
2.18 อุปกรณ์และหนังสือการปฐมพยาบาล คู่มือการกดจุดที่เท้าและร่างกาย
การบำบัดด้วยกัวซา คู่มือการใช้สมุนไพร คู่มือการเอาชีวิตรอดในภัยพิบัติ
คู่มือเหล่านี้อาจใช้บำบัดอาการเจ็บป่วยบางอย่างได้ในยามไกลหมอ ความรู้
ด้านการแพทย์ทางเลือกระบุว่า การดื่มน้ำปัสสาวะช่วยแก้ไขอาการเจ็บป่วย
ได้มากมาย เช่น ไข้มาลาเรีย เจือจางกับน้ำใช้ทำเป็นยาหยอดตา เรียกว่า
น้ำมูตรเน่าเป็นยารักษาโรคที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสบอกไว้แก่พระสงฆ์
2.19 เสื้อผ้าชุดหลัก คือชุดที่เราใช้เดินทางไกล เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว
เพื่อป้องกันร่างกายจากการถูกขีดข่วน ป้องกันเวลาล้มตัวลงหมอบคลาน
แนะนำเนื้อผ้าแบบที่ทหารใช้ ไม่แนะนำกางเกงยีนส์เพราะอุ้มน้ำและไม่
คล่องตัวเวลาปีนป่าย รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่เหมาะกับการเดินป่า ควร
เป็นแบบที่หุ้มข้อ ควรเตรียมเสื้อผ้าไว้ในเป้เพราะไม่แน่ว่าในวันที่มีเหตุ
ฉุกเฉินนั้นเราอาจกำลังนอนหลับหรือทำงาน เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนนั้นอาจ
เป็นชุดนอนหรือชุดอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่เหมาะกับการเดินทางไกล ถ้ามีเหตุ
ฉุกเฉินเราก็เพียงคว้ากระเป๋าที่เราเตรียมไว้ ในระหว่างทางพอมีโอกาสแล้ว
เราค่อยเปลี่ยนเป็นชุดที่เราเตรียมไว้แล้วค่อยเดินทางต่อไป
2.20 เสื้อผ้าลำลอง 1 - 2 ชุด เผื่อว่าเสื้อผ้าชุดหลักเราเปียกน้ำ จะได้ไม่ต้อง
เปลือยขณะที่เรารอให้เสื้อผ้าแห้ง ไม่ควรใช้เสื้อผ้าสีดำเพราะยุงชอบ
2.21 ถุงเท้า ถุงมือ หมวกไหมพรม ส่วนปลายของร่างกายเป็นจุดที่ร่างกาย
สูญเสียความร้อนได้ง่าย ถุงมือยังช่วยในการปีนป่าย การจับไต่เชือก
2.22 หมวกนิรภัยแบบวิศวะกรหรือหมวกกันน๊อค ป้องกันลูกเห็บ ของแข็ง
ตกใส่ คนปาหินทำร้าย
2.23 บุหรี่ ใช้ผูกมิตรกับใครบางคน เอาไปแลกกับอะไรบางอย่าง อาจแกะ
มวนบุหรี่เพื่อเอาเส้นยาสูบออกมามาผสมน้ำทาตัวช่วยไล่ยุง แมลงและทาก
3. กระเป๋าใบที่สาม กระเป๋าเสบียงอาหาร กระเป๋าใบนี้ควรเป็นกระเป๋าที่มี
ล้อเลื่อนเพื่อให้เราเข็นหรือลากได้ หรืออาจใช้รถเข็นแบบที่ใช้ในซุปเปอร์
มาร์เก็ต หรือรถเข็นแบบพับได้ที่แม่ค้าขายเสื้อผ้าแถวประตูน้ำใช้ กระเป๋า
นี้เราจะบรรทุกเสบียงอาหารและน้ำที่เรามีทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆที่
เราแบกไม่ไหว กระเป๋านี้ควรมีกันทุกคนเผื่อว่าต้องอพยพออกจากบ้านหรือ
ที่หลบภัยแล้วหากเกิดพลัดหลงกันหรือกระเป๋าบางส่วนเกิดสูญหาย
3.1 อาหารแห้งหรืออาหารกระป๋องที่กินได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องปรุงหรือ
ก่อไฟ เก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น อย่าลืมดูวันหมดอายุ เลือกอาหาร
ที่เบาหรือชิ้นไม่ใหญ่แต่ให้พลังงานสูง เช่น พวก Energy Bar และ
พวกช็อคโกแลต ส่วนผลไม้อบแห้งบางอย่างเช่น ลูกเกด ก็ให้พลังงานสูง
อาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบรไฮเดรตให้พลังงานไม่นานเท่าโปรตีนและ
ไขมัน เนยถั่วแบบที่ใช้ทาขนมปังจึงเป็นตัวเลือกที่ดี มีทั้งน้ำตาล โปรตีน
และไขมัน พระมหาชนกเมื่อท่านทรงทราบว่าเรือจะจม ท่านก็เตรียมคลุก
น้ำตาลกรวดกับเนยเป็นเสบียงเสวยจนเต็มท้อง มีผู้แนะนำว่าในช่วงวิกฤติ
ของภัยพิบัตินั้นห้ามกินเนื้อสัตว์ กินได้แต่ผักผลไม้แต่ต้องใช้ด่างทับทิม
ล้างก่อนทุกครั้ง โปรตีนจากถั่วช่วยทดแทนโปรตีนจากสัตว์ได้
3.2 น้ำดื่ม น้ำเปล่าดีที่สุด อย่างน้อย 1 – 2 ลิตร / ต่อคน / ต่อวัน น้ำมีไว้
สำหรับดื่มเท่านั้น อาจไม่มีการอาบน้ำ ล้างจาน ราดส้วมหรือใช้ฟุ่มเฟือย
คนเราอดอาหารได้เป็นเดือนแต่ถ้าขาดน้ำ 7 วันเราก็ตายได้ อาจต้องมีการ
นำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ นั่นคือการเก็บน้ำปัสสาวะของตัวเองไว้
3.3 สัมภาระอื่นๆ เช่น เครื่องปั่นไฟ เชื้อเพลิงจุดไฟ น้ำมัน แบตเตอรี่
เอกสารความรู้ต่างๆที่มีประโยชน์ ถุงขยะสำหรับขับถ่ายและใส่ขยะ ใน
ยามที่น้ำท่วมอาจไม่มีที่ให้ทิ้งขยะและไม่มีห้องน้ำให้ใช้ขับถ่าย เมล็ดพันธุ์
พืช เครื่องมือซ่อมแซมที่หลบภัย เช่น ค้อน ตะปู ลวด เทปกันน้ำ
4. ยานพาหนะ มอเตอร์ไซค์อาจคล่องตัวกว่ารถยนต์ อย่าลืมน้ำมันสำรอง
ถ้าใช้จักรยานอย่าลืมที่สูบลมและยางในล้อจักรยานไว้เปลี่ยน เรือก็มีความ
จำเป็นเพราะถนนหนทางโดนน้ำท่วมพังพินาศ เรือช่วยไม่ให้ถูกตัดขาด
จากโลกภายนอกและปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้าในน้ำ ในช่วงแรกที่เกิดน้ำ
ท่วมฉับพลันรุนแรง เจ้าหน้าที่อาจยังไม่ได้ตัดกระแสไฟ ต้องระวังว่าเสาไฟ
ที่ล้มหรือสายไฟที่ขาดปล่อยกระแสไฟลงสู่น้ำ
5. ที่หลบภัย นำมากล่าวไว้สุดท้ายแต่มีความสำคัญที่สุดเพราะต่อให้มีการ
เตรียมตัวดีอย่างไร แต่ไม่มีการเตรียมสถานที่หรือไม่อพยพไปสู่สถานที่ซึ่ง
ปลอดภัยก็ย่อมมีอันตรายอย่างแน่นอน ทุกพื้นที่อาจได้รับภัยพิบัติทั้งหมด
แต่ความรุนแรงจะแตกต่างกันไป ในยามมีภัยพิบัติอาจมีทั้งหน่วยราชการ
โรงเรียนและวัดที่เปิดรับเป็นที่ให้พักพิงหลบภัย แต่แนะนำให้อยู่ในเขตวัด
ที่อยู่บนภูเขาสูงและมีพระอริยะเจ้าซึ่งปฏิบัติเคร่งครัด แผนการรับภัยพิบัติ
ที่ดีที่สุดคือการหลบภัยพิบัติ อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงก่อนจะเกิดภัยพิบัติ
เขียนโดย Admin ที่ 10:27:00 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: บทความ2012-2017